“สุรนันทน์” เปรียบรัฐบาลเหมือนเป็ดหัวขาด ทำงานแก้ปัญหาปชช.ไม่ได้ ยุติอำนาจ 3 ป. ชี้เร่งยุบสภาจบปัญหาตามวิถีประชาธิปไตย ไม่ต้องกังวลเจ้าภาพประชุมเอเปค แซะ “บิ๊กป้อม”เพิ่งนุ่งกางเกงยีนส์หาเสียงเมื่อวานนี้
18 ก.ย.2565 – ที่ศูนย์ประสานงานเขตบางแค พรรคสร้างอนาคตไทย นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคและประธานภาคกรุงเทพฯ นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดศูนย์ประสานงานเขตบางแค พรรคสร้างอนาคตไทย โดยนายสุรนันทน์ ให้สัมภาษณ์ว่า เขตบางแคเป็นเขตเป้าหมายหนึ่ง ที่พรรคสร้างอนาคตไทยเลือกส่งผู้สมัครที่เป็นคนรุ่นใหม่ คือ น.ส.ปภัสรินทร์ กีรติอัคราวัชร์ เพราะหลายเขตในกทม.ต้องการคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานให้อย่างแท้จริง มีกระแสของผู้คนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงต้องการคนรุ่นใหม่ๆ มีความคิดใหม่ๆ มาทำงาน ขณะที่ผู้สมัครของเราก็ต้องทำงานหนักเพราะเป็นคนใหม่ ขณะเดียวกันก็ต้องการประสบการณ์จากคนรุ่นเก่า พรรคสร้างอนาคตไทยจึงตั้งใจรวบรวม คนที่มีประสบการณ์กับคนรุ่นใหม่เพื่อเข้ามาทำงานแก้ไขให้ได้
นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ทุกเขตมีเจ้าของพื้นที่เดิมทั้งหมดเพราะเราเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่ขณะเดียวกันด้วยชุดความคิดใหม่ของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย และเรื่องการแก้ปัญหาปากท้องทางเศรษฐกิจ เพราะไม่ว่าเดินที่ไหนก็มีแต่คนมักจะบ่นเรื่องปากท้องแต่เพียงอย่างเดียว ดังนั้นเรื่องปากท้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อเราเสนอชุดความคิดที่แตกต่างจากคนอื่น ไม่ใช่ประชานิยมปกติ ไม่ใช่การกู้ ไม่ใช่การแจกเงิน แต่เป็นทางออกให้คนตัวเล็กตัวน้อย พ่อค้าแม่ค้า สามารถยืนฟื้นขึ้นมาได้ จึงกลายเป็นที่สนใจ แต่ประชาชนไม่ได้ต้องการคนที่มาพูดเฉยๆ ต้องการคนที่ทำงาน ดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญส.ส.พื้นที่มากกว่าส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพราะส.ส.พื้นที่ จะต้องเป็นตัวแทนประชาชนอย่างแท้จริง
“ สองนโยบายหลักของพรรคที่จะให้ส.ส.พื้นที่นำเสนอ คือ เรื่องกองทุนสร้างอนาคตไทย เพราะจะเป็นส่วนที่นำมาช่วยนักธุรกิจรายย่อย หาบเร่แผงลอย พ่อค้าแม่ค้า ให้ฟื้นตัวได้ อีกส่วนหนึ่ง จะนำมาปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ทุกคนเห็นโอกาสที่จะฟื้น มีเงินออม ค่าเล่าเรียนลูกหลาน” นายสุรนันท์ ระบุ
เมื่อถามถึงสถานการณ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาล ส่งสัญญาณใดหรือไม่ นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ต้องบอกว่ารัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลเป็ดง่อย แต่เป็นรัฐบาลเป็ดหัวขาด ทำงานไม่ได้ ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ ความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ก็เป็นความขัดแย้งในช่วง 5-6 เดือนสุดท้ายที่กำลังจะหมดอายุขัยของสภาผู้แทนราษฎร แต่ประชาชนรอไม่ได้ถึง 6 เดือน ตนเองคิดว่าถ้ารัฐบาล ไม่กลับมาพูดคุยกันให้รู้เรื่องว่าในระยะเวลาต่อไปนี้รัฐบาลจะทำอะไร สร้างเครดิตให้กับประเทศอย่างไรในช่วงการประชุมเอเปค หรือดีที่สุดไปมากกว่านั้นคือยุบสภา เพื่อให้ประชาชนตัดสิน ไม่ต้องกลัวว่าช่วงเอเปคจะมีรัฐบาลรักษาการ แต่การยุบสภาเป็นประชาธิปไตย ทั่วโลกจะได้ยอมรับว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย โลกยอมรับการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจจะเป็นเครดิตที่ดีกว่าที่เป็นรัฐบาลเป็ดหัวขาดนี้ด้วยซ้ำ
เมื่อถามถึงกรณีพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุพร้อมเลือกตั้งแต่ไม่รู้จะยุบสภาเมื่อไหร่นั้น นายสุรนันทน์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร บอกพร้อมเลือกตั้ง และเพิ่งใส่กางเกงยีนส์เมื่อวานนี้(17ก.ย.) แต่ตนเองนั้นใส่กางเกงยีนส์เดินหาเสียงมาหลายเดือนแล้ว และทำงานให้ประเทศมา 7-8 ปี ไม่ว่าจะมีคนชอบหรือไม่ชอบ ก็ถือว่าหมดเวลาแล้วสำหรับ 3ป. ถึงเวลาที่จะให้คนใหม่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ประชาชนเลือกเข้ามาจะแก้ปัญหาได้ดีกว่าเพราะจะมีแนวทางใหม่ๆที่มาแก้ปัญหาให้ประเทศ
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเองก็ได้กลิ่นยุบสภาเลือกตั้งใหม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า เราส่งคนในกทม. เต็มพื้นที่ แต่ที่สำคัญที่สุด หากใครพร้อมเลือกตั้ง แต่ถ้าพร้อมโดยที่ไม่ได้ฟังเสียงของประชาชนก็จะมีปัญหา เพราะประชาชนเปลี่ยนไปมาก แต่ละช่วงอายุคน ย่อมมีปัญหา ต้องการ ที่แตกต่างกัน เราพยายามเข้าถึงทุกช่วงอายุคน ทุกอาชีพ และใช้ ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งนี้รวบรวมชุดความคิดและนำเสนอเพื่อแก้ปัญหาแต่ละพื้นที่ได้
เมื่อถามว่าประเมินผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 30 กันยายนนี้อย่างไร นายสุรนันทน์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อหรือไม่นั้น เป็นเหตุผลทางนิติศาสตร์ แต่ทางพฤตินัยหรือความชอบธรรมนั้น 8 ปี ครบแล้ว หากตนเองเป็นพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เลือกที่จะลาออกเพื่อให้กระบวนการประชาธิปไตยกลับเข้าสู่สภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตนเองก็จะยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนหลังจากที่ใช้อำนาจมา 8 ปี แต่ถ้าคงอยู่ต่อไปขณะที่ประชาชนเดือดร้อนมาก พรรคการเมืองตีกัน พรรคร่วมรัฐบาลแก่งแย่งงบประมาณกัน ไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลัวครหา! อนุทิน ไม่ลงช่วยผู้สมัคร นายกอบจ.สุรินทร์ หาเสียง แค่ส่งกำลังใจ
'อนุทิน' แจง ไม่ลงไปช่วยผู้สมัครนายกอบจ.สุรินทร์ ได้แต่ส่งกำลังใจ หวั่นมีข้อครหาเยอะ กำชับ ปลัดมท.สั่งข้าราชการฝ่ายปกครอง ต้องทำตัวเป็นกลาง บอกติดตลก เลือกตั้งครั้งหน้าทุกพรรคกวาดเก้าอี้เกิน200 เสียง คงมีสส.ในสภาฯ 2000 คน
นายกฯอิ๊งค์ลั่นประเทศไทยต้องยืนหนึ่งบนเวทีโลก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า “ก่อนการเดินทางกลับประเทศไทยช่วงเวลา 18 นาฬิกาของวันนี้ (วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน) ตามเวลาเปรู ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 27 ชั่วโมง โดยจะถึงประเทศไทยในวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน ประมาณ 11 นาฬิกา ตามเวลาในประเทศไทย นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สรุปภาพรวมภารกิจ การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ดังนี้
ยากจะหาใครรับมือ! ซูฮก 'ทักษิณ' สำเร็จเคล็ดวิชาขั้นสูง 'มือถือสากปากถือศีล'
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นักกฎหมาย อดีตสส.จังหวัดพัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "คุณทักษิณ ชินวัตร สำเร็จเคล็ดวิชาขั้นสูงแล้ว" ระบุว่าจะว่ามมไม่เงี่ยหูฟังคุณทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยที่จ.อุดรธานี เสียเลยก็ไม่
'ลุงป้อม' ร่วมลอยกระทง อวยพรคนไทย สุขสมหวัง สิ่งใดไม่ดีขอให้หลุดพ้น
พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ พล.อ. กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ พล.ต.ท ปิยะ
'อนุทิน' ไม่หวั่น 'ทักษิณ' โวกวาด 200 เสียง ยัน 'รมต.-สส.' ภท. ขยันทำงาน
'อนุทิน' ชี้ 'ทักษิณ' โวเลือกตั้งครั้งหน้ากวาด 200 เสียง มีสิทธิตั้งเป้า ยัน ภท. ไม่เงียบ 'รมต.-สส.' ลงพื้นที่ทำงานขึ้นเหลือล่องใต้ ปัดส่งผู้สมัครชิง นายก อบจ. ในนามพรรค
ถึงคิว 'พิธา' ยกทัพตรึงอุดรฯ ร่วมงานลอยกระทง ขึ้นปราศรัย 3 เวทีใหญ่
ถึงคิว 'พิธา' ยกทัพตรึงอุดรธานี หลังโดน 'ทักษิณ-พท.' แย่งเรตติ้งสองวันติด ร่วมงานลอยกระทง ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่สามจุดวันเสาร์