โฆษกเพื่อไทยบี้รัฐบาลช่วยประชาชนจมบาดาลแนะเร่งฟื้นฟูอาชีพจัดระบบข้อมูลเยียวยา
30 ต.ค. 2565- นส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือ กลาง และตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงบางพื้นที่ในภาคใต้ ต่อเนื่องยาวนานมานานหลายเดือน จนถึงปัจจุบันยังไม่เห็นความชัดเจนในเรื่องของเวลาการจ่ายเงินเยียวยาความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงมาตรการในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายภายหลังน้ำลด แม้รัฐบาลจะประกาศแนวทางคร่าวๆในการเยียวยาความเสียหายมาบ้างแล้ว แต่ในระหว่างนี้ ปัจจุบันหลายพื้นที่ยังถูกน้ำท่วมบ้านมิดหลังคา พื้นที่ทางการเกษตรและพื้นที่ทางเศรษฐกิจได้รับความเสียหาย ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานอย่างปัจจัยสี่ที่มนุษย์ทุกคนพึ่งได้รับ ทั้งยารักษาโรค อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัยที่เพียงพอ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกฎเหล็ก 180 วันของ กกต.ที่ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน หรือผู้ที่อาสาช่วยเหลือไม่สามารถทำได้ทั้งที่อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน เข้าใจถึงหัวจิตหัวใจของพี่น้องประชาชนมากที่สุด แต่ถึงอย่างไรแม้ฝ่ายค้านไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้ รัฐบาลก็ไม่ควรช่วยเหลือประชาชนล่าช้า
นส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า ขอเสนอแนะให้รัฐบาลที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปลี่ยนวิธีคิดในการทำงานให้ทันท่วงทีต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยต้องเร่งดำเนินการดังนี้
1.เร่งวางแผนฟื้นฟูโอกาสที่เสียไป ฟื้นฟูอาชีพและช่องทางทำมาหากินให้เป็นระบบอย่างชัดเจน
2.จัดระบบข้อมูลการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายให้มีมาตรฐาน อย่าให้มีการทุจริต เพราะคาดการณ์ว่าการเยียวยาจะกินเวลายาวนานกว่าอายุรัฐบาลนี้แน่นอน ซึ่งฝ่ายค้านจะติดตามตรวจสอบการจ่ายเงินอย่างใกล้ชิด
3.การเยียวยาต้องมาพร้อมกับการสร้างอาชีพและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการรายย่อยและรายจิ๋วที่ประสบปัญหา เพราะที่ผ่านมาถูกซ้ำเติมจากวิกฤตโควิดและน้ำท่วมอีก สินเชื่อที่ปล่อยกู้ 100,000 บาท/รายผ่าน ธ.ก.ส.ยังถือว่าดอกเบี้ยที่ 4% สูงมากเกินไป เกินกว่าที่ประชาชนจะสามารถจ่ายไหวในสถานการณ์นี้ รัฐบาลต้องเห็นใจประชาชนให้มากกว่านี้
“อยากให้รัฐบาลลดเวลาคิดถึงอนาคตทางการเมืองของตัวเองให้น้อยลง แล้วทำงานให้ประชาชนมากขึ้นใช้เวลามาขจัดความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนบ้าง อย่ามัวแต่ใช้เวลาไปกับการแก้ไขปัญหาทางการเมืองในพรรคตนเองว่าแคนดิเดตนายกฯจะเป็นใคร อนาคตทางการเมืองของพลเอกประยุทธ์จะเป็นอย่างไร รัฐบาลที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก การเยียวยายังล้มเหลวซ้ำซากอีก มองไม่เห็นหัวใจของประชาชนแม้แต่น้อย” นางสาวธีรรัตน์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศปช.เร่งโอนเงินเยียวยาน้ำท่วม 9 พันบาท ใน 5 จังหวัด ย้ำลงทะเบียนภายใน 15 ม.ค.นี้
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศปช. รับทราบการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรณึพิเศษ 9,000 บาท รอบที่ 5 ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ตรัง สงขลา ยะลา และนครศรีธรรมราช วันที่ 6 และ 7 ม.ค. 68 นี้ “กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยคาดว่าธนาคารออมสินจะโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ
เหล่าดาราร่วมสนุกงานกาชาด 'มูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ' ปลื้มเตรียมส่งความสุขต่อต้นปี
บรรยากาศภายในงาน "กาชาด 2567" ที่จัดขึ้นไปแล้วระหว่างวันที่ 11-22 ธ.ค.ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะที่บูธของ "มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์" ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก
นายกฯ โต้กระแสดราม่า ลั่นรัฐบาลนี้จ่ายเงินเยียวยาเร็ว น้ำท่วมภาคไหนก็ดูแลเท่ากัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ ขอเพิ่มกรอบเงินทดลองของจังหวัด จาก 20 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท ในจังหวัดที่ผู้ว่าฯประกาศเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 6 จังหวัด คือ จ.นครศรีธรรมราชสุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส
นายกฯ สั่งเร่งเยียวยาน้ำท่วมภาคใต้ เคาะ ธกส. ปล่อยสินเชื่อฉุกเฉินปลอดดอกเบี้ย 6 เดือน
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้าช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนอย่างเต็มที่ โดยล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรี
'ครม.สัญจร' จัดหนัก! เทงบ 1.9 หมื่นล้าน 'เชียงใหม่-เชียงราย'
'ครม.สัญจร' เทงบ 1.9 หมื่นล้าน โครงการเร่งด่วน-ระยะยาว 2 จังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย พร้อมไฟเขียวมาตรการเยียวยาน้ำท่วมทั่วประเทศ
'ภูมิธรรม' เรียก ศปช. ประชุมด่วน เคาะงบเยียวยาอุทกภัยกว่า 3 พันล้าน ชงครม.สัญจร
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ครั้งที่ 2/2567 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีคณะทำงาน และผู้แทนภาคส่วนต่าง ๆ เข้าร่วมประชุม