'ชลน่าน' โยงจนได้อ้างเหตุ 6 ตุลาฯ 19 เทียบกับครองอำนาจ 8 ปี เชื่อเลือกตั้งครั้งหน้า คนออกมาใช้สิทธิ์เยอะ แนะ ได้ทีเสี้ยม 2 ป.ขิงกันเองในเรื่องน้ำท่วม บอก 'บิ๊กป้อม' เป็นตัวเลือกดีว่า 'บิ๊กตู่'
06 ต.ค.2565 - ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ย้อนถึงเหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 ว่าเป็นความสูญเสียทั้งความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย ภาพของการแขวนคอและเข่นฆ่าก็เป็นข้อเท็จจริง แต่ในด้านบวกคือ ข้อเท็จจริงหลายเรื่องถูกเปิดเผยออกมา เข้าไปสัมผัสจับต้องได้ จนทำให้ภาพเหล่านี้เกิดขึ้นมา มีการจัดงานอย่างต่อเนื่อง และคนรุ่นใหม่มีส่วนร่วม ได้เห็นภาพการต่อสู้ในครั้งนั้น และนำมาเป็นบทเรียน ปรับวิธีการกระบวนต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยโดยแท้จริง ต้องไม่สูญเสีย
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แม้เราจะมีการเรียนรู้และเรียกร้อง แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นผลที่เกิดขึ้นคือ ความเป็นประชาธิปไตยกลับถอยหลังลงไปอีก และย้ำแย่ด้วยวงจรที่เราเรียกว่า วงจรอุบาทว์ ของผู้มีอำนาจที่ใช้อำนาจทางกระบอกปืน เข้ามายึดแย่งจากประชาชนไปที่เป็นผลพวงจาก 8 ปีที่ผ่านมา แม้จะมีการเลือกตั้ง แต่ก็เป็นเพียงทำในลักษณะที่เป็นพิธีการเพื่อให้ตัวเองเข้าสู่อำนาจ แม้รัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า ดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือรวมกันแล้วเกิน 8 ปี มิได้ ก็ใช้กลไกของการวินิจฉัยของศาลเพื่ออยู่ต่อและสืบทอดอำนาจ ภาพเหล่านี้เป็นภาพลบต่อเรื่องประชาธิปไตยและเรื่องสิทธิเสรีภาพต่อภาพลักษณ์ของประเทศมาก ฉะนั้น ภาพลบตรงนี้เราต้องเข้าไปดูให้ลึกซึ้งว่าเราจะเข้าไปแก้ได้อย่างไร และยังเชื่อมั่นว่าวันที่ 6 ต.ค. 2519 เป็นร่องรอยของการต่อสู้ที่จะทำให้ประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจประชาธิปไตย ลุกขึ้นมาต่อสู้ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจอย่างแท้จริงแบบสงบ ใช้วิธีสันติวิธีในการต่อสู้
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นถือว่าเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การต่อสู้ของประชาชน นอกจากการที่เรียกร้องผ่านช่องทางของการรวมตัวกัน ผ่านมีเดียต่างๆ และการต่อสู้ที่ชอบด้วยกฎหมายคือการใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นตนมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนจะออกมาใช้สิทธิ์ตัวเองเพื่อทวงคืน อำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง ถ้าออกมาอย่างล้นหลาม ออกมาเลือกพรรคการเมืองที่เป็นที่หวังได้ เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ทุกอย่างก็จะถูกตัดตอน ถูกเริ่มสร้างกระบวนทัศน์ กระบวนการของประชาธิปไตยใหม่ และมั่นใจว่าประชาชนจะออกมาใช้สิทธิ์เยอะ
เมื่อถามว่า 3 ป. ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม และการลงพื้นที่พร้อมๆกัน อย่างที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงแล้ว และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลงต่อ มองปรากฏการณ์นั้นว่าอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หากมองในภาพบวก ถือว่าเป็นความรับผิดชอบ เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ในสภาพวิกฤตอย่างนี้ผู้บริหารต้องเข้าถึงสภาพปัญหาที่แท้จริง ไม่ใช่ฟังปัญหาอยู่เฉพาะห้องอย่างเดียว เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ฉะนั้นการที่สัมผัสกับปัญหาของประชาชนในแต่ละพื้นที่ ที่มีความแตกต่างกัน เป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำ ส่วนมองอีกมุมเป็นเรื่องของการใช้อำนาจหน้าที่ตามภาษาวัยรุ่นเรียกว่า ขิงกันหรือไม่ ก็แล้วแต่จะแปลความ เพราะโดยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย นายกฯที่แท้จริง เขากลับมาแล้ว มาทำหน้าที่เดิมของเขา เว้นแต่ความหวังคือ การสร้างสถานะของการทำงาน คนเข้าใจปัญหา เพื่อหวังจะเป็นแคนดิเดตนายกฯในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนชอบ และเชียร์ให้ทำแบบนี้ เพราะพี่น้องประชาชนได้เห็นภาพชัดเจน
“อย่ามองว่าเป็นเพียงแต่ความเห็นต่างหรือข้อขัดแย้ง แม้จะมองเป็นข้อขัดแย้ง แต่ประชาชนได้ผลประโยชน์ จงทำ ผมเห็นด้วย และคนสนับสนุน เพื่อที่จะบอกตัวเองว่าฉันพร้อมที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ “ นพ.ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า คงจะได้เห็นภาพ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ ในอนาคต ทำแบบนี้ต่อไป ฝ่ายค้านจะโอเคใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ภาพโอเค แต่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ใช้ภาษีอากรของประชาชน ไปแสวงหาผลประโยชน์ในการหาเสียง พวกเราเองถูกมัดมือมัดเท้า แต่ตัวท่านมีหน้าที่ มีอำนาจ และมีภาษีอากรของประชาชนอยู่ ก็ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ถูกช่องทางที่มีอำนาจ อย่าได้เอาเปรียบกับพรรคการเมืองอื่นหรือพรรคฝ่ายค้าน อันนี้ถือว่าไม่ชอบ ขอให้ระมัดระวัง
เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่าเขาขิงกันหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “อันนี้ต้องให้เจ้าของศัพท์เป็นคนวินิจฉัยว่า ขิงกันหรือไม่ แต่ภาพมันชัด คนไม่มีแรงกลับมีใจบันดาลแรงขึ้นมา คนที่เคยอยู่ในขวดซีอิ๊ว กระโดดขึ้นมาใส่กางเกงยีนส์เป็นแหนมป้ายย่น ภาพมันก็ชัด และสิ่งที่ชัดที่สุดคือวิธีการทำงาน ความเห็นอกเห็นใจพี่น้องประชาชน การเข้าถึงประชาชน ภาพมันชัด มีความต่างกันมาก จะเรียกว่าขิงกันหรือไม่ ผมไม่รู้ แต่มันต่างกันมาก และน่าจะเห็นภาพชัดว่าใครเป็นแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ”
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า นอกจากพรรคการเมืองจะแย่งชิงความนิยมจากประชาชนแล้ว ประเด็นสำคัญคือ ความต่างขั้วระหว่างเสรีนิยม กับอนุรักษ์นิยมหรือเผด็จการ ใครอยู่อนุรักษ์นิยมหรือเผด็จการ หรือพล.อ.ประยุทธ์ ก็ยากจะได้รับการเลือกตั้ง ส่วนใครจะเป็นแคนดิเดตก็อยู่บนพื้นฐานการพิจารณาของกรรมการบริหารพรรคของเขา หากจะเลือกพล.อ.ประยุทธ์ ที่อยู่ในอำนาจได้แค่ 2 ปี ก็ตอบคำถามประชาชนไม่ได้ และเหมือนดูถูกประชาชน เขาต้องระมัดระวัง พรรคเขาคงจะเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะทำให้พรรคเขารอด
“พล.อ.ประยุทธ์ ไม่น่าใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับพรรคพปชร. พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค ก็เป็นตัวเลือกได้ อย่างน้อยก็ดีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ” นพ.ชลน่าน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สุดคึก! แกนนำพท. มั่นใจ ‘ทักษิณ’ ช่วยหาเสียง อบจ. ปูทางตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
‘ประเสริฐ’ มั่นใจ พท.กวาดทุกสนาม อบจ. ที่ ‘ทักษิณ’ ไปเยือนปูทาง ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ลั่นในอดีตทำแล้ว ทำมึนสื่อหมายถึงใคร หลังถูกถาม นายกฯช่วยหาเสียงวันหยุด
แม้วเดินสายโชว์บารมี อิ๊งค์ปราศรัยนครพนม
"ทักษิณ" ลุยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ. จ่อขึ้นเวทีเชียงราย 3 เวที "เทิง-เชียงของ-แม่จัน" ปราศรัยช่วย "สลักจฤฎดิ์-เมียยงยุทธ" ก่อนเดินสายลำปาง-นครพนม-บึงกาฬ-หนองคาย-มหาสารคาม-ศรีสะเกษ
‘พ่อ-ลูก’ แห่ช่วยหาเสียง หลายพื้นที่สอย ‘ผู้สมัคร’
“แพทองธาร” ลุยช่วยหาเสียง อบจ.นครพนม 12 ม.ค.นี้ ส่วนพ่อนายกฯ ลงซ้ำ 18 ม.ค.นี้ “อนุทิน” ไม่หวั่น ขอแค่ส่งใจช่วยเครือข่ายสีน้ำเงินรักษาเก้าอี้ภาคอีสาน
'ชัยเกษม' ลั่นใครไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ต้องมีอันเป็นไป
นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปี 2568 ว่า หากมีเรื่องร้อนเข้ามาถ้าเราไม่ร้อนกลับไปมันก็ไม่แรง
ศึกบ้านใหญ่เชียงราย! 5 ม.ค. 'ทักษิณ' ยกทัพช่วย 'เมียยงยุทธ' ชน 'วันไชยธนวงศ์' ชิงนายก อบจ.
มีรายงานจากทีมงานเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ของพรรคเพื่อไทยว่า ช่วงสุดสัปดาห์นี้ วันอาทิตย์ที่ 5 ม.ค. นายทักษิณ ชินวัตร
ดร.ณัฏฐ์ มองการเมืองไทยปี 68 'รัฐบาลอิ๊งค์' มีเสถียรภาพ อยู่ยาวถึงปี 70
“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน ชี้การเมืองไทยปี 2568 “รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร” กุมเสียงข้างมาก รัฐบาลมีเสถียรภาพ แม้เจอโรครุมเร้า นักร้องเรียนรายวัน ยังไม่มีตัวแปรใดล้มรัฐบาล ฟันธง รัฐบาลอยู่ยาวถึงปี 2570