‘นิพนธ์’ ลั่น ‘ปชป.’ พร้อมทั้งบุคลากร-นโยบาย มั่นใจกวาด ส.ส.พื้นที่ภาคใต้

รองหัวหน้าพรรค ปชป. ยันพรรคเน้นการสร้างคนมาตลอด 76 ปี เดินหน้า ชู นโยบายการศึกษาทันสมัย มั่นใจพื้นที่ภาคใต้กวาดส.ส.ได้แน่

18 ก.ย.2565-ที่โรงแรมหรรษา เจบี หาดใหญ่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัต์ย์(ปชป.) พร้อมด้วย นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าทีมการศึกษาทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์  เดินสายพบว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคปชป. เขตเลือกตั้งที่ 1 นายสรร เพชญ บุญญามณี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคปชป.เขต 1 สงขลา และเขตเลือกตั้งที่ 2  นายนิพัฒน์ อุดมอักษร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคปชป.เขต 2 ท่ามกลางการต้อนรับของว่าที่ผู้สมัครทั้งสองเขต และ กรรมการสาขาพรรค  และกลุ่มพลังมวลชนร่วมต้อนรับและรับฟังการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “การศึกษาทันสมัย”

นายนิพนธ์ กล่าวถึงความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์จังหวัดสงขลา มีความพร้อมแล้วถึง 90% เหลือบางพื้นที่เท่านั้นที่ต้องหาคนที่ดีที่สุด เพื่อมาลงแข่งขัน ลงสมัครเลือกตั้งรับใช้ประชาชน ในเรื่องของการทำนโยบาย การเตรียมการในการสรรหาตัวผู้สมัคร การเตรียม การประชาสัมพันธ์ สิ่งเหล่านี้ได้ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องแล้ว ซึ่งล่าสุดหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการโดยท่านเลขาธิการพรรคเป็นประธานคณะกรรมการ ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยเปิดตัวผู้สมัครไปบ้างแล้วในบางจังหวัด

“พรรคมีความเชื่อว่าในพื้นที่ภาคใต้นี้เรามีความพร้อม ทั้งนโยบาย บุคคล ทีมงานในการสร้างแกนนำของพรรคในเขตเลือกตั้ง แต่ละพื้นที่ วันนี้จำนวน ส.สเพิ่มเป็น 58 ที่นั่งพรรคประชาธิปัตย์ คาดหวังว่าขั้นต่ำจะได้ประมาณ 35-40 ที่นั่ง   ซึ่งในอดีตถือว่าเคยแข่งขันกับพรรคใหม่ๆเป็นประจำ  วันนี้จึงถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง วันนี้กว่า 76 ปีของพรรคปชป.เราผ่านร้อนผ่านหนาวมามากพอสมควร และเห็นอะไรทางการเมืองมาก็มาก และพรรคใหม่ที่แข่งกับเราทางการเมืองก็หายไปทุกครั้ง ดังนั้นนี่คือสิ่งที่พรรคปชป.มั่นใจว่า ประชาธิปัตย์จะกลับมาในภาคใต้อีกครั้ง”

นายนิพนธ์ กล่าวว่า วันนี้ที่พรรคปชป.ได้ทำเอาไว้ในเรื่องของกองทุนเพื่อการกู้ยืมทางการศึกษา ในสมัยท่านชวน  หลีกภัยเพราะเราต้องการเห็นถึงความยั่งยืนทางการศึกษา เพื่อให้ลูกหลานของคนที่มีฐานะยากลำบาก และมีบุตรหลายคนซึ่งจะเป็นภาระต่อครอบครัว ได้มีโอกาสเข้าถึงทางการศึกษา ฉะนั้นกองทุนนี้จึงเกิดขึ้น และลูกหลานก็ได้รับประโยชน์จากกองทุนนี้ กว่า 6 ล้านคน และได้ใส่งบลงไปในกองทุนนี้แสนกว่าล้านบาท  ดังนั้นถ้าจะเปลี่ยนหลักเกณฑ์ อย่างไรก็ต้องนึกถึงความจริงคือ ประชาชนได้ประโยชน์  ลูกหลานของชาวบ้านไม่มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาและกองทุนต้องอยู่ได้อย่างถาวร ฉะนั้นการที่จะทำให้มีวินัย ในเรื่องของการกู้ยืม สิ่งนี้มันเป็นความจำเป็น ถ้าเห็นว่าสิ่งนี้มีประโยชน์ เราต้องแยกกองทุนนี้กับเรื่องการศึกษาฟรี ต้องแยกจากกันให้ได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ฟิลิปปินส์'เปิดชื่อ23แข้ง ลุย'คิงส์คัพ'ที่สงขลา มี5นักเตะไทยลีกติดทัพ

สหพันธ์ฟุตบอลฟิลิปปินส์ จัดการประกาศรายชื่อ 23 นักฟุตบอลทีมชาติฟิลิปปินส์ ชุดใหญ่ สำหรับการเดินทางมาทำการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 ที่จังหวัด สงขลา ระหว่างวันที่ 11-14 ตุลาคม

'นายกต้อย' ไขก๊อก! อบจ.เมืองคอน อ้างเหตุผลสุดอึ้ง

างกนกพร เดชเดโช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ยื่นหนังสือลาออกแล้วจากการปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช

ตร.ล่ามือสังหารเด็กม.3 ทิ้งศพบ่อดินร้าง

สงขลาสุดสลด พบศพนักเรียนชายม.3 ถูกฆาตรกรรมคาชุดนักเรียนทิ้งศพในบ่อดินร้างหลังหายไป 5 วัน พร้อมรถจักรยานยนต์และโทรศัพท์มือถือตำรวจเร่งหาเบาะแสผู้ก่อเหตุ