เลขา ครป.เสนอประวิตรเร่งสางปัญหาเร่งด่วน 8 ข้อที่ 'พล.อ.ประยุทธ์' สร้างไว้ก่อนไม่ทันเวลา
31 ส.ค.2565 - นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า มี 8 เรื่องเร่งด่วนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็ม ควรจะเร่งแก้ไขผลงานอัปยศของ พล.อประยุทธ์ก่อนจะไม่ทันเวลา ประกอบด้วย 1.ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ประกาศใช้อำนาจพิเศษตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 2563 บัดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ การประกาศของ พล.อ.ประยุทธ์ก็ควรยุติลงในวันที่ 24 ส.ค.2565 ด้วย เพราะเป็นการประกาศเฉพาะตัวควรสิ้นสุดเมื่อยุติการปฏิบัติหน้าที่ด้วย เพื่อหยุดการคอร์รัปชันอำนาจผูกขาดประเทศด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดย พล.อ.ประวิตร ก็ใช้อำนาจในสถานการณ์ปกติได้ และไม่สร้างความขัดแย้งในหมู่ประชาชน ให้ประกันตัวและยุติคดีการเมืองทั้งหมด
2.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ผ่านมาคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารสั่งให้เปิดแล้ว แต่ ป.ป.ช.ยังไม่กล้าเปิดเผยอ้างว่ากลัวจะโดนฟ้อง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็สามารถเปิดเผยเองโดยสมัครใจได้ ก่อนหน้านี้มีผู้ร้องว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่แสดงรายการทรัพย์สินช่วงที่เข้ารับตำแหน่งในปี 2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องแสดงรายการทรัพย์สิน เพราะเป็นนายกฯ ต่อเนื่องมาจากปี 2557 ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญย่อมจะนับอายุต่อเนื่องในการวินิจฉัยในครั้งนี้อย่างแน่นอน
3.เร่งสอบการทุจริตคอร์รัปชันในวงการตำรวจ ทหารและการใช้อำนาจโดยมิชอบของสมาชิกวุฒิสภา ในการพัวพันการใช้อำนาจมิชอบฝากตำรวจ ทหาร และการทำงานของ กอ.รมน. กรณี ส.ต.ท.หญิง ที่ถูกสังคมครหาอยู่ในเวลานี้ ซึ่งเกี่ยวพันกับระบอบอำนาจนิยมอุปถัมภ์ทั้งระบบ ซึ่งทำให้รัฐบาล 3 ป.มีมลทินมัวหมองไปด้วย และทำลายระบบคุณธรรมจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทำให้ระบบราชการแผ่นดินสั่นคลอนไปด้วย
4.ลดค่าไฟฟ้าลง และเปิดสัญญาสัมปทานที่ให้เอกชนผูกขาดผลิตไฟฟ้าจำนวนมหาศาลโดยการประกันราคากว่า 20 ปี ถือเป็นสัญญาทาสและปล้นกระเป๋าคนไทยหรือไม่
5.ลดราคาน้ำมันและแก๊สลง ให้เหลือเท่ามาเลเซียหรืออย่างน้อยลดลงลิตรละ 10 บาท ซึ่งสามารถทำได้ทันที อย่าให้ถึงวันที่คนไทยยึดคืน ปตท.เป็นของชาติและให้คนไทยทั้งประเทศถือหุ้นแทน 100%
6.ลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคลง เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ เพราะความจริงแล้วการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นผลของการที่ราคาสินค้าขึ้น การที่ราคาสินค้าขึ้น เท่ากับไปลดค่าจ้าง ทั้งนี้ การที่นายทุนขึ้นราคาสินค้าก็เพราะธุรกิจไทยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจผูกขาด ดังนั้นควรจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจผูกขาดทั้งระบบด้วย
7.หยุดการกู้และแก้หนี้สินประเทศที่เกิดหนี้สินครัวเรือนสะสมกว่า 15 ล้านล้านบาท แต่มหาเศรษฐีไทยกลับร่ำรวยขึ้นจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรม ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำอันดับ 1 ของโลก รวมถึงแก้ไขปัญหากองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และสร้างระบบรัฐสวัสดิการแทน
8.หยุดนโยบายขายชาติขายแผ่นดินของพล.อ.ประยุทธ์ โดยยกเลิกมติ ครม.เดิม และการออกประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 6/2565 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2565 โดย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานกรรมการลงนามด้วยตนเอง เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ที่ให้นิติบุคคลต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับสำนักงานและที่อยู่อาศัยแบบถาวรได้มากถึงรายละ 35 ไร่ โดยครอบครองได้ทั่วประเทศโดยไม่จำเป็นต้องอยู่ติดโรงงานหรือที่ตั้งกิจการแต่อย่างใด ผ่านกฎหมายส่งเสริมการลงทุนล้าสมัยที่ได้ให้สิทธิประโยชน์ตามมาตรา 27 ให้ต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้โดยไม่ต้องเช่า 99 ปี และเปิดเผยข้อมูลการให้กรรมสิทธิ์ที่ดินแก่ต่างชาติทั้งหมดว่ามีจำนวนเท่าไหร่ กี่แสนไร่แล้วแล้วที่มีการอนุญาตผ่าน BOI เพราะนี่คือเหตุผลที่ พล.อ.ประยุทธ์ อยากอยู่เป็นประธานการประชุมเอเปก
ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ได้ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชนไปแล้วเป็นเอกฉันท์ ความล้มเหลวของการบริหารบ้านเมืองเป็นที่ประจักษ์ชัดที่ผ่านมา ด้วยการสร้างความขัดแย้งในหมู่ประชาชน การคอร์รัปชันอำนาจผูกขาดประเทศด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ การผูกขาดเศรษฐกิจเอื้อกลุ่มทุนธุรกิจการเมืองพวกพ้อง ให้สัญญาสัมปทานเอกชนผูกขาดไฟฟ้า และไม่แก้ไขปัญหาทุจริตใดๆ ในหมู่พรรคร่วม รวมถึงร่วมกันใช้สถานการณ์โควิดเป็นเครื่องมือผูกขาดอำนาจจนคร่าชีวิตประชาชนจำนวนมากจากการบริหารสถานการณ์ล่าช้า เลือกปฏิบัติ ขาดจริยธรรมในความเป็นนักการเมือง
ผลงานเด่นของพล.อ.ประยุทธ์ คือการบริหารเศรษฐกิจให้ประเทศไทยเหลื่อมล้ำอันดับ 1 ของโลก ให้สัมปทานและต่อสัญญาโครงการต่างๆ ให้อภิมหาเศรษฐีมากมายเพื่อปล้นกระเป๋าคนไทย สร้างภาระจากค่าใช้จ่ายสินค้าและพลังงานที่แพงขึ้น โครงสร้างเศรษฐกิจแบบนี้ทำให้เกิดการหมุนเวียนเงินจากข้างล่างไปสู่กระเป๋านายทุนเจ้าสัวผูกขาดข้างบน จนทำให้หนี้สินครัวเรือนเพิ่มมากกว่า 15 ล้านล้านบาท แต่ 8 ปีภายใต้การบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ มหาเศรษฐี 50 อันดับแรกของไทยกลับมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากกว่า 5.3 ล้านล้านบาท และปีนี้มีเจ้าสัวรายใหม่ทะยานขึ้นแซงหน้าเจ้าสัวรายเก่าขึ้นเป็นเศรษฐีอันดับ 1 ของเมืองไทยด้วยความมั่งคั่งกว่า 420,000 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ลุงป้อม' เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่
'ลุงป้อม' สดใส เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่ ย้ำพระราชเสาวนีย์พระพันปีหลวง ปกป้องป่าให้ลูกหลาน ด้าน ผบ.เหล่าทัพ ทยอยอวยพร 3 ป. วานนี้
'อดีตบิ๊กทอ.' ทิ้งปริศนา 'อันวาร์' มีประสบการณ์เหนือ 'ทักษิณ' งงทำไมตั้งเป็นที่ปรึกษาฯ
พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี หรือ เสธ.นิด อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ว่า อันสืบมาในบริบทที่เกี่ยวกับ ดาโต๊ะ อันวาร์ อับราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
'บิ๊กป้อม' เมินร่วมวง 'ดินเนอร์ฝ่ายค้าน' แค่ส่งตัวแทน พปชร.
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านรับประทานอาหารเย็น ในวันพุธที่ 18 ธ.ค.นี้
'ชัยวุฒิ' ยก 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ ขับก๊วนธรรมนัส เหมือนหย่าเมีย
'ชัยวุฒิ' ยกย่อง 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ เปรียบขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัส พ้นพรรค เหมือนผัวเมียไม่รักแล้วหย่ากัน จบด้วยดี ยืนยัน พปชร. ไม่แตกแยก พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อ ปชช.
20 สส.ก๊วนธรรมนัสโบกมือลา พปชร. บอกยังรักเคารพลุงป้อม!
'20 สส.ก๊วนธรรมนัส' ถูกขับพ้น 'พปชร.' แล้ว 'อรรถกร' บอกจากกันด้วยดี ขอเวลาหารือ 'พรรคกล้าธรรม' ก่อน ย้ำ ยังรักเคารพ 'ลุงป้อม' อยู่
ไร้เงา 'บิ๊กป้อม-ธรรมนัส' ประชุมขับ 'ก๊วน 20 สส.'
ไร้เงา 'บิ๊กป้อม-ธรรมนัส' ร่วมประชุม ขับ 'ก๊วน 20 สส.' พ้น 'พปชร.' ด้าน 'ไพบูลย์' ทําหน้าที่ปธ.แทน ขณะที่ 'ไผ่ ลิกค์' ปัดดีล คดีไร่ภูนับดาว