7 ก.ย.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสมาชิกรัฐสภาอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมทั้ง 4ร่างครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว กระทั่งเวลา 17.00 น. นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม จึงให้เจ้าของร่างแก้ไขแต่ละฉบับ สรุปการอภิปราย โดยนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย สรุปว่า การขอแก้ไขมาตรา159 ให้บุคคลได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯต้องเป็นส.ส.และอยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคการเมือง ยึดหลักอุดมคติประชาธิปไตย และยึดโยงประชาชน คนจะเป็นผู้บริหารประเทศต้องผ่านการคัดกรองจากประชาชน ซึ่งคนเป็นส.ส.ก็ผ่านการคัดกรองจากประชาชนก่อน ไม่ใช่จู่ๆไปเอาใครมายัดให้สภาฯเลือก เท่าที่ฟังการอภิปรายมั่นใจว่า ทั้ง 4ร่างจะตก เพราะเสียงส.ว.ส่วนใหญ่ประกาศไม่รับทั้ง 4ร่าง แต่เหตุผลที่บอกไม่รับเพราะถูกเหน็บแนม ตบกะโหลกนั้น ถ้าจะตกด้วยอารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจ โกรธแค้น ถือว่าน่าผิดหวังสำหรับประชาชน ยิ่งการไม่ยอมรับกติกาฉบับนี้แล้วบอกว่า ก็ต้องไม่เข้ามาอีกในสมัยหน้า แต่เรายืนยันจะดั้งด้นเข้ามา เพื่อแก้ไขกติกาให้ได้
นายแสนยากร สิงห์วีรธรรม คณะรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาก่อนจะที่จะให้สมาชิกทำการลงมติว่า จากเท่าที่ได้ฟังการอภิปรายของสมาชิก เห็นว่าหลายคนให้การสนับสนุน หลายคนมีความเห็นต่าง จนเกิดแรงกระทบกระทั่งกันไปมา จึงอยากทำความเข้าใจว่าเป็นการเสนอโดยภาคประชาชน ที่อยากให้พิจารณาในแง่หลักการและเหตุผลที่ควรจะเป็น
นายแสนยากรณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีหลักการสั้น ๆ 4 ป. ซึ่งไม่ได้หมายถึงตัวบุคคล แต่เป็นประเด็นต่างๆที่ตนอยากเสนอ คือ 1 ป. ประชามติ สืบเนื่องในการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ มีคำถามพ่วงที่ผูกโยงว่าควรให้ ทั้งส.ว และส.ส. เป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรี แม้รัฐธรรมนูญจะผ่านการออกเสียงประชามติและเกิดจากคำถามพ่วง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะมีการเปิดช่องให้มีการแก้ไขอยู่แล้ว เราจึงใช้ช่องทางนี้เสนอเข้ามา
"ตลอด5 ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามีหลายมาตราที่อยากให้มีการแก้ไข ที่ผ่านมาแก้ไขได้เพียงเรื่องเดียวคือระบบเลือกตั้ง แต่เราพยายามเสนอแก้เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง สมาชิกบางคนอภิปรายว่าเป็นแค่บทเฉพาะกาลช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะแก้ไขได้ หากไม่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ที่อาจจะสร้างวุ่นวายในอนาคต เราคาดหวังว่าจะมีการแก้ไขยกเลิกอำนาจโดยเร็วที่สุด เพราะสภานการณ์การเมืองขณะนี้มีความผันผวนมาก ไม่รู็ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยสถานะออกมาอย่างไร จะยุบสภาเมื่อไหร่ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย จึงต้องทำก่อนที่จะมีการเลือกนายกฯครั้งต่อไป"
นายแสนยากรณ์ กล่าวว่า ป.ที่2 คือปฏิบัตินิยม การใช้เสียงเลือกนายกฯไม่สดคล้องกับหลักปฏิบัตินิยม ที่ต้องใช้เสียง 251ต่อ244 คือใช้สภาเดียวสามารถเลือกได้แล้ว แต่เมื่อมีส.ว.เข้ามามีส่วนร่วมทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจและไม่เป็นตามหลักการประชาธิปไตย สามปีกว่าที่เกิดความขัดแย้ง และเรื่องนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง หากปล่อยไปก็อาจจะเกิดปัญหาไม่สิ้นสุด ส่วนที่มีสมาชิกบางคนอธิปรายว่าส.ว.อาจจะเลือกฝ่ายที่มีเสียงข้างมากอยู่แล้ว แต่ตนมองกลับว่าหากสว.ตั้งใจแบบนั้น เราอาจจะปล่อยให้เป็นตามครรลองของสภาและส.ว. ก็ได้ แต่หากวันหนึ่งมีบางฝ่ายพยายามใช้เสียงข้างน้อย แล้วจัดตั้งให้เลือกนายกฯ ก็อาจจะทำให้อยู่ได้ไม่นาน ก็ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจกลายเป็นว่าการเมืองจะกลับมาไม่มีเสถียรภาพอยู่ดี หากปล่อยไว้ก็จะเปิดทางให้นำไปสู่สถานการณ์นี้ได้
นายแสนยากรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับป.ที่3 คือ ประชาธิปไตย ซึ่งรัฐธรรมนูญนี้ ระบุย้ำชัดว่าเรายึดมั่นในระบอบหลักการประชาธิปไตย หากปล่อยให้มีการใช้เสียงกลไกลที่ไม่จำเป็น และไม่มีส่วนยึดโยงกับประชาธิปไตยเข้าไปมีส่วนเลือกนายกฯ ก็อาจจะขัดต่อหลักการประชาธิปไตยเสียเอง ส่วนป.ที่4 คือ ปรองดอง โดยตนไม่อยากให้ส.ว.ตั้งธงไปก่อนว่าจะรับหรือไม่รับ และหวังว่าจะท่านยอมถอดอำนาจนี้ ยกเลิกการใช้เสียงส.ว.เพื่อสร้างความปรองดอง เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ถูกมองว่าการร่วมโหวตของส.ว.เป็นการสืบทอดอำนาจ หรือเป็นนั่งร้านเผด็จการ บางคนบอกว่าสมควรจะมีเพียงสภาเดียวด้วยซ้ำ แต่พวกตนยังยึดมั่นในระบบสองสภาอยู่ และให้ความเชื่อมั่นต่อการทำงานของส.ว. เพียงแต่อำนาจบางอย่างถ้ายอมสละตัดออกไปได้ ตนเชื่อว่าจะสร้างความปรองดองและความเห็นต่างลดน้อยลง จะทำให้อุณหภูมิทางการเมืองลดลงได้ในอนาคต
"มีเสียงส.ว.หลายคนให้การสนับสนุนจากส.ว.ถึง56 เสียง แต่ในสถานการณ์ต่างกันมาก การเปลี่ยนผ่านจะใกล้มาอีกครั้ง ผมหวังว่าคะแนนเราจะผ่านไปได้ หากช่วยกันโหวต ผมว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ และการทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ส.ว.จะมีบทบาทในเรื่องนี้อย่างมาก"นายแสนยากรณ์ กล่าว
จากนั้นเวลา 18.10น. หลังจากเจ้าของร่างทั้ง 4ฉบับอภิปรายครบถ้วนแล้ว นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมจึงให้สมาชิกรัฐสภาลงมติวาระรับหลักการ โดยใช้วิธีขานชื่อเรียงตามลำดับอักษรว่าจะรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 4ร่างหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไอติม-กมธ.การเมือง' รุดขอความชัดเจนศาลธรน. หวังได้คำตอบปมทำประชามติ 2 ครั้ง
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการการเมืองการมีส่วนร่วม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมหารือกับประธานศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า อย่างที่เราทราบกันดีว่าการ
ดิ้นทุกทาง!บอกประชามติเป็น กม.การเงินไม่ต้องรอ 180 วัน
'ชูศักดิ์' งัด รธน. มาตรา 137 อ้างกฎหมายประชามติเข้าข่ายกฎหมายการเงิน ไม่ต้องรอ 180 วัน จ่อถกวิปรัฐบาล เชื่อฝ่ายค้านเอาด้วย
'เพื่อไทย' อยู่เป็นปรับตัวเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยม ถอยนิรโทษฯ มาตรา 110 และ 112
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" ระบุว่า… เพื่อไทย อยู่เป็น!!!
'เพื่อไทย' ย้อนแย้งปากด่ารัฐธรรมนูญเผด็จการแต่เอาประโยชน์เต็มๆ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กว่า ปากด่ารัฐธรรมนูญเผด็จการ แต่เอาประโยชน์เต็มๆ
ดร.ณัฏฐ์ มือกม.มหาชน ฟันเปรี้ยง 'ประชามติชั้นเดียว' เจอด่านหิน! เป้าแก้รธน.ทั้งฉบับไม่ง่าย
สืบเนื่องจากตามที่ร่างพระราชบัญญัติประชามติ ในการแก้ไขหลักการประชามติชั้นเดียว ไม่ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภา ทำให้ร่างดังกล่าวย้อนกลับมาพิจารณาของ สส.อีกครั้ง