ไทยสร้างไทย ซัดรัฐบาลเอื้อนายทุน ทำสัญญาผลิตไฟ มากกว่าใช้จริง 57% เป็นเหตุให้ประชาชนทั้งประเทศต้องทนแบกค่าไฟที่สูงเป็นประวัติการณ์
22 ตค.2565 - ที่พรรคไทยสร้างไทย นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายรณกาจ ชินสำราญ กรรมการบริหาร และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย ได้ร่วมแถลงข่าว ในหัวข้อ “ชำแหละยุทธการตบตาประชาชน ที่ค่าไฟแพง เพราะราคาแก๊สขึ้น หรือเพราะเอื้อนายทุน จนประชาชนต้องรับผลกรรม” ได้ระบุว่า
ที่ผ่านมาประเทศไทยมีปริมาณการใช้ไฟอยู่ที่ประมาณ 33,177 เม็กกะวัตต์ ในขณะที่ตัวเลขการผลิตไฟฟ้ามีมากถึง 52,389 เม็กกะวัตต์ ซึ่งมากกว่าปริมาณที่ใช้จริงถึง 57% โดยที่มาของการผลิตไฟนั้น มาจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ที่ 32% หรือ 16,906 เม็กกะวัตต์ / ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ (IPP) 31% หรือ 16,124 เม็กกะวัตต์ และ ผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก อีก 26% โดยมีตัวเลขการนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศ อยู่ที่ 11% หรือ 5,721 เม็กกะวัตต์
เป็นที่น่าสนใจว่าเหตุใดรัฐบาลถึงปล่อยให้มีการทำสัญญาผลิตไฟที่สูงเกินปริมาณใช้จริงมากถึงขนาดนี้ เพราะโดยทั่วไปแล้ว การสำรองไฟจะอยู่ที่ไม่เกิน 20% ของปริมาณใช้ไฟเท่านั้น แต่สำหรับประเทศไทยนั้นมีตัวเลขสำรองไฟฟ้าสูงถึงเกือบ 60% เป็นเหตุให้ประชาชนต้องทนแบกรับค่าไฟที่สูงขึ้น จากการสำรองไฟที่มากไป โดยถูกคิดไปคำนวนเป็นค่า FT ที่สูงถึง 93 สตางค์ และยังเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เจอวิกฤตพลังงานโลก ส่งผลให้ราคาแก๊สธรรมชาติพุ่งสูง ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของการผลิตไฟ ส่งผลให้ประชาชนคนไทยไม่มีทางเลือก แต่ต้องแบกรับค่าไฟที่แพง ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยมีสภาองค์กรผู้บริโภค (สอบ.) ได้ออกมาเตือนรัฐบาลตั้งแต่ต้นปีแล้วว่า รัฐได้มีการสำรองไฟมากเกินความจำเป็น เป็นต้นเหตุให้ค่าไฟแพง แต่รัฐบาลก็ยังไม่ฟัง และได้ปรับค่า FT ขึ้นอีกรอบตอนเดือนกันยายน
นายรณกาจฯ ได้ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่าช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ทำสัญญาซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่จำนวนมากถึง 16,124 เม็กกะวัตต์ โดยยังไม่นับผู้ผลิตไฟรายเล็ก ซึ่งการมีการสำรองไฟฟ้าถือเป็นเรื่องที่ดี เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ต้องอยู่เกณฑ์ที่เหมาะสม คือไม่ควรมากเกินกว่า 20% แต่รัฐบาลกลับมีการทำสัญญาซื้อไฟฟ้ามากกว่าการใช้งานมากถึงเกือบ 60% ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าการเซ็นสัญญาเหล่านี้ เป็นการเอื้อนายทุนหรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องออกมาชี้แจงเรื่องนี้
โดยทางพรรคไทยสร้างไทย ได้มีข้อเสนอให้รัฐบาลยกเลิกการต่อสัญญาการผลิตไฟฟ้าที่ใกล้หมด เพื่อปรับลดปริมาณการสำรองไฟให้ไม่เกินอยู่ที่ 25% พร้อมเจรจาลดการนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศ และสนับสนุนให้ประชาชนติดโซลาร์ในครัวเรือน เพื่อสามารถผลิตไฟใช้ได้เอง ซึ่งนอกจากจะสร้างความยั่งยืนแล้ว โซลาร์ยังเป็นพลังงานที่สะอาด ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘สุดารัตน์’ บินด่วนไปช่วยผู้ประสบภัยหนองคาย ห่วงน้ำขึ้นเร็วมาก
คุณหญิงสุดารัตน์ โพสต์กำลังเดินทางไปช่วยพี่น้องที่ประสบภัยน้ำท่วมที่หนองคายด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่งค่ะ
งบ68 ฉลุย เช็กเสียงโหวต รัฐบาลไม่แตกแถว 4 สส.ปชป.งดออกเสียง กลุ่มบ้านป่าฯไม่เห็นด้วย 9
งบ68 ฉลุย สภาฯเท 309 เสียงหนุน ส่งต่อสว.ถกต่อ 9-10 ก.ย.นี้ เช็กเสียงโหวต รัฐบาลไม่แตกแถว 4 สส.ปชป. งดออกเสียง 'ก๊วนผู้กอง' หาย 1 ขณะที่กลุ่มบ้านป่าไม่เห็นด้วย 9 เสียง ส่วน'หัวหน้ามุ้ง' หายเหมือนเดิม 'พรรคเจ๊หน่อย' 3 สส.เจ้าเก่าโหวตหนุนรบ.
เปิดจำนวนเสียงสส.รัฐบาล-ฝ่ายค้าน 493 เสียง ในทางพฤตินัย ใครอยู่ฝั่งไหนกันแน่
ภายหลังจัดคณะรัฐมนตรี(ครม.)น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีการจับขั้ว ย้ายขั้วกันใหม่ ทำให้เสียงในสภาทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
'สุดารัตน์' ฟาดแรงการเมืองเลอะเทอะ ไร้จริยธรรม หลอกล่อคนพรรคอื่นร่วมรัฐบาล
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า เมื่อสักครู่ มีเพื่อนส่งข่าวนี้ให้ดิฉันดู ตามข่าวมีความปรากฏว่า “ นายสรวงศ์(เลขาธิการพรรคเพื่อไทย) เดินหน้าหาพันธมิตรแบบ ยกพรรคและยกก๊วน
ไทยสร้างไทย ขับ 'สุภาพร สลับศรี' สส.ยโสธร พ้นพรรค เซ่นโหวตนายกฯอุ๊งอิ๊ง
คณะกรรมการวินัยและจริยธรรม ของพรรคไทยสร้างไทย ได้ประชุมตามที่ได้รับมอบหมายจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค และดร.โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม ซึ่งทั้งสองท่านอยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่ประเทศจีน ให้ดำเนินการสอบสวนจริยธรรมของ สส. ทั้ง 6 คน เป็นรายบุคคล
'อนุสรณ์' ชี้ 6 สส.ไทยสร้างไทย โหวตหนุนแพทองธาร เพราะอยากให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชาชนบางส่วนกำลังขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาล ว่า สิ่งหนึ่งที่ตนคิดว่าสามารถเรียกความเชื่อมั่นได้คือ