'พรรคหญิงหน่อย' ฟุ้งออกนโยบายเยอะและถูกลอกการบ้านมากที่สุด!

'สุพันธุ์' ไม่สนรัฐบาลลอกนโยบายเศรษฐกิจ ขอแค่ประชาชนได้ประโยชน์ ชูนโยบายเงินด่วนประชาชน ล้างหนี้นอกระบบ ฟุ้งเป็นพรรคที่ออกนโยบายเยอะที่สุด

03 พ.ย.2565 - ที่ตลาดสี่แยกบางนา เขตบางนา นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมคณะลงพื้นที่พบปะประชาชน และทำแฟลชโพล (Flash Poll) เพื่อสำรวจเรื่องหนี้ว่าประชาชนในพื้นที่เป็นหนี้หรือไม่ และเป็นหนี้ประเภทใดบ้างระหว่างหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ

ผลสำรวจพบว่าพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายที่ตลาดสี่แยกบางนานั้นเป็นหนี้มากกว่า 80% และส่วนมากเป็นหนี้นอกระบบ หลังจากนั้น นายสุพันธุ์ และนายปณิธาน ปราศรัยย้ำนโยบายกองทุนเครดิตประชาชนเพื่อคนตัวเล็ก และกองทุนฟื้นฟูหนี้เสีย

นายสุพันธุ์กล่าวว่า นโยบายกองทุนเครดิตประชาชนเพื่อคนตัวเล็ก หรือที่เรียกกันว่า กองทุนเงินด่วนประชาชน จะช่วยแก้หนี้ประชาชนให้กู้ยืมได้ตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท พรรคไทยสร้างไทยได้ออกแบบนโยบายนี้บนฐานคิดเดียวกันกับหนี้นอกระบบ ดึงเอาจุดเด่นของหนี้นอกระบบออกมาคือการกู้ที่ง่าย และ การผ่อนเป็นรายวัน แต่ตัดข้อเสียในเรื่องดอกเบี้ยสูงออกไป โดยจะให้มีดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนจ่ายง่ายเป็นรายวัน เพื่อปลดล็อกหนี้นอกระบบ อีกนโยบายที่ทางพรรคได้นำเสนอในวันนี้คือนโยบายกองทุนแก้หนี้เสีย ตอนนี้ประชาชนจำนวนมากมีปัญหาติดเครดิตบูโร จึงคิดว่าควรตั้งกองทุนฟื้นฟูหนี้เสียขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยจัดการช่วยชำระดอกเบี้ยของคนที่เกิดหนี้เสียขึ้นในช่วงโควิด แล้วนำหนี้เหล่านั้นออกจากเครดิตบูโร ให้โอกาสประชาชนได้กลับไปรีไฟแนนซ์ใหม่ หรือ ซื้อขายหนี้ เปลี่ยนเจ้าหนี้ได้ เพื่อที่จะมีโอกาสได้กู้เพิ่มในอนาคต เป็นการปลดล็อกหนี้เสียอีกทางหนึ่ง

นายสุพันธุ์ให้สัมภาษณ์อีกว่า ที่มาลงพื้นที่ในวันนี้ต้องการจะมาสำรวจและรับฟังปัญหาเรื่องหนี้ของพี่น้องประชาชนจริงๆ พบว่าตอนนี้ปัญหาหนี้สินเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพี่น้องประชาชนคนตัวเล็ก จากที่ให้ทีมงานไปทำโพลมา พบว่าผู้คนในตลาดมีหนี้เยอะมาก ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ มีพี่น้องประชาชนเดินมาบอกว่า ตอนนี้เจอดอกเบี้ยโหดถึงร้อยละยี่สิบ ทำงานขายของตอนเช้า บ่ายๆเย็นๆ ก็ต้องใช้หนี้ หลายคนเป็นหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ โดยเฉพาะในช่วงโควิดที่หลายคนทำมาหากินไม่ได้ ตนและพรรคไทยสร้างไทย เชื่อว่านโยบายกองทุนเครดิตประชาชนเพื่อคนตัวเล็ก หรือกองทุนเงินด่วนประชาชน 50,000 บาท และ กองทุนฟื้นฟูหนี้เสียจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ของประชาชนคนตัวเล็กได้ และปลดล็อกหนี้ ปลดล็อกเศรษฐกิจได้

“ไม่สนใจว่านโยบายที่ออกมาจะโดนลอกไปกี่นโยบาย แม้แต่สโลแกนแก้หนี้เติมทุน ที่เคยออกไป ก็โดนรัฐบาลนำไปใช้ว่า แก้หนี้เพิ่มทุน ก็ไม่กังวลเพราะถือว่าอย่างน้อยประชาชนได้ประโยชน์ ขอเพียงแต่ว่าทำให้ได้จริง และทำให้เป็น แต่อยากตั้งคำถามว่าจะทำเป็นหรือไม่ เพราะแม้แต่สโลแกนยังคิดเองไม่ได้แล้วจะมีความสามารถพอที่จะนำนโยบายของพรรคไปปรับใช้ได้หรือไม่ ก็ไม่แน่ใจเช่นกัน ลอกแก้หนี้เติมทุนไม่เป็นไร ขอให้เอาไปใช้แล้วทำได้จริง ถ้าประชาชนดีขึ้น เห็นด้วย เราเป็นพรรคที่ออกนโยบายเยอะที่สุด แล้วโดนลอกตลอด เพราะเราต้องการให้เศรษฐกิจดีขึ้นและคนตัวเล็กได้ประโยชน์”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ปชน.' จัดเต็ม 13 ชม. ถลกนโยบายรัฐบาลอิ๊งค์ ยังไร้สัญญาณจาก 'พปชร.'

'ปกรณ์วุฒิ' พอใจฝ่ายค้านได้ 13 ชม. ถลกนโยบายรัฐบาล 'แพทองธาร' เผย 'พปชร.' ยังไม่มาคุยจัดสรรเวลา จี้ 'ครม.' ตอบให้ตรงคำถาม จ่อทวงความชัดเจน 'ดิจิทัลวอลเล็ต'

งบ68 ฉลุย เช็กเสียงโหวต รัฐบาลไม่แตกแถว 4 สส.ปชป.งดออกเสียง กลุ่มบ้านป่าฯไม่เห็นด้วย 9

งบ68 ฉลุย สภาฯเท 309 เสียงหนุน ส่งต่อสว.ถกต่อ 9-10 ก.ย.นี้ เช็กเสียงโหวต รัฐบาลไม่แตกแถว 4 สส.ปชป. งดออกเสียง 'ก๊วนผู้กอง' หาย 1 ขณะที่กลุ่มบ้านป่าไม่เห็นด้วย 9 เสียง ส่วน'หัวหน้ามุ้ง' หายเหมือนเดิม 'พรรคเจ๊หน่อย' 3 สส.เจ้าเก่าโหวตหนุนรบ.

เปิดจำนวนเสียงสส.รัฐบาล-ฝ่ายค้าน 493 เสียง ในทางพฤตินัย ใครอยู่ฝั่งไหนกันแน่

ภายหลังจัดคณะรัฐมนตรี(ครม.)น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีการจับขั้ว ย้ายขั้วกันใหม่ ทำให้เสียงในสภาทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ

'สุดารัตน์' ฟาดแรงการเมืองเลอะเทอะ ไร้จริยธรรม หลอกล่อคนพรรคอื่นร่วมรัฐบาล

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า เมื่อสักครู่ มีเพื่อนส่งข่าวนี้ให้ดิฉันดู ตามข่าวมีความปรากฏว่า “ นายสรวงศ์(เลขาธิการพรรคเพื่อไทย) เดินหน้าหาพันธมิตรแบบ ยกพรรคและยกก๊วน

ไทยสร้างไทย ขับ 'สุภาพร สลับศรี' สส.ยโสธร พ้นพรรค เซ่นโหวตนายกฯอุ๊งอิ๊ง

คณะกรรมการวินัยและจริยธรรม ของพรรคไทยสร้างไทย ได้ประชุมตามที่ได้รับมอบหมายจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค และดร.โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม ซึ่งทั้งสองท่านอยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่ประเทศจีน ให้ดำเนินการสอบสวนจริยธรรมของ สส. ทั้ง 6 คน เป็นรายบุคคล