'ประยุทธ์' ร่ายยาวสไตล์ทำงาน รับแข็งกร้าวทำให้เสียเพื่อนแต่ต้องแลกเพื่อประเทศ!

'บิ๊กตู่' เปิดใจร่ายยาวสไตล์บริหารประเทศ บอกยึด 3 คำ 'ทำให้สำเร็จ' โวทำระบบขนส่งราง กทม.เทียบโตเกียว ใกล้เคียงลอนดอน ลั่นเป็นผู้นำต้องอดทน รับความแข็งกร้าวทำให้เสียเพื่อน แต่ต้องแลกมาเพื่อทำสิ่งยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นจริง

27 ต.ค.2565 - เมื่อเวลา 10.15 น. ที่ห้อง A1 บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Accelerating Thailand (พลิกโฉมประเทศไทย)” ตอนหนึ่งว่า วันนี้ขอแชร์วิสัยทัศน์ที่มีต่อประเทศไทย และแนวทางในการทำงานของตนในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าให้ทุกคนได้ทราบ ซึ่งหลักการสำคัญ ที่เป็นแนวทางการทำงานสรุปได้ในสามคำ คือ“ทำให้สำเร็จ” (GET THINGS DONE) คือการทำสิ่งต่างๆ ให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ และเตรียมประเทศให้พร้อม สำหรับอนาคต

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายปีมาตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ความขัดแย้งทางการเมืองเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รัฐบาลไทยหลายยุคหลายสมัย มีความยากลำบากอย่างมาก ในการทำเรื่องสำคัญ ที่จำเป็นต่อการเดินหน้าประเทศให้เกิดขึ้น ซึ่งผลที่ตามมาคือทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย บนเวทีระดับโลกค่อยๆ ลดลง และคนไทยกว่า 70 ล้านคนสูญเสียโอกาสมากมายที่ควรจะมี ทั้งๆ ที่พวกเราอยู่ในประเทศที่มีพร้อมทุกอย่าง อย่างประเทศไทย

“การที่ผมต้องทำสิ่งต่างๆ ให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ เพราะผมมีเป้าหมายเพื่อทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า บนเส้นทางที่จะเติบโต และเจริญรุ่งเรืองไปทั่วทุกหย่อมหญ้า อย่างยั่งยืน เป็นเส้นทางที่เราคนไทยจะต้องจับมือไปด้วยกัน และจับมือกับประเทศเพื่อนบ้านและสังคมโลกด้วย แต่เรื่องใหญ่ๆ ที่เราต้องทำมีเยอะมากเกินกว่าที่เราจะทำได้ทั้งหมด พร้อมๆ กัน ผมจึงต้องเรียงลำดับความสำคัญ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการพุ่งเป้าไปที่การยกระดับความมั่งคั่งของทั้งประเทศ แบบที่จะกระจายความเจริญรุ่งเรืองไปทั่วทุกพื้นที่ เพิ่มเติมจากพื้นที่ ที่มีความเจริญอยู่แล้ว เราต้องทำเรื่องที่จะสร้างประโยชน์ ให้กับคนทุกระดับในสังคมทั้งประเทศ สร้างพื้นฐานที่เอื้อให้ประชาชนสามารถทำมาหากิน สร้างความกินดีอยู่ดีให้กับตัวเขาเองได้ บนเส้นทางที่ยั่งยืน ดังที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงตรัสไว้เมื่อ 24 ปีก่อนว่าเราไม่ควรให้ปลาแก่เขา แต่ควรจะให้เบ็ดตกปลาและสอนให้เขารู้จักวิธีตกปลา ที่ผ่านมา ได้ให้ความสำคัญอย่างมาก กับการสร้างความรุ่งเรืองให้กับคนไทย ในทุกระดับของสังคมเพราะมันคือการสร้างพื้นฐานที่มั่นคงแข็งแรง ให้เกิดขึ้น เพื่อที่เราจะเดินหน้าไปสู่การปรับแก้สิ่งต่างๆ ที่เป็นประเด็นทางสังคม ทั้งเรื่องความยุติธรรมในสังคม และความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงโอกาสทำมาหากิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือพื้นฐานที่จะทำให้สังคม อยู่กันอย่างสงบสุขและมั่นคง และเป็นหนทางที่ดีที่สุด ที่จะนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า ซึ่งสาเหตุที่ได้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ 3 แกนอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงวิกฤตโควิดก็ตาม

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ใช้เวทีดังกล่าวโชว์วิสัยทัศน์ผลงานที่ผ่านมา กว่า 30 นาที โดยเฉพาะผลงานด้านการคมนาคมการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ โครงสร้างพื้นฐาน โดยกล่าวว่า ทุกคนทราบกันดีว่า การสร้างความมั่งคั่งให้แผ่กระจายไปทั่ว อย่างกว้างขวางไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีการแบบเร่งรีบ ฉาบฉวยหรือการแจกเงิน แต่เราต้องทำให้ประเทศมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง มีสิ่งพิสูจน์ ให้เห็นมาแล้วเป็นร้อยๆ ปีว่า คือวิธีการที่ดีที่สุดในการเร่งสร้างความมั่งคั่งให้กับประชาชน ในทุกระดับของประเทศ ตนได้ริเริ่มโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เป็นโครงการที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง อย่างบูรณาการเหมือนการต่อจิ๊กซอว์ใหญ่ ซึ่งเมื่อทุกส่วนแล้วเสร็จและเปิดให้บริการจะเป็นการเปิดประตูเดินหน้าสู่ช่วงเวลาที่จะเป็นยุคแห่งความรุ่งเรืองที่สุด ยุคหนึ่งของประเทศไทย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ดีใจที่จะบอกว่าวันนี้เราเดินมาได้ไกลแล้ว ถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับโรคระบาดร้ายแรง แต่เรายังคงสู้อยู่บนเส้นทางที่มุ่งไปสู่เป้าหมาย ต้องขอขอบคุณความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาล ความใจสู้ของข้าราชการไทย ความไม่ยอมแพ้ของภาคเกษตรกรและภาคเอกชน และที่สำคัญที่สุด คือสปิริตของคนไทย ที่พร้อมร่วมมือกัน และเต็มใจที่จะเสียสละบางอย่าง เพื่อประโยชน์ของประเทศในวงกว้าง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานระบบรางเดินหน้ามาได้ไกลมาก เช่นเดียวกับการสร้างระบบรางที่ทันสมัยสำหรับประเทศไทย ในเวลาแค่ 5 ปีที่ผ่านมาเราได้ก่อสร้างเส้นทางรถไฟ เป็นระยะทางที่มากกว่าระยะทางทั้งหมดที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ซึ่งใช้เวลา 50 ปีกว่าจะสร้างเสร็จ และภายในอีกแค่ 2 ปีข้างหน้า เส้นทางรถไฟที่เราก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเป็นระยะทางที่มากกว่าถึง 4 เท่า เทียบกับระยะทางทั้งหมดที่ก่อสร้างมาใน 50 ปีก่อนหน้านี้ อีกทั้ง ระบบขนส่งมวลชนทางรางในเมือง ก็เช่นเดียวกัน เราได้ขยายเส้นทางของระบบขนส่งมวลชนทางรางในเมืองทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระยะทางและจำนวนสถานีของระบบขนส่งมวลชนทางรางในเมือง ที่เคยใช้เวลาสร้างถึง 20 ปี แต่วันนี้ เราใช้เวลาเพียง 5 ปี ทำได้มากกว่า และเรากำลังสร้างเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ ในอีก 3 ปีข้างหน้า

“ผมจะทำให้ระบบขนส่งมวลชนทางรางในเมืองของกรุงเทพฯ อยู่ในระดับเดียวกับที่โตเกียว และใกล้เคียงกับที่ลอนดอน ในเรื่องของระยะทางและจำนวนสถานี”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอเรียนว่า ถ้าเราจะเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ จะต้องมีความอดทนและเข้าใจเมื่อผลที่ได้ อาจจะไม่เพอร์เฟ็ค แต่ก็เพื่อจะให้ชิ้นงานต่างๆ เกิดขึ้นได้

“ผมรู้ว่า ถ้าเรามองสไตล์การทำงานแบบนี้ หลายท่านอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจ แต่ก็เป็นวิธีการบริหารที่ผมเชื่อว่า สังคมจะเดินหน้าไปได้โดยไม่ทิ้งรอยแตกร้าวอย่างถาวร ระหว่างคนกลุ่มต่างๆ และเมื่อผมทำงานในสไตล์นี้ ท่านอาจสงสัยว่าทำไมบางทีผมใจร้อนเกินไป หรือบางทีใจเย็นเกินไป ก็เพราะผมพยายามผสมผสานความแข็งกร้าวเพื่อที่จะให้งานเดินหน้า กับความยืดหยุ่นเพื่อที่จะให้หลายกลุ่มหลายฝ่ายเดินไปด้วยกันได้ ซึ่งแน่นอนว่าหลายครั้งผมอาจจะไม่ได้ทุกอย่างตามที่ผมต้องการ ผมจึงต้องเรียงลำดับความสำคัญว่า อะไรที่ผมต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ และอะไรที่ผมควรปล่อยผ่านไปก่อน ผมตระหนักดีว่า บางครั้งความแข็งกร้าวของผม ทำให้ผมต้องเสียเพื่อน แต่มันเป็นสิ่งที่ผมต้องยอมแลก เพื่อจะทำสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับประเทศ ให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ วันนี้ผมจึงขอให้ทุกคนเข้าใจในความตั้งใจของผม ที่พยายามที่จะขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ ให้เกิดขึ้นจริงให้ได้” พล.อ.ประยุทธ กล่าวและว่าทั้งหมดตั้งเป้าที่จะทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จเรียบร้อย ภายในไม่เกิน 12 เดือนข้างหน้านี้และเมื่อเราทำสำเร็จได้ ก็จะเป็นเหมือนเราเร่งเครื่องผ่านเนินเขาช่วงที่ชันที่สุดไปได้ แล้วประเทศไทยก็จะวิ่งต่อไปข้างหน้า สู่การเป็นประเทศผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกได้ ในที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หน้าที่ของตนเองคือพยายามบริหารจัดการขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ที่บางครั้งอาจมีอุปสรรค มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้าง ซึ่งในมุมมองของคนภายนอกอาจเห็นว่ามีแต่เรื่องวุ่นวาย แต่ในที่สุดแล้ว ขอให้ดูผลลัพธ์ที่โครงการเหล่านั้นเกิดขึ้นได้จริงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องต่างๆ เป็นเรื่องปกติของประชาธิปไตยที่แข็งแรง แต่เราไม่ควรที่จะไขว้เขว หรือเสียสมาธิไปจากเรื่องใหญ่ๆ เรื่องสำคัญๆ ของประเทศ เพราะเรารู้ว่า ในที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรมาทดแทนผลงานจริงได้ และสิ่งสำคัญของประเทศก็จะไม่เกิด นั่นคือเหตุผลที่เลือกใช้เวลา มุ่งมั่นไปกับการทำงานใหญ่ให้กับประเทศ ทำให้มันเกิดขึ้นจริงให้ได้ และเตรียมประเทศเราให้พร้อมสำหรับอนาคต ขอให้ทุกคนมั่นใจว่า เราได้เดินหน้ามาจนเกือบจะถึงจุดหมายแล้ว ในการสร้างพื้นฐานที่ครบครันและครอบคลุมที่จะเป็นฐานที่แข็งแรงของประเทศที่มีความพร้อม เพื่อให้ภาคเอกชนได้ร่วมกันสร้างประเทศต่อไป ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ เราทุกคนจะได้ร่วมกันนำพาประเทศไทยไปสู่อีกยุคหนึ่งของความรุ่งเรืองของประเทศไทย ภายในเวลาอีกไม่นานนี้

“ขอขอบคุณสื่อมวลชน ที่ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ ท่ามกลางสิ่งที่ยากที่สุดในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยข่าวสารที่ผิวเผิน และการใช้อารมณ์ โดยไม่โอนเอนไปตามแนวทางที่จะนำเสนอข่าวสารที่ทำลายสังคม ยั่วยุปลุกปั่น เลือกข้างหรือรุนแรง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทุกท่านทราบดีว่า เป็นการทำลายประชาธิปไตยและความถูกต้องในสังคมไปทีละน้อย”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลุ้น'ธนันท์ชัย'ชิงบัลลังก์โลก จากแชมป์ชาวญี่ปุ่น ช่อง8ยิงจากโตเกียว13ตุลานี้

สัปดาห์นี้ แฟนมวยช่อง 8 ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป เตรียมรับชมความสนุกกับรายการมวยพันธุ์โหด ในวันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม เวลา 17.30 น. รายการ LWC SUPER CHAMP (ลุมพินีเวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ซุปเปอร์แชมป์) และรายการพิเศษชิงตำแหน่งแชมป์มวยโลก NKL BOXING มุ่งบัลลังก์โลก ในวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม เวลา 17.00 น. ถ่ายทอดสด ส่งตรงจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยความสนุกที่แฟนมวยไม่ควรพลาดของคู่ชกในรายการต่างๆ มีดังนี้

'พีระพันธุ์' ยัน รทสช.หนุนแคนดิเดตจากเพื่อไทยแต่ต้องไม่มีเรื่อง 112

'รทสช.' ยันจุดยืนหนุนแคนดิเดตเพื่อไทยเป็นนายกฯต่อ แต่ต้องไม่แก้ ม.112 ยังไม่เคาะชื่อ 'ชัยเกษม นิติสิริ' หลังถามเรื่องสุขภาพ ลั่นไม่มีข้อตกลงบ้านจันทร์ส่องหล้า ด้านนโยบายเงินหมื่นรอ 'พท.' ชี้แจง

ประมวลภาพ 'พล.อ.ประยุทธ์-ทักษิณ' ร่วมงานพระราชทานเพลิงศพมารดาเศรษฐา

บรรยากาศงานพระราชทานเพลิงศพนางชดช้อย ทวีสิน มารดาของนายกรัฐมนตรี นายทักษิณได้เดินไปทักทาย พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ทั้งคู่ได้ยกมือไหว้ทักทาย และพูดคุยกันเล็กน้อย