น้ำท่วมอยุธยายังไม่ลด พิธาลงพื้นที่สำรวจปัญหา-ให้กำลังใจประชาชน แนะรัฐบาลตั้งวอร์รูมเกาะติดสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ
18 ก.ย. 2565 – นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางไปเยี่ยมประชาชนและสำรวจพื้นที่น้ำท่วมที่อยุธยา เป้าหมายหลักคืออำเภอบางบาล ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพ มีน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะในปีนี้ที่เริ่มท่วมเร็วตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม และท่วมซ้ำ 2 ครั้ง รวมเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 1 เดือนแล้ว
“อ.บางบาล อาจกล่าวได้ว่าเป็นพื้นที่กลางน้ำ โดยมีต้นน้ำทางเหนือ อาทิ จ.เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ ซึ่งผมเพิ่งได้ไปสำรวจมาเมื่อวันก่อน ขณะที่ต่อมา จ.นครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง รวมถึงพระนครศรีอยุธยา ตรงนี้คือกลางน้ำ แล้วก็ไปสู่ปลายน้ำที่ จ.ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร”
จากการนั่งเรือเข้าไปสำรวจในชุมชน พบว่าบางช่วงของบางบาลระดับน้ำลึกเกือบ 2 เมตร ชั้นล่างของบ้านท่วมจนมิดแล้ว มีประชาชนเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ขณะที่การช่วยเหลือเยียวยาก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะชุมชนนี้ที่มีทั้งเด็ก คนแก่ และผู้ป่วยติดเตียงอยู่เป็นจำนวนมาก
ความเดือดร้อนของประชาชน ทำให้พิธาต้องเสนอวิสัยทัศน์การบริหารจัดการน้ำกันใหม่ว่า
1.- ทั้งหมดต้องบริหารจัดการไปในทิศทางเดียวกัน เพราะถ้าปลายน้ำยังระบายน้ำไม่ได้ กลางน้ำยังท่วมอยู่แบบนี้ ขณะที่ต้นน้ำก็ยังปล่อยน้ำลงมาอีก ก็จะยิ่งจัดการยาก
2.- สถานการณ์ตอนนี้หลักการบริหารจัดการที่ถูกต้องในช่วงน้ำท่วม คือ ต้องให้หน่วยงานเรื่องน้ำที่กระจัดกระจายอยู่กว่า 40 หน่วยงานได้รวมเป็นศูนย์เดียวกัน เป็นวอร์รูม (Warroom) ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตั้งแต่จังหวัดต้นน้ำมาจนถึงปลายน้ำเข้าร่วมด้วย
3.- การตั้ง Warroom จะได้เห็นข้อมูลทั้งหมด ทำให้การระบายน้ำเป็นไปในทิศทางเดียวกัน สามารถประเมินได้ว่าน้ำจะไหลไปทางไหน จะมีฝนตกอีกหรือไม่ น้ำป่าจะมาจากทางไหน หรือน้ำเขื่อนควรต้องระบายตอนไหน นี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้องเริ่มต้นทำได้แล้วตอนนี้
4.- จริงอยู่ว่าเรามีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) มี กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ที่เป็นเสมือนวอร์รูม แต่การจัดการน้ำในปีนี้เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าการบริหารยังไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
บางพื้นที่ของต้นน้ำก็ปล่อยน้ำมาเร็ว ขณะที่กลางน้ำและปลายน้ำยังระบายไม่เสร็จ น้ำยังไม่ลงทะเล แต่ต้องรับน้ำใหม่มาจนเกิดการท่วมขัง
ด้านทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล เขต 1 อยุธยา ยังได้กล่าวอีกว่าบางครั้ง อ.บางบาลก็ไม่สามารถทำหน้าที่เต็มศักยภาพในการเป็นทุ่งรับน้ำได้ เนื่องจากมีเอกชนที่ทำธุรกิจบ่อทรายที่ป้องกันไม่ให้น้ำเข้า ซึ่งว่าทำให้น้ำไปท่วมบ้านเรือนของประชาชนมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น อย่างที่ชุมชนวัดกอไผ่ ต.บางหลวงโดด ที่ทีมงานพรรคก้าวไกลได้ไปสำรวจ บางจุดท่วมสูงเกือบ 2 เมตร ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับเอกชน
สำหรับการเยียวยาน้ำท่วมบ้านเรือนของประชาชน เสียงสะท้อนในพื้นที่พูดตรงกันว่ายุ่งยาก ไม่เป็นธรรม ไม่ครอบคลุมทั่วถึง และมีเงื่อนไขมากเกินไป เช่น จ่ายค่าชดเชยให้กับของที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ แต่ไม่ให้กับของเคลื่อนย้ายได้ ทั้งๆ ที่ความเดือดร้อนของประชาชนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนที่ถูกน้ำท่วมบ้านไม่สามารถไปทำงานหรือประกอบอาชีพได้ถึง 3 เดือน ก็ไม่มีการดูแลเยียวยารายได้ประชานที่หายไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ค้าน ‘VAT’15% ‘พิธา’ สอน ‘อิ๊งค์’ ต้องปฏิรูปภาษี
"พิธา" แนะรัฐบาลปฏิรูปภาษีทั้งระบบ ดีกว่าเจาะจงที่แวต ถามตัวเลข 15% มาจากไหนไม่เข้าใจ ด้านประธานหอการค้าขอนแก่นระบุการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มควรขึ้นไม่เกิน 10%
'พิธา' แนะรัฐบาลปฏิรูปภาษีทั้งระบบ มากกว่าปรับขึ้น VAT 15% สงสัยอยู่ดีๆก็โพล่งมา
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวรัฐบาลมีแนวคิดขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 15% ว่า ภาษีในประเทศ มีทั้งภาษีทางตรง
'พิธา' ลุยช่วยหาเสียงเลือกนายก อบจ.อุบลฯ หวังเป็นตาอยู่ ศึก 2 ขั้วใหญ่ชนกันเอง
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ลงพื้นที่ช่วยนายสิทธิพล เลาหะวนิช ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้