‘ท็อป’ ลั่นทวงคืนพื้นที่ ‘ชาติไทย’ เคยปักธง ตั้งเป้า ‘ชทพ.’ กวาด 25-30 ส.ส.

‘วราวุธ’ ย้ำเป้า ‘ชทพ.’ 25-30 ที่นั่ง ลั่นทวงคืนพื้นที่ ‘ชาติไทย’ที่เคยปักธงไว้ บอกเร็วไปจับมือพรรคใดจัดตั้งรัฐบาล

3 ต.ค.2565-นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) คนใหม่ กล่าวถึงการนำพาพรรคไปสู่การเลือกตั้งว่า ขณะนี้พรรคกำลังเร่งดำเนินการในหลายพื้นที่ และหาตัวผู้สมัคร พร้อมทั้งกำชับผู้สมัครที่เปิดตัวไปแล้ว ทำงานให้รอบคอบในทุกๆ พื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ตามนโยบายรับฟังความจริง ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านมาของชทพ.ที่ร่วมรัฐบาล เป็นการทำงานที่ไม่หยุดนิ่งและทำงานอย่างเป็นรูปธรรม

ในการหาเสียงครั้งต่อไปให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ดำเนินการตามกรอบคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างเคร่งครัดในการดูแลประชาชนให้เต็มที่ ขณะนี้เกิดอุทกภัยหลายพื้นที่การช่วยเหลือประชาชนต้องระมัดระวัง รวมทั้งตน และนายประภัตร โพธสุธน​ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ทำงานอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้

“การทำนโยบายต้องตอบโจทย์ที่จะนำพาให้พรรคเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงยั่งยืน ท่ามกลางสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลก และความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ ประเทศไทยต้องยืนอยู่บนขาของตัวเอง และทำให้ประชาชนทุกระดับพี่น้องเกษตรกรชาวไร่ชาวนา รวมไปถึงนักธุรกิจแต่ละพื้นที่ยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองได้ และจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยของเราเดินไปข้างหน้าใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุด ทำให้เงินในกระเป๋ามีเพิ่มมากขึ้น”

ถามว่า ที่มีขยายกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จาก 29 คน เป็น 39 คน เพื่อรองรับขนาดของพรรคชทพ.ที่จะใหญ่ขึ้น นายวราวุธ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคชทพ.เป็นพรรคขนาดกลางถึงขนาดเล็ก ไม่ว่าเราจะเป็นพรรคขนาดกลางเสมอไป จากนี้ไปก้าวใหม่ของพรรคชทพ.เราจะไปทวงคืนพื้นที่ในหลายพื้นที่ที่พรรคชาติไทยเคยปักธงเอาไว้ และเราจะทำให้พรรคชทพ.เติบโต มั่นคง ช้าๆ แต่ได้พร้าเล่มงาม

“ในการเลือกตั้งครั้งหน้าตั้งเป้าได้ ส.ส.ไม่เกิน 25-30 ที่นั่ง ซึ่งวันนี้พรรคเรามี 12 ที่นั่ง ถ้าเราโตเร็วเกิดไปมันจะเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เราไม่สามารถบริหารจัดการดูแลส.ส.ได้อย่างเต็มที่ จึงมั่นใจว่าเราสามารถทำได้”

ถามว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพปชร. เป็นแคนดิเดตนายกฯ จะส่งผลกระทบต่อพรรคชทพ. หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ในวันที่ 6 ต.ค.นี้ จะมีการประชุมกก.บห.พรรค เพื่อหารือกันก่อน

ถามจุดยืนของพรรคชทพ.หลังเลือกตั้งจะจับมือกับใคร นายวราวุธ กล่าวว่า เมื่อทุกฝ่ายผ่านการเลือกตั้งเข้ามาแล้ว หากมาบอกว่าฝ่ายนั้นฝ่ายนี้คงจะเร็วไปที่จะตัดสิน ท้ายที่สุดแล้วการจัดตั้งรัฐบาลล้วนแล้วเป็นสมการบวกเลขกัน ถึงตอนนี้ต้องมาดูหลังการเลือกตั้งก่อนว่าเป็นอย่างไร

”คะแนนเสียงทุกคะแนนเสียงมีค่า ฉะนั้นพรรคชทพ.จะบอกว่าเอากลุ่มนั้นกลุ่มนี้เป็นพิเศษดูจะเป็นการไม่ให้เกียรติจนเกินไป คิดว่าการทำงานของพรรคชทพ.จากนี้จะทำงานให้กับพี่น้องประชาชนให้ทุกกลุ่ม ท่านใดมีศักยภาพทำงานร่วมกันเพื่อให้พรรคชทพ.มีความมั่นคง และคงไม่มีพรรคไหนให้สัมภาษณ์ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าว่าจะเป็นฝ่ายค้าน หรือไปถามนักการกีฬาว่าจะเป็นที่สามที่สี่ คงอยากได้เป็นที่หนึ่งกันหมด”

เมื่อถามถึงกระแสการเปรียบเทียบความนิยมของพรรคชทพ.รุ่นนี้ นายวราวุธ กล่าวว่า ความนิยมไม่สามารถส่งผ่านกันได้ คนที่ชื่อนายบรรหาร ศิลปอาชา ทำงานตั้งแต่ปี 2475-2559 แต่นายวราวุธทำงานมา 3 ปี เพราะฉะนั้นการทำงานของพรรคการเมือง และเส้นทางการเมืองไม่สามารถเร่งอะไรได้ สำคัญที่สุดคือความนิยมและบารมี ก็ส่งต่อกันไม่ได้ เพราะอยู่ที่ตัวของตัวเองและกก.บห.ว่าจะเร่งสร้างศรัทธาและสร้างผลงานให้ถูกใจประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนมากกว่า เอาผลงานเป็นตัวชี้วัด 

เมื่อถามว่า ประเมินกระแสคนรุ่นใหม่ของตัวเอง จะสู้กระแสคนรุ่นใหม่พรรคอื่นได้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนคิดว่าการทำงาน 3 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้อาจจะไม่เก่งกว่า แต่คิดว่าตนไม่แพ้ใครเหมือนกัน.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ประชุมเลือก นายวราวุธ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ พบว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำแจกันดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีกับนายวราวุธ นอกจากนี้ ยังมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.พรรคพลังประชารัฐ, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ และตัวแทนพรรคเพื่อชาติ นำแจกันดอกไม้แสดงความยินดี.