'ลิณธิภรณ์' ซัดกฎเหล็ก กกต.ก่อน ด่า 'รัฐบาลบิ๊กตู่' ถลุงงบประมาณอื้อซ่า สู้ยุค 'ยิ่งลักษณ์' ไม่ได้แค่ 3.5 แสนล้าน จัดการน้ำท่วมน้ำแล้ง
28 ก.ย.2565 - น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ หรืออรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ในขณะนี้อาจถูกซ้ำเติมความรุนแรงมากขึ้นจากพายุโนรูที่จะเข้าไทย ความลักหลั่นของกฎเหล็ก 180 วัน จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจเป็นอุปสรรคต่อการที่ ส.ส.จากแต่ละพรรคการเมืองที่จะไม่สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่ ยิ่งทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และหากมองในอีกแง่มุมหนึ่งกฎเหล็กดังกล่าวกำลังจะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งในการละเลยการทำหน้าที่ในทางรัฐสภาหรือไม่ เพราะองค์ประกอบของการปกครองต้องมีทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้ง 2 ฝ่ายล้วนยึดโยงกับประชาชนและต้องมองผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้งด้วย
น.ส.ลิณธิภรณ์กล่าวว่า แม้รัฐบาลเตรียมรับมืออุทกภัย มาตรการระยะสั้นอาจไม่เพียงพอ 5 มาตรการ และการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดแล้ว สิ่งที่รัฐบาลควรคำนึงถึงอย่างจริงจังภายหลังจากสถานการณ์พายุโนรูผ่านพ้นไป คือการมองปัญหาการบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศอย่างเป็นองค์รวมทั้งระบบ ต้องลงมือทำจริงและทำอย่างจริงจัง ที่ผ่านมา แผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ของรัฐบาลที่วางไว้ตั้งแต่ปี 2558-2569 หากนับเอาเฉพาะปี 2560-2565 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้งบประมาณแผ่นดินรวมกับงบกลางไปแล้ว 364,090 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าโครงการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบมูลค่า 350,000 ล้านบาทของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้ทำไว้หลังเกิดน้ำท่วมในปี 2554 เพียง 1 ปี ขณะที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ใช้งบประมาณแผ่นดินไปมากมาย แต่ไม่สามารถป้องกันชีวิตและดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนได้ นี่คือตัวอย่างของผู้นำที่มาจากรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงที่คนไทยไม่ต้องการ
สำหรับในปีงบประมาณ 2565 รัฐบาลได้กำหนดแผนงานให้กับ 5 กระทรวง 13 หน่วยงาน ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในฤดูฝนปี 2565 และการกักเก็บน้ำในฤดูแล้งปี 2565/2566 ตามหน่วยงานในพื้นที่จังหวัด ผ่านคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดใน 5 กลุ่มประเภทโครงการ 1.การซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ 2.การปรับปรุง แก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ และกำจัดผักตบชวา 3.การขุดลอกคูคลอง เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ 4.การเตรียมความพร้อมวางแผนเครื่องจักรเครื่องมือ และ 5.การเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเพื่อเก็บกักไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ทั้งหมดเป็นโครงการที่ทำทุกปี แต่กลับไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และรับมือได้จริง เพราะในปี 2563/2564 รัฐบาลยังได้จัดสรรงบกลางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งยังมีโครงการที่ไม่เสร็จกว่า 2,000 โครงการ
“วันนี้สิ่งรัฐบาลต้องทำนอกจากมาตรการรับมือพายุโนรูเฉพาะหน้า ประชาชนอยากเห็นการลงมือทำงาน แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างจริงจังและเป็นระบบ แม้รัฐบาลนี้จะเหลือเวลาอีกไม่นาน แต่ช่วยทำงานให้คุ้มค่ากับเงินภาษีของพี่น้องประชาชนมากกว่านี้”น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สว.ใหม่รายงานตัว7ก.ค.
"กกต." ยื้อประกาศ สว. ยกเหตุต้องพิจารณาคำร้องให้เสร็จ ด้าน "สมชาย" ควันออกหูโดนไล่ที่แล้ว บี้ตรวจสอบ 4 คำร้องโกงเบอร์ใหญ่
จับตา กกต.เลื่อนรับรอง สว. เตรียมปล่อยผีสอยทีหลัง
นับได้ว่าขณะนี้ ถนนการเมืองได้คลอดว่าที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 200 คน และสำรอง 100 คน ที่เตรียมพร้อมจะเข้าทำงานในสภาเพื่อประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ยาวไป! ศาลรัฐธรรมนูญนัดถกคดียุบก้าวไกลครั้งหน้า 17 ก.ค.
ศาลรัฐธรรมนูญรอตรวจพยานหลักฐานคดียุบพรรคก้าวไกล 9 ก.ค.พร้อมนัดถกต่อ 17 ก.ค.
'แก้วสรร' บอก 'ชาญ' ควรขอโทษประชาชนและลาออก!
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ เขียนบทความในรูปถาม-ตอบ
'ดิเรกฤทธิ์' เตือนสติ กกต.อย่าดึงดันเร่งประกาศชื่อ สว.ใหม่
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กระ
เทพไทถามหา 'จิตสำนึก' เพื่อไทยปมดัน 'ลุงชาญ' ชิง อบจ.ปทุมธานี
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา