‘จาตุรนต์’ ตามบี้ อย่าให้เหตุกราดยิง เป็นอีกเรื่องที่เงียบหาย

17 ต.ค.2565-นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “อย่าให้เหตุกราดยิงเป็นอีกเรื่องที่เงียบหาย ต้องมองภาพเป็นระบบ แล้วลงมือทำให้เห็น” ระบุว่า ผมได้ร่วมรายการสุมหัวคิดกับคุณปลื้ม (ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล) ถึงเรื่องการป้องกันความรุนแรงจากเหตุกราดยิง โดยเฉพาะกรณีที่สร้างความสะเทือนใจกับคนไทยและทั่วโลกอย่าง เหตุสังหารหมู่ศูนย์เด็กเล็ก ต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู จนมีผู้เสียชีวิต 32 รายนั้น ก็ได้ย้อนมองกรณีกราดยิงที่โคราชเมื่อปี 2563 ซึ่ง 2 กรณีผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่รัฐทั้งสิ้น

ผมตั้งข้อสังเกตว่า เป็นปัญหาเชิงระบบ ผมยืนยันความเห็นทำนองนี้เสมอว่า ต้องดูเชิงระบบ ถึงแม้ตัวบุคคลเป็นปัญหาด้วย แต่เมื่อย้อนไปดูว่ามีสาเหตุอย่างไร ก็จะพบว่าเป็นเรื่องเชิงระบบซึ่งสำคัญกว่าการยิงผู้อื่นแล้วยิงคนในครอบครัวแล้วฆ่าตัวตาย เกิดขึ้นบ่อย แต่ไม่ได้มีการศึกษาจริงจังในแง่จิตวิทยา ยิ่งนักจิตวิทยาประเทศนี้มีน้อยมาก แต่การยิงคนจำนวนมากที่เกิดขึ้น 2-4 ครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ อย่างกรณีทหารกราดยิงที่โคราช ผู้ก่อเหตุเข้าถึงอาวุธปืนจำนวนมากได้อย่างไร ทั้งที่ไม่ควร นี่เป็นปัญหาของระบบดูแลอาวุธ

พอครั้งนี้เป็นตำรวจ รู้ว่ามีประวัติออกจากราชการเพราะยาเสพติด เพื่อนตำรวจก็บอกมีอาการคลุ้มคลั่ง บางครั้งคุยกันไม่ได้ คนที่เคยเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและมีความสามารถใช้อาวุธ ถูกให้ออกจากราชการจากยาเสพติด แล้วยังมีปืนอยู่ แต่ สตช.อธิบายว่าปืนซื้อจากสวัสดิการมาเป็นของส่วนตัว แบบนี้ก็ไม่ได้แล้ว ใช้ระบบยังไง สตช.มีหน้าที่ในการจับผู้ร้ายทั้งหลาย ไม่ให้ก่ออาชญากรรมเสียเองด้วยการใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่น เพราะเมื่อเป็นคนของตัวเอง ก็ยิ่งต้องดูต่อว่าจะป้องกันยังไง

เมื่อมาโยงตรงที่ไม่มีระบบ “ผู้เสพเป็นผู้ป่วย” ไปบำบัด ระบบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนเป็นยังไง ในส่วนใบอนุญาตครอบครองปืนที่ใช้กันทั่วไป แต่นี่เป็นตำรวจ จะมีระบบยังไง พอมีประวัติแบบนี้ เขาไม่มีสิทธิ์ถือปืนแล้ว ซึ่งนอกจากเรื่องยาเสพติดแล้ว ยังมีพฤติกรรมเลียนแบบ ก่อเหตุฆ่าคนอื่น ฆ่าคนในครอบครัวแล้วฆ่าตัวเอง ซึ่งเป็นแบบแผน แล้วการนำเสนอในสื่อและอินเตอร์เน็ตนั้น ภาพถูกเผยแพร่แบบไม่เซนเซอร์ ต่างประเทศกำชับมากในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการเลียนแบบ

ผมได้เรียนรู้จากต่างประเทศถึงกรณีนี้ บางเมืองถึงขั้นจัดประชุมสื่อมวลชน ขอร้องหมดว่าต้องไม่เผยแพร่ภาพสยดสยอง หรือคนที่เป็นผู้ก่อเหตุให้ดูเป็นคนสำคัญ นายกฯนิวซีแลนด์ ก็พูดเรื่องนี้ แน่นอนเราคงไม่สามารถแก้ไขได้พร้อมกันหมด ต้องมาดูเรื่องใหญ่ที่ควรแก้ ในต่างประเทศเวลาเกิดเรื่อง เขาผลิตสมุดปกขาว นำผู้เชี่ยวชาญ มีความรู้มาศึกษาจริงจัง ว่าปัญหานี้โยงไปยังปัญหาอะไรบ้าง ใหญ่แค่ไหน จะแก้ยังไง แล้วทำเป็นข้อเสนอแนะยื่นเข้าสู่สภาหรือรัฐบาล แต่เมืองไทยพอเกิดเรื่องทำนองนี้ ก็ไม่ได้ทำ ถ้าคิดจะทำ ก็ไม่ต้องเกรงใจว่า หน่วยงานนั้นจะเสียหน้า หรือหน่วยงานโน่นต่อไปจะไม่ได้งบประมาณ  หรือคนรับผิดชอบจะลำบาก ต้องเลิกคิดแบบนี้แล้วลงมือทำ

ส่วนทำไมควรทำตอนนี้ เหตุที่หนองบัวลำภูนั้นสะเทือนใจคนมากและให้ความสนใจทั้งประเทศ เมื่อคนสนใจ เราต้องใช้โอกาสนี้ในการทำให้เป็นประโยชน์ในการศึกษาหาต้นเหตุ คิดวางแบบเป็นระบบ ซึ่งอาจนำไปสู่ข้อเสนอที่ดี เชิญชวนคนเชี่ยวชาญเข้ามา ไม่ใช่บอกแค่ว่า มีปัญหาติดยา หรือเรื่องเวรกรรม เราก็ติดตามกันไปแต่สุดท้ายไร้ข้อสรุป ซึ่งเป็นการเสียโอกาส

ส่วนเรื่องเพิ่มขั้นตอนถือครองอาวุธปืนของตำรวจนั้น มองว่าแก้ได้แค่บางส่วน แต่ต้องดูว่ามีอะไรใหญ่กว่านั้น แล้วพอมีการศึกษาว่า ไทยมีปืนเถื่อนอีกเป็นล้านกระบอก การพูดเรื่องขออนุญาตปืน เพราะตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จับจุดตามนั้น ไม่ขยายเรื่องเกินเลย แต่ถ้าชวนคุยหลายแง่มุม จะสามารถแก้ปัญหาใหญ่ๆที่เกี่ยวข้องได้ด้วย

นอกจากนั้น เรื่องเรียกเก็บอาวุธปืนเถื่อนนั้น ไทยเองก็ทำมาซักระยะหนึ่งแล้ว ทั้งมาคุยหรือจดทะเบียนในส่วนปืนที่ผลิตถูกต้อง ก็ต้องมาดูเรื่องนี้ต่อว่าทำเมื่อไหร่ ทำยังไง ผมคิดว่าบางเรื่องที่เห็นว่าดีและจะทำก็ทำเลย แต่ถ้ารีบระดมความคิดหาต้นตอปัญหาแล้วมองเป็นระบบ จนเกิดข้อสรุป มีมาตรการเป็นข้อๆ จะบรรลุเป้าหมายได้เยอะกว่านี้ และสังคมจะมีส่วนร่วมพร้อมสนับสนุน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อดีตปธ.กมธ.คมนาคม' บี้ถอดบทเรียนบัสมรณะ เร่งสร้างจิตสำนึกคนขับ-เข้มใช้กม.

'อดีตปธ.กมธ.คมนาคม' ชี้รายงานWHO ไทยครองอันดับ 1 อาเซียน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และอันดับ 9 ของโลก สาเหตุหลักคนขับรถประมาท แนะรัฐบาลถอดบทเรียนโศกนาฏกรรมบัสมรณะ

กมธ.สันติภาพฯ เชิญ กอ.รมน. ชี้แจงปมทหารยึดธงปาเลสไตน์ในขบวนพาเหรดที่นราธิวาส

นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แถลงผลการประชุม

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข

ถอดบทเรียนการแพร่ระบาด 'โควิด' จากตลาดนัดกลางคืน

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ถอดบทเรียนการแพร่ระบาดโควิด-19 จากตลาดนัดกลางคืน (outdoor night market) ซึ่งไม่มีแสงแดด

พอช. ร่วม 3 พื้นที่รูปธรรมภาคอีสาน ถอดบทเรียนเพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่น

ระหว่างวันที่ 22-24 เมษายน 2567 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) โดยสำนักพัฒนาองค์ความรู้และสื่อสารองค์กร ร่วมกับสำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลงพื้นที่ถอดบทเรียน 3 พื้นที่รูปธรรม