แฟ้มภาพ
12 พ.ย.2564 - นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ถึงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่าการกระทำของกลุ่มแกนนำม็อบคณะราษฏร 63 ที่ประกอบด้วย นายอานนท์ นำภา, นายภาณุพงศ์ จาดนอก นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ซึ่งจัดชุมนุมปราศรัยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตเพื่อเสนอข้อเรียกร้อง10 ข้อเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง
โโยนายชาญวิทย์ ระบุว่า ‘ล้มล้างการปกครองฯ’ ว่าปฏิรูป หรือปฏิวัติ Reform or Revolution
My respect to those who fight for Democracy and the People of Thailand
ด้วยจิตคารวะต่อนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และเพื่อราษฎรไทย
(ก)
ผมเศร้าใจและละอายใจ
ที่ทั้งตัวบุคคลและทั้งสถาบัน
กับทั้งเครือข่ายของรัฐข้าราชการทหาร/ตำรวจ/ตุลาการ
ที่กุมอำนาจรัฐไทยอยู่ในขณะนี้
กระทำการทั้งปราบปราม ทำร้ายและทำลายชีวิตคนรุ่นใหม่ ๆ
อย่างไร้มนุษยธรรม
มีทั้งจับกุมคุมขัง (คุก) กระทำการดำเนินคดีความ
โดยไม่ยึดถือตามหลักการณ์ของนิติธรรม และหรือนิติรัฐ
ผมเศร้าใจและละอายใจ
ที่บุคคลและหรือตัวแทนของสถาบันเหล่านี้
ส่วนใหญ่ก็เรียนจบไปจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยเรา
ผมทั้งละอายใจ และขายหน้า
ที่บุคคลที่ได้รับการศึกษาสูงเช่นนี้
สามารถจะกระทำการที่ต่ำช้า
และขัดต่อจิตวิญญาณประชาธิปไตย
ขัดกับหลักการทางวิชาการนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ได้ถึงเพียงนี้
(ข)
ผมเชื่อว่าจากการศึกษาประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของการดำรงอยู่
และ/หรือการล่มสลายของสถาบันกษัตริย์ทั่วโลก
ไม่ว่าจะในเอเชีย หรือยุโรป เช่นในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
หรือในฝรั่งเศส รัสเซีย เยอรมนี ออสเตรีย/ฮังการี อิตาลี
และแม้แต่จักรวรรดิออตโตมัน
กับในจีน และในญี่ปุ่นนั้น
มีข้อสรุปเพียงสั้น ๆ อยู่ที่ว่า
หากมี “การปฏิรูป” ก็อยู่รอด
แต่หากขัดขืนดำเนินไปแบบเดิม ๆ
หรือ แบบทั้งรุนแรง ทั้งร้ายแรง
ก็จะหลีกเลี่ยง “การปฏิวัติ” ที่นองเลือดไปไม่ได้
(ค)
วิชาประวัติศาสตร์ที่ผมเล่าเรียนมา
ไม่ได้สอนผมและ/หรือพวกเราว่า
“ประเทศไทย” ของเราจะเป็นข้อยกเว้น
และไม่เหมือนใครในโลกใบนี้
ผมอยากจะเชื่อว่า “ความเปลี่ยนแปลง”
หรือ CHANGE ครั้งใหญ่มาถึงประเทศไทยของเราแล้ว
ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลและตัวสถาบัน
กับทั้งเครือข่ายของรัฐข้าราชการทหาร/ตำรวจ/ตุลาการ
ที่กุมอำนาจรัฐไทยอยู่ในเวลานี้
จะบริหารและจัดการด้วยกฎด้วยเกณฑ์
ด้วยนิติธรรม ด้วยนิติรัฐ ด้วยสันติประชาธรรม
แทน “กฎของกู/ตัวกู” หรือไม่/เพียงใด เท่านั้นเอง
เวลาและประวัติศาสตร์ จะบอกให้เรารู้ในไม่ช้าไม่นานนี้
ผมขออวยพรให้นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
จงปลอดภัยจากโรคห่ามารร้ายโควิด
ปลอดภัยจากการเมืองทรามของ “คน (ไม่) ดี”
good luck and stay safe
ด้วยความชื่นชม และนับถือในน้ำใจและความกล้าหาญของนักประชาธิปไตยทุกรุ่น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุสรณ์' โวลั่น 'อุดรธานี' ยังคงเป็นเมืองหลวงคนเสื้อแดง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย (พท.)ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี
'กูรู' ย้อนเกล็ด 'แม้ว-สทร.' หมาเห่าโจรปล้นบ้าน!
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊กว่าลุงแม้วประกาศตั้งตำแหน่งตนเอง เป็น สทร.
เสื้อแดงไม่เข็ด 'จตุพร' ชี้เปรี้ยง 'ทักษิณ' โชว์เหลี่ยมต้มอีกแล้ว!
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า การปราศรัยของทักษิณ ชินวัตร ที่อุดร ส่อถึงอาการไม่มั่นใจในผลการพิจารณาคำร้องของศาล รธน. ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 22 พ.ย.นี้
อดีต สว.สมชาย มั่นใจ...จบที่คุก! คดีล้มล้างฯ-ชั้น14 I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน
'เทพไท' ลดชั้น 'เลขาธิการพรรคเพื่อไทย' เป็น 'ลูกจ้างบริษัท'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กถึง นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ว่าน้องบอย สรวงศ์ ฟังทางนี้
ยากจะหาใครรับมือ! ซูฮก 'ทักษิณ' สำเร็จเคล็ดวิชาขั้นสูง 'มือถือสากปากถือศีล'
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นักกฎหมาย อดีตสส.จังหวัดพัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "คุณทักษิณ ชินวัตร สำเร็จเคล็ดวิชาขั้นสูงแล้ว" ระบุว่าจะว่ามมไม่เงี่ยหูฟังคุณทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยที่จ.อุดรธานี เสียเลยก็ไม่