ดราม่าก็มา 'พิธา-ก้าวไกล' โอดคำวินิจฉัยของศาลรธน. เป็นอีกครั้งที่ทำให้ประชาชนไทยรู้สึกสิ้นหวัง


30 ก.ย.2565 - นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกแถลงการ์ในนามพรรคก้าวไกล ต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณี 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ เป็นอีกครั้งที่ทำให้ประชาชนไทยรู้สึกสิ้นหวัง

มิใช่สิ้นหวังเพียงเพราะบุคคลอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้าคณะรัฐประหาร ยังสามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ แม้ขาดทั้งความชอบธรรมทางการเมืองและความสามารถในการบริหารประเทศท่ามกลางวิกฤตที่รุมเร้า แต่สิ้นหวัง เพราะคำวินิจฉัยในวันนี้ยิ่งตอกย้ำให้ประชาชนเคลือบแคลงใจ ว่าสถาบันตุลาการของบ้านเมืองที่ควรทำหน้าที่ตรวจสอบควบคุมความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ กลับกำลังปกป้องคุ้มครองการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร มากกว่าปกป้องคุ้มครองหลักการและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่

แม้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ จะตรงกันข้ามกับคำวินิจฉัยตามสามัญสำนึกของประชาชน แต่ข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ พล.อ. ประยุทธ์ ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ โดยขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตยมายาวนานเกินกว่า 8 ปีแล้ว ผ่านการทำรัฐประหารและการเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจ

ตราบใดที่สังคมไทยยังอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน สถาบันทางการเมืองต่างๆ ก็จะยังถูกใช้เป็น อาวุธ ของระบอบการเมืองที่อำนาจสูงสุดไม่ได้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง หนทางเดียวในการคืนประเทศให้กับประชาชน คือ การยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อให้ประชาชนจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ

แม้การเลือกตั้งครั้งใหม่ จะเป็นโอกาสให้ประชาชนได้พิพากษา พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยมือของตนเอง แต่ตราบใดที่รัฐธรรมนูญ 2560 ยังไม่ถูกรื้อ ประเทศไทยจะยังไม่หลุดพ้นจากวังวนของระบอบรัฐประหาร

ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนอีกครั้ง มาร่วมกันเข้าชื่อเพื่อให้มีการจัดทำประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันเดียวกับวันเลือกตั้ง เพื่อทำให้วันเลือกตั้งไม่เป็นเพียงโอกาสในการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีหรือเปลี่ยนขั้วรัฐบาล แต่เป็นโอกาสในการเปลี่ยนโครงสร้างและกติกาของประเทศ ให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน

เราทราบดีว่า 8 ปีภายใต้ระบอบประยุทธ์ ได้สร้างความเจ็บปวดที่ชินชา และบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนว่าการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมประชาธิปไตยที่ก้าวหน้าจะยังคงเป็นไปได้หรือไม่ แต่พรรคก้าวไกลขอยืนหยัดและยืนยัน ว่าความเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นแล้ว ทั้งในและนอกสภาผู้แทนราษฎร แม้อาจยังไม่มากพอที่จะกำจัดระบอบอยุติธรรมที่กัดกินประเทศได้ในทันที แต่หากพวกเรา ประชาชน ไม่สิ้นหวัง และเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อยๆ ประเทศไทยที่มีอนาคต จะรออยู่ข้างหน้า อนาคตของเศรษฐกิจที่เติบโตเพื่อทุกคน อนาคตของสังคมที่คนเท่ากัน อนาคตของประชาธิปไตยเต็มใบที่ไม่มีใครอยู่เหนือหัวประชาชน

หากเหตุการณ์วันนี้ทำให้พี่น้องประชาชนคับแค้นผิดหวัง โปรดเปลี่ยนความคับแค้นผิดหวังนั้นให้เป็นพลัง เพื่อใช้ขีดเขียน อนาคตใหม่ ไปด้วยกัน หนึ่งเสียงของทุกคนในการแสดงออก หนึ่งคะแนนของทุกคนในคูหาเลือกตั้ง และหนึ่งชื่อของทุกคนในการสนับสนุนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือหนึ่งพลังของความเปลี่ยนแปลงไปสู่ประเทศไทยที่ก้าวหน้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สส.เพื่อไทย ดี๊ด๊า ประเทศไทยมีระบบที่เป็นมาตรฐาน!

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้คงสบายใจขึ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับ

สาวกเพื่อไทย ยื่นศาลรธน.สอบ 'ธนพร' ละเมิดอำนาจศาล

ที่บริเวณ​หน้าศาลรัฐธรรมนูญ​ นายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ และนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือร้อง นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์

'ชูศักดิ์' เผย 'เพื่อไทย' ได้รับความเป็นธรรม ศาลรธน. ไม่รับคำร้องปมล้มล้างการปกครอง

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายอิสระ ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย(พท.) ยุติการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองจะผูกพันไปยังกรณีที่มีการยื่นคำร้องเดียว

'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง

จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ

'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.

หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ