1 ต.ค.2565 - นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เริ่มนับในปี 2560 จึงสามารถเป็นนายกฯ ได้อีกประมาณ 2 ปี ซึ่งไม่เพียงพอต่อการเป็นนายกฯ ในสมัยการเลือกตั้งครั้งหน้า จะส่งผลให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยได้คะแนนความได้เปรียบมากขึ้นหรือไม่ ว่า การวินิจฉัยในวันที่ 30 ก.ย. เป็นอีกครั้งที่ทำให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหาเรื่องการตีความ ทั้งการตีความตามเจตนารมย์ การตีความตามตัวอักษร หรือการตีความจากผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้นโจทย์ใหญ่ในทางการเมืองที่เราต้องคิดมากกว่าผลทางการเมืองแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คือการต้องมาทบทวนกันว่า เมื่อรัฐธรรมนูญมีปัญหาค่อนข้างมาก จะนำไปสู่กระบวนการทำให้เกิดรัฐธรรมนูญที่ชัดเจน และกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้อย่างไร
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นการเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ พรรค ก.ก. ไม่ก้าวล่วงไปตอบได้ แต่ว่าจะเป็นคำถามของทุกพรรคการเมือง ที่อาจจะเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ต้องคิดทบทวนถึงข้อจำกัดเรื่องการดำรงตำแหน่งที่ไม่สามารถอยู่จนครบวาระ 4 ปีได้ แน่นอนย่อมทำให้ประชาชนคลางแคลงว่าพรรคนั้น จะเข้าไปบริหารแผ่นดินได้อย่างไร ดังนั้น จึงไม่ใช่โจทย์ของเรา เพราะฝ่ายประชาธิปไตยมีความชัดเจนว่า ปัญหาของรัฐธรรมนูญคือโจทย์ใหญ่ที่ส่งผลทางการเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน เศรษฐกิจปากท้องประชาชน และสิทธิเสรีภาพ หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้า ฝ่ายค้านได้เสนอให้ทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งหมด น่าจะเป็นคำตอบระยะยาวที่ดีที่สุดมากกว่า
“การวินิจฉัยให้เริ่มนับการดำรงตำแหน่งนายกฯ เป็นปี 2560 เป็นโจทย์เดิมที่เราคิดว่าจะออกมาเป็นแบบนี้ ฉะนั้นจึงไม่ได้เป็นข้อได้เปรียบหรือเสียเปรียบของพรรคการเมืองใด แต่อยู่ที่ว่ารอบหน้าแต่ละพรรคจะเสนอใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ และมีนโยบายอย่างไร” นายณัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แคนดิเดตนายกฯ จะเป็นส่วนสำคัญหนึ่งในการชนะเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แน่นอน เพราะหากแคนดิเดตนายกฯ มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติและวาระการดำรงตำแหน่ง ประชาชนต้องดูว่ากล้าที่เลือก หรือเลือกไปแล้วจะมีผลอะไรอีกหรือไม่
เมื่อถามว่า หากคุณสมบัติของพล.อ.ประยุทธ์ มีปัญหาเรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง จะส่งผลให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. แทนหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนตอบแทนพรรค พปชร.ไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้พรรค พปชร. ต้องคิดหนักว่า ใครที่เหมาะสมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ให้พรรคมากที่สุด เพื่อให้พรรคมีโอกาสทางการเมืองและได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ไม่มีโจทย์แค่เรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง แต่ต้องดูด้วยว่าบุคคลนั้นจะยังได้รับการยอมรับจากประชาชนอีกหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.เพื่อไทย ดี๊ด๊า ประเทศไทยมีระบบที่เป็นมาตรฐาน!
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้คงสบายใจขึ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับ
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน
ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)
ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน