เลขาฯ กกต.ยัน 23 ก.ย.ชัดเจนเรื่อง 180 วันอะไรทำได้-ไม่ได้

ที่ประชุม กกต.เตรียมถกประกาศสร้างความชัดเจน 180 วัน คาด 23 ก.ย.ชัดเจน ห่วงยุบสภาก่อนกฎหมายลูกบังคับใช้ พรรคการเมืองมีปัญหาทำไพรมารีโหวตแบบเก่า

22 ก.ย.2565 - นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี กกต.เตรียมประกาศหลักเกณฑ์ให้พรรคการเมืองได้ทราบและปฏิบัติ เพื่อเตรียมพร้อมในช่วง 180 วันที่สภาผู้แทนราษฎรจะหมดวาระ ซึ่งจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.ว่า วิธีการหาเสียงมีกำหนดอยู่ในระเบียบของ กกต.อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรณี 180 วัน กรณีสภาอยู่ไม่ครบวาระ หรือยุบสภา คือมาตรฐานแบบเดียวกัน เพียงแต่ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อาจแต่ต่างออกไป เพราะมีกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับรอการประกาศใช้ ทำให้เงื่อนไขในการหาเสียงบางอย่างยังไม่เกิดขึ้น เช่น หน่วยเลือกตั้ง เขตเลือกตั้ง ต้องรอกฎหมายฉบับใหม่ ทำให้ฐานะของผู้สมัครและพรรคการเมืองที่จะนำไปใช้ในการหาเสียงยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้สำนักงาน กกต. จะเสนอร่างประกาศดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม กกต. เพื่อพิจารณาก่อนจะแจ้งให้พรรคการเมืองทราบในวันที่ 23 ก.ย.นี้ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้เกิดความชัดเจนในการหาเสียง

นายแสวง กล่าวถึงข้อกังวลที่พรรคการเมืองกลัวว่าในช่วง 180 วันอะไรทำได้ทำไม่ได้บ้างนั้น ว่า ตัวระเบียบมีกำหนดไว้อยู่แล้ว ซึ่งพรรคการเมืองเคยใช้แล้ว แต่สิ่งที่ต่างออกมาคือระยะเวลาที่มากขึ้น แต่ก่อนมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง กรณีไม่ครบวาระจะใช้เวลาหาเสียงประมาณ 30 วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปเพราะ 180 วัน หรือ 6 เดือน มีกิจกรรมที่พรรคการเมืองจะหยุดไม่ได้ เช่น การประชุมใหญ่ การทำไพรมารี่โหวต การทำกิจกรรมทางการเมืองตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่ง กกต.จะมีการชี้แจงให้พรรคการเมืองได้รับทราบ ในการประชุมชี้แจงพรรคการเมืองที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ก.ย.นี้ เพราะระยะเวลา 6 เดือน หาเสียงทอดยาวมาก ซึ่งต้องดูองค์ประกอบว่าจะเข้าข่ายการหาเสียงการเลือกตั้งหรือไม่

เมื่อถามว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการหาเสียงกับการช่วยเหลือประชาชนหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เส้นแบ่งทางกฎหมายมีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรต้องดูเป็นกรณีไป ทั้งนี้ตัวระเบียบมีอยู่แล้ว เพียงแต่เงื่อนเวลาเพิ่มขึ้นมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ใช้ระยะเวลา 180 วันเพิ่มขึ้นมา และมีกฎหมาย 2 ฉบับที่จะเป็นเครื่องมือในการเลือกตั้งครั้งต่อไป แต่ยังไม่มีผลใช้บังคับ เพื่อเป็นฐานในการทำงาน

ถามย้ำว่าการไม่มีกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับจะมีปัญหาในการปฏิบัติหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ถ้าไปถึงวันที่ 23 มี.ค.2566 ทุกอย่างจะเรียบร้อย และพรรคการเมืองก็จะมีเวลาเตรียมตัว และมีช่วงเวลาในการหาเสียง การทำไพรมารีโหวตตามกฎหมายใหม่ แต่ถ้าสถานการณ์การเมืองทำให้พรรคต้องทำไพรมารีโหวตตามกฎหมายเดิม จะมีพรรคการเมืองทำไพรมารี่ตามกฎหมายดังกล่าวได้หรือไม่ สามารถส่งผู้สมัครได้หรือไม่

“ไม่ได้ห่วงสำนักงาน กกต. เพราะได้มีการเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว แต่กังวลกับพรรคการเมือง เนื่องจากปัจจุบันมีพรรคการเมืองเป็นจำนวนมาก ถ้ากฎหมายใหม่ใช้บังคับก็จะทำไพรมารีโหวตตามกฎหมายใหม่ ซึ่งจะง่ายกว่าการทำไพรมารี่แบบเก่า เพราะใช้เขตจังหวัดเป็นเขต แต่หากใช้กฎหมายฉบับเก่าจะต้องไปทำไพรมารีโหวตในทุกเขต ตั้งมีการจัดตั้งสาขาและตัวแทนพรรคในทุกเขต ต้องมีการจัดประชุม ตรวจเช็กองค์ประชุม บันทึกการประชุม ซึ่งจะต้องลงรายละเอียดคะแนนของการโหวตผู้สมัครที่อาจจะเป็นปัญหายุ่งยากต่อพรรคการเมือง”

เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบกรณีที่พรรคการเมืองลงพื้นที่และแอบแฝงการหาเสียงอย่างไร นายแสวง กล่าวว่า ทุกเรื่องกฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้ว ต้องดูข้อเท็จจริงแต่ละเรื่องว่าเป็นอย่างไร แต่ทุกคนต้องทำตามกฎหมาย ส่วนการลงพื้นที่ของรักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีก็ต้องจับตาตามปกติอยู่แล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สนามเลือกตั้งอบจ.คึกคัก จับตา หย่อนบัตร4 จว. ลุ้นกกต.รับรอง 'ชาญ พวงเพ็ชร์'

สนามเลือกตั้งท้องถิ่น อบจ.คึก หลังนายก อบจ.ทยอยลาออก สนามต่อไป 'อยุธยา-ชัยนาท-พะเยา' หย่อนบัตร 4 ส.ค.นี้ ส่วน ชัยภูมิ 11 ส.ค. ลุ้น กกต.กลางประกาศรับรอง 'ชาญ พวงเพ็ชร์'

สว.ใหม่รายงานตัว7ก.ค.

"กกต." ยื้อประกาศ สว. ยกเหตุต้องพิจารณาคำร้องให้เสร็จ ด้าน "สมชาย" ควันออกหูโดนไล่ที่แล้ว บี้ตรวจสอบ 4 คำร้องโกงเบอร์ใหญ่

จับตา กกต.เลื่อนรับรอง สว. เตรียมปล่อยผีสอยทีหลัง

นับได้ว่าขณะนี้ ถนนการเมืองได้คลอดว่าที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 200 คน และสำรอง 100 คน ที่เตรียมพร้อมจะเข้าทำงานในสภาเพื่อประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว