ทนายของ 'อานนท์-ไมค์-รุ้ง' รวมหัวป่วนตุลาการ หิ้ว 'ส.ศิวลักษณ์' เป็นพยานขอให้ไต่สวนคดีล้มล้างการปกครอง สุดท้ายจ๋อยเจอศาลสอน ระบบไต่สวน ไม่ใช่ระบบกล่าวหา เอกสาร หลักฐาน พิจารณามาปีกว่าแล้ว 'สิ่งที่คุณอ้าง ก็เป็นข้ออ้างของคุณ'
10 พ.ย.2564 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.00น. ก่อนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะเริ่มอ่านคำวินิจฉัยในคดีที่นายณฐพร โตประยูร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการปราศรัย ของนายอานนท์ นำภา, นายภาณุพงศ์ จาดนอก นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่ นั้น
ศาลรัฐธรรมนูญได้แจ้งรายชื่อบุคคลที่เข้ามารับฟังคำวินิจฉัย โดยนายณฐพร โตประยูร ในฐานะผู้ร้องได้เดินทางมารับฟังคำวินิจฉัยด้วยตนเอง ส่วนนายอานนท์ นำภา ผู้ถูกร้องที่ 1 มอบหมายให้นายกฤษฎางค์ นุตจรัส เป็นผู้แทนมาศาล นายภานุพงศ์ จาดนอก ผู้ถูกร้องที่ 2 มอบหมายให้นายนรเศรษฐ์ นอหนองตุม เป็นผู้แทนมาศาล ส่วนน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ผู้ถูกร้องที่ 3 เดินทางมารับฟังคำวินิจฉัยเอง
ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัย นายกฤษฎางค์ ได้กล่าวต่อศาลว่า ตนได้รับมอบจากนายอานนท์ ซึ่งขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยระบุว่า ถ้าศาลมีคำวินิจฉัยไม่รับคำร้องขอให้ดำเนินการไต่สวน นายอานนท์ บอกว่าไม่ต้องอยู่ในห้องพิจารณาให้ออกไปเลย เพราะไม่ประสงค์จะให้มีตัวแทนมารับฟังคำวินิจฉัย
ส่วนเรื่องการไต่สวนตนและนายอานนท์เข้าใจว่าเป็นอำนาจของศาลที่จะงดการไต่สวนเพราะศาลยุติธรรมหรือศาลอื่น หากหลักกฎหมายเพียงพอก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาคดี เพียงแต่เราอาจจะมองต่างมุม เนื่องจากเรื่องนี้เป็นข้อกล่าวหาที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเราควรมีโอกาสแสวงหาข้อเท็จจริงเสนอต่อศาลด้วย โดยวันนี้ตนได้นำพยาน คือ นายส.ศิวลักษณ์ มาด้วย จึงขอให้ศาลช่วยบันทึกไว้ด้วย และขอเรียนด้วยความเคารพในฐานะเป็นผู้รับมอบอำนาจจึงต้องปฎิบัติตามคำสั่งของนายอานนท์
จากนั้นนายนรเศรษฐ์ ทนายของนายภานุพงศ์ ก็ได้แจ้งต่อศาลในลักษณะเดียวกันว่าไม่ประสงค์จะอยู่รับฟังคำวินิจฉัย จึงขอออกจากห้องพิจารณาไปขณะที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชี้แจงว่า ศาลพิจารณาคดีโดยใช้ระบบไต่สวน แสวงหาข้อเท็จจริงได้จากหลายฝ่าย เมื่อได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนที่สามารถจะวินิจฉัยได้จึงสั่งงดการไต่สวน ซึ่งเป็นคำสั่งตามที่กฎหมายบัญญัติ ส่วนการไม่ประสงค์ฟังคำวินิจฉัยก็เป็นสิทธิ
นางสาวปนัสสยา กล่าวกับศาลว่า วันนี้เรามาฟังคำวินิจฉัยโดยทนายของพวกเราเคยมีการยื่นขอศาลให้ดำเนินการไต่สวน หนูไม่ใช่นักเรียกกฎหมายก็อาจจะรู้น้อย แต่ก็เข้าใจว่าการได้มาซึ่งความยุติธรรม อย่างน้อยควรจะต้องรับฟังทุกอย่างเท่าที่จะรับฟังได้ ซึ่งวันนี้ อาจารย์ ส. ศิวลักษณ์ ได้มารออยู่ พร้อมที่เข้าไต่สวนหากศาลอนุญาต แต่ถ้าศาลไม่อนุญาตและให้รับฟังคำวินิจฉัย โดยที่หนูไม่มีโอกาสแสวงหาความจริงเพิ่มเติมให้รัฐธรรมนูญก็คงต้องขอออกจากห้องพิจารณาเช่นกัน
ศาลได้ชี้แจงว่า เป็นข้ออ้างของฝ่ายผู้ถูกร้องว่าไม่ไต่สวน แต่ความจริงกระบวนการพิจารณาของศาลไต่สวน เราแสวงหาข้อเท็จจริงทุกอย่าง เอกสารที่ได้มาได้ส่งให้ผู้ถูกร้องเรียกร้อยหมดแล้ว ผู้ถูกร้องมีหน้าที่โต้แย้งเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งศาลได้รับหมดแล้ว ถือว่าได้ให้ความเป็นธรรม และยุติธรรมกับผู้ถูกร้องทั้งหมดแล้ว ไม่ใช่การพิจารณาในระบบกล่าวหา แต่เป็นระบบไต่สวนซึ่งศาลมีอำนาจไต่สวน แต่ในการไต่สวนศาลได้ให้ผู้ถูกร้องทราบ พยานหลักฐานทุกอย่างและให้โอกาสโต้แย้ง ดังนั้นกระบวนการพิจารณาถูกต้อง “สิ่งที่คุณอ้าง ก็เป็นข้ออ้างของคุณ” ยืนยันว่าเรื่องนี้ศาลใช้เวลาพิจารณาเป็นปี เรารอบคอบในการหาพยานหลักฐาน ไม่ใช่รับคำร้องมาแล้วตัดสิน ใช้เวลาปีเศษด้วยซ้ำไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไพบูลย์' เบรกหัวทิ่มมือกฎหมายเพื่อไทย คลอดประชามติ 2 ครั้ง
“ไพบูลย์” โต้ ”ชูศักดิ์“ ใช้คำวินิจฉัยส่วนตน 6 ตุลาการอ้างทําประชามติ 2 ครั้งไม่ได้ บอก ต้องยึดคําวิฉัยกลาง ชี้มีแค่แก้รายมาตราเท่านั้นไม่ต้องทำ
วัฒนาแห้ว! ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง
'วัฒนา' แห้ว 'ศาล รธน.' มติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ปมขอให้ชี้ขาดคำพิพากษาขององค์คณะผู้พิพากษาคดีทุจริตบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ
'ไพศาล' เผยเหตุศาลรธน. ให้อัยการสูงสุดชี้แจงคำร้องสอบ 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ทำไมศาลรัฐธรรมนูญต้องให้อัยการสูงสุดชี้แจงคำร้องขอเกี่ยวกับการล้มล้างการปกครอง
ศาลรธน. ถามอัยการสูงสุด ปมคำร้องทักษิณครอบงำเพื่อไทย ขีดเส้นตอบกลับใน 15 วัน
ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาในคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ
'หมอวรงค์' เปิดเบื้องลึก! ทำไมไม่ควรนิรโทษกรรมคดี 112
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทำไมจึงไม่ควรนิรโทษกรรมคดี 112" โดยระบุว่า
ดร.ณัฏฐ์-นักกม.มหาชน ชี้ชัด 'ล้มล้างการปกครอง' ต้องมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ
มือกฎหมายมหาชน ชี้ “ล้มล้างการปกครอง” สารตั้งต้นนำไปสู่ยุบพรรคเพื่อไทย ต้องมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เพียงพอ กำลังดำเนินอยู่และไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ