'เรืองไกร' เช็กบิล พท.! ร้อง กกต. สอบยุบพรรค ปมตั้ง 'หมอเลี้ยบ' ฝ่ากม.-ขัดข้อบังคับ

‘เรืองไกร’ ร้อง กกต. สอบคุณสมบัติ ‘หมอเลี้ยบ’ หลังเพื่อไทยตั้งเป็น ผอ.พรรค ผิดข้อบังคับ ส่อครอบงำชี้นำ พท. ฝ่ากฎหมายพรรคการเมือง ถึงขั้นยุบพรรค

8 พ.ย.2564 – ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หลังพรรคเพื่อไทยตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค เนื่องจาก นพ.สุรพงษ์ ต้องคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อปี2559 โดยศาลพิพากษาว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ให้จำคุก 1 ปี

นายเรืองไกร กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของ นพ.สรุพงษ์ ที่ขึ้นเวทีปราศรัยในการประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ที่ จ.ขอนแก่นนั้น ตนติดใจ และมีการติดตามข่าวสารเห็นว่าไม่น่ากระทำได้ และทางกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย หัวหน้าพรรค สมาชิกพรรค และ ส.ส.พรรค ควรรู้หรือต้องรู้ว่ากระทำไม่ได้ เพราะข้อบังคับพรรคเพื่อไทยในข้อ 70 ระบุว่า ต้องตั้งจากสมาชิกพรรค และตั้งแล้วต้องรายงานกรรมการบริหารทราบ ตนตั้งข้อสังเกตว่า นพ.สุรพงษ์ขึ้นเวทีในฐานะ ผอ.พรรคเพื่อไทยน่าจะมีการตั้งมาก่อนแล้ว และการขึ้นเวทีของ นพ.สุรพงษ์ขึ้นเป็นคนแรกต่อหน้าคณะกรรมการบริหารพรรค เรื่องนี้จึงเป็นปัญหาว่าสิ่งที่ นพ.สุรพงษ์ขึ้นไปพูดในกิจกรรมของพรรคจะเข้าเงื่อนไขอะไรของพรรคบ้าง แต่อย่างที่ทราบถ้าในข้อบังคับตนมองว่าเป็นไม่ได้ เพราะข้อบังคับของพรรคเพื่อไทยเขียนไว้ชัดว่าต้องตั้งจากสมาชิกพรรค

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า เรื่องความเป็นสมาชิกพรรค นพ.สุรพงษ์เป็นไม่ได้ เนื่องจากข้อบังคับพรรคเพื่อไทยเขียนมาจากพระราช​บัญญัติ​ประกอบ​รัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยพรรคการเมือง และก็มาจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 ดังนั้นจึงเป็นปัญหาที่นำมาสู่การร้องเรียนว่า กรณีที่ นพ.สุรพงษ์ ได้ขึ้นเวทีของพรรควันนั้นเข้ากฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 28 หรือไม่ ตนเห็นว่ามีข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน อย่างไรก็ตามเมื่อ นพ.สุรพงษ์เป็นไม่ได้แล้วไปขึ้นเวทีนั่นเข้าข่ายครอบงำ ควบคุม ชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ทำให้ขาดความเป็นอิสระตามเงื่อนไขในมาตรา 28 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่

“ถ้ามีการรับให้ นพ.สุรพงษ์ เป็นสมาชิกพรรค นายทะเบียนจะมีโทษปรับ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งในกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 กำหนดว่าคนที่จะสมัครเป็นส.ส. ต้องไม่เคยถูกคำสั่งให้พ้นจากราชการ เมื่อมาตรา 98 ไปตรากฎหมายประกอบคือ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งก็พูดถึงสมาชิกพรรคการเมืองต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 ” นายเรืองไกร ระบุ

ทั้งนี้จากข้อเท็จจริงของ นพ.สุรพงษ์ ในฐานะผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย จึงมีเหตุต้องขอให้ กกต. ตรวจสอบว่า นพ.สุรพงษ์ เป็นผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย หรือสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ จะมีการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 และ 29 หรือไม่ ถ้ามีการฝ่าฝืน จะถือเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคเพื่อไทย และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งชุดเดิมและชุดใหม่ตามมาตรา 92 หรือไม่ และ กกต. ต้องดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 108 หรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สมชาย' กระทุ้ง กกต. ไล่บี้สอย สว. ที่มีลักษณะต้องห้าม

นายสมชาย แสวงการ อดีตสภาวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย มีเนื้อหาทำงาน จดหมายเปิดผนึก:ข้อเสนอสาธารณะถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต. เพื่อพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ของสว.กลุ่ม18 สื่อสารมวลชน และสวกลุ่มต่างๆทั้ง 20 กลุ่ม

'กรพด' ลั่น! ไม่เคยเข้าคุก ยินดีให้กกต.ตรวจสอบ เล็งฟ้องคนทำเสียหาย

ที่รัฐสภา ว่าที่ พ.ต.กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ สว.กลุ่ม18 สื่อสารมวลชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)สั่งสอบห

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

'วิโรจน์' บอก 7 ส.ค. ผลออกมา ต้องมีคำอธิบายที่ปชช.เข้าใจได้

'วิโรจน์' บอกตามตรง 7 ส.ค. ก็แค่วันปกติ ยัน ไม่ตื่นตระหนก แต่ไม่ประมาท 'คดียุบก้าวไกล' หากผลเป็นลบ ก็ต้องตอบสังคมให้ได้ภายใต้กรอบนิติรัฐ-นิติธรรม

'ภูมิธรรม' ยันยังไม่เลิก 'ไร่ละพัน' แจง 'ปุ๋ยคนละครึ่ง' หวังช่วยชาวนาอีกทาง

'ภูมิธรรม' แจงไม่ได้ยกเลิกไร่ละพัน พร้อมดึงกลับมาใช้ถ้าราคาข้าวตก ย้ำคนละส่วนกับปุ๋ยคนละครึ่ง ชี้ สส. รุมค้าน เหตุไม่เข้าใจถ่องแท้ไปฟังเกษตรกรมา