'สามารถ' เปิดใจทำไมหวนกลับมาเล่นการเมืองในเสื้อ 'รวมไทยสร้างชาติ' ทั้งที่เคยบอกจะวางมือ

'สามารถ มะลูลีม' เปิดใจเหตุร่วมงานพรรครวมไทยสร้างชาติ หวังใช้กฎหมายสร้างสวัสดิการนักกีฬาไทย พร้อมดูแลชาวมุสลิมต่อเนื่อง ระบุชอบพีระพันธุ์เพราะตั้งใจทำงานจริง

28 ก.ย.2565 - นายสามารถ มะลูลีม หรือบังมาด กรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดตัวเข้ามาทำงานร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ปรากฏว่ามีคนสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้ตอบคำถามไปตามความจริงว่าตนเองกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รู้จักกันมานานแล้ว และเคยทำงานร่วมกันมาในหลายเรื่องตั้งแต่สมัยที่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นนักการเมืองของชาวกรุงเทพฯ มาเป็นเวลานานกว่า 37 ปี และได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ให้ทำหน้าที่มาทุกตำแหน่งทางการเมือง ตั้งแต่ ประธานกรรมาธิการ กิจการชายแดนไทย , สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร , สมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร , ประธานสภากรุงเทพมหานคร , รองประธานสภา กรุงเทพมหานคร , สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตคลองเตย เขตวัฒนา , ประธานสภาเขตพระโขนง , ประธานมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย และล่าสุดยังมีโอกาสได้เข้าไปช่วยทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ด้วย

นายสามารถกล่าวว่า ทำงานอย่างเต็มที่ในทุกหน้าที่ ก่อนหน้านี้แม้ว่าจะเคยพูดว่าจะไม่เล่นการเมืองแล้ว เพราะทำงานมานานแล้ว และที่ผ่านมามีหลายคนมาชวนไปร่วมงานทางการเมือง ซึ่งก็ไม่ได้ตัดสินใจ แต่เมื่อเห็นว่า นายพีระพันธุ์ มีความตั้งใจจริงที่จะทำงานเพื่อบ้านเมือง และชอบในความคิดของนายพีระพันธุ์ เพราะหายากที่จะเห็นคนซึ่งเป็นอดีตผู้พิพากษาเข้ามาทำงานการเมือง จึงตัดสินใจเข้ามาช่วยกันทำงานทางการเมืองอีกครั้ง

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาคิดมาเสมอว่า หากต้องการทำงานให้กับประชาชนแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โตอะไรก็สามารถทำงานให้กับประชาชนได้ ตลอดการทำงานการเมืองมา 37 ปี ได้ทำหน้าที่ตามที่ตั้งใจ และได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนให้เข้ามาทำงาน อีกทั้งยังรู้จักกับผู้คนมากมาย ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่พระเจ้ากำหนด หลังจากนี้เมื่อได้ทำงานด้านการเมืองอีกครั้ง ก็จะทำงานที่ตั้งใจอย่างเต็มที่ โดยในส่วนของบทบาทหน้าที่ที่จะเข้ามาทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ จะมุ่งเน้นการแก้ไข ปรับปรุงและเพิ่มกฎหมาย เพื่อใช้เป็นเครื่องมือพัฒนาการกีฬาของไทย รวมไปถึงการใช้กีฬาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย

“ผมสนใจเรื่องกีฬา เคยเป็นอุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทย และนายกสมาคมกีฬามวยไทยนานาชาติด้วย โดยเฉพาะกีฬามวยไทย ผมเห็นมาตั้งแต่เกิด เพราะคุณพ่อมีค่ายมวย ทำให้ผมสนใจกีฬานี้ และต้องการพัฒนาให้มวยไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย พร้อมเผยแพร่วัฒนธรรมไทย และสร้างรายได้เข้าประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมอยากทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงกีฬามวยไทยของโลก หรือ เป็น Thai Boxing Hub ซึ่งผมได้พยายามประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ เช่น ในวันที่ 22-23 ต.ค.นี้ ก็ได้ร่วมกับผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร จัดการแข่งขันมวยไทยที่ลานคนเมืองด้วย” นายสามารถ กล่าว

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่เห็นในการกีฬาของไทย คือเรื่องสวัสดิการของนักกีฬาที่ยังไม่มี เพราะหากต้องการให้กีฬาไทยแข็งแกร่งสู้กับประเทศอื่นๆ ได้ รัฐควรให้ความสำคัญกับเรื่องสวัสดิการของนักกีฬา เพื่อให้ทุกคนมีหลักประกันทางชีวิตด้วย จึงควรมีการตั้งสำนักสวัสดิการขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องนี้ เหมือนกับสำนักสวัสดิการของทหาร ที่มีสวัสดิการให้กับนักกีฬาของเขา สำนักสวัสดิการของนักกีฬานี้ ควรจะมีบทบาทหน้าที่ในการดูแลทั้งนักกีฬาสมัครเล่น และนักกีฬาอาชีพ ที่อาจจะอยู่ในสังกัดของกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา เพื่อสนับสนุนให้นักกีฬาสามารถพัฒนาฝีมือของตัวเอง มีโอกาสฝึกซ้อมอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเพราะมีสวัสดิการดังกล่าวรองรับ

นายสามารถ กล่าวว่า แต่ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีสำนักสวัสดิการนักกีฬา หรือกองทุนที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้แก่นักกีฬาไทย ทำให้หลายคนประสบความยากลำบากที่จะพัฒนาฝีมือตัวเอง บางคนมาเป็นนักกีฬาเพื่อทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ แต่เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจกลับไม่มีอาชีพ ต้องไปเป็นลูกจ้าง หรือบางคนไม่มีงานทำ ส่วนของนักเรียนก็ต้องพักการเรียนชั่วคราว หรือหยุดเรียนเพื่อมารับใช้ชาติ ต้องเข้าใจว่าพวกเขาเหล่านี้ ทั้งเหนื่อยและต้องทุ่มเทเวลาในการฝึกซ้อม แต่กลับไม่มีรางวัลตอบแทนและความมั่นคงของชีวิตให้เลย ดังนั้นตนคิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติโดยตน จะเป็นผู้ขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย และนักกีฬาอาชีพ

“ผมเคยทำเรื่องนี้มาแล้ว และผลักดันจนเกิด พ.ร.บ.กีฬามวย ซึ่งผมต้องการทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับกีฬาประเภทอื่นๆ ด้วย นอกเหนือจากกีฬามวย อีกทั้งมีนักมวยจำนวนไม่น้อยที่มาชกมวยเพื่อเป็นอาชีพ เพื่อความหวังของครอบครัว แม้จะมีค่าตัวแพงแต่กลับไม่มีรายได้อย่างที่หวัง ผมจึงมุ่งมั่นทำให้เกิด พ.ร.บ.กีฬามวยขึ้น อย่างที่สิงคโปร์ถ้าหากไปเป็นเทรนเนอร์ เขาจ้างเดือนละแสนบาทขึ้นไป ดังนั้นถ้าเราสร้างตรงนี้ขึ้นมาได้ ก็สามารถส่งออกเทรนเนอร์ไปต่างประเทศ และสามารถนำรายได้เข้าประเทศได้อีกด้วย ในส่วนของกีฬาประเภทอื่นๆ ก็เช่นกันผมก็ต้องการทำสวัสดิการให้กับนักกีฬาเช่นกัน ดังนั้นผมต้องการผลักดันให้เกิดกฎหมายเกี่ยวกับการดูแลสวัสดิการของนักกีฬาเหล่านั้น” นายสามารถ กล่าว

นายสามารถ กล่าวด้วยว่า นอกจากประเด็นเรื่องกีฬาแล้ว ในส่วนของชาวมุสลิมนั้น ก็ตั้งใจจะขับเคลื่อนหลายด้านในการดูแลชาวมุสลิมในประเทศไทย ซึ่งสิ่งที่น่าดีใจล่าสุด ก็คือการจัดงานสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศซาอุดิอาระเบีย กับประเทศไทยขึ้นที่มูลนิธิศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย หลังจากที่มีการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของสองประเทศ และก็ได้รับการติดต่อจากทางซาอุดิอาระเบียว่า จะมอบทุนให้กับมูลนิธิฯ เพื่อให้นำมาช่วยเหลือเด็กกำพร้าที่ทางมูลนิธิฯ ให้การช่วยเหลืออยู่ และเป็นการมอบให้ทุกปี นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในเรื่องของความสัมพันธ์ที่จะดำเนินต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะการไปแสวงบุญของพี่น้องชาวมุสลิมที่เชื่อว่าจะราบรื่นยิ่งขึ้น และทราบว่าในอนาคตจะมีการเพิ่มเครื่องบินแบบพาณิชย์ที่จะบินไปยังซาอุดิอาระเบีย ซึ่งจะทำให้สะดวกยิ่งขึ้น และยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายการเดินทางของพี่น้องชาวมุสลิมไทยอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พีระพันธุ์' ข้องใจนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด 'คนเดียวกันพูดคนละอย่างได้อย่างไร' จี้ป.ป.ส.แจง

'พีระพันธุ์' ข้องใจ นำกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติด 'คนเดียวกันพูดคนละอย่างได้อย่างไร' เล็งให้ ป.ป.ส.แจง หลังนโยบายชักเข้าชักออก ขอคุยก่อนประชุม ย้ำต้องอธิบายให้ได้

'จุรินทร์' ซัดเต็มๆ ดิจิทัลฯ เป็นแค่น้ำข้าวต้มที่จะสร้างพายุหมุนหนี้ให้ประเทศ

'จุรินทร์' ซัดงบกลางปี 67 กู้มาแจกเงินหมื่นเท่านั้น ฉะโครงการล่าช้าเพราะความโหลยโท่ยของ รบ. ย้ำ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ได้ไม่คุ้มเสีย เข้าทำนองประเทศเสียหายไม่ว่าขอให้ข้าได้หาเสียง

รองโฆษก รทสช. ยกเหตุลอบสังหารทรัมป์ สิ่งที่สังคมไทยไม่ควรใช้เป็นแบบอย่าง

ผมขอประณามการใช้ความรุนแรง ในที่เพนซิวาเนีย ...ในฐานะคนที่อยู่อเมริกานานพอควร การใช้สิทธิเสรีภาพ เหนือร่างกายและชีวิตผู้อื่น จนมีผู้เสียชีวิตโดนลูกหลง1ราย เป็นสิ่งที่สังคมไทย ไม่ควรใช้เป็นแบบอย่าง