‘กมธ.ปปช.สภาฯ’ ตามไล่บี้ เครือข่ายฝาก ส.ต.ท.หญิง ลาม บิ๊กทหาร-ตำรวจ แฉ ข้อสงสัย ชื่ออยู่ใต้ แต่ไม่เคยทำงาน ซัดผิดม.157 เตรียมชง กมธ.เรียกสอบ
28 ส.ค. 2565 – นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากที่ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อ รักษาการนายกรัฐมนตรี กรณีการเข้าเป็นตำรวจของ ส.ต.ท.หญิง และการกระทำที่อาจเป็นการเข้าข่ายค้ามนุษย์เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 พล.อ. ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกมาชี้แจงในสภา แทน แต่ข้อมูลทั้งหมดล้วนไร้จุดหมายปลายทาง ที่จะได้มาซึ่งข้อเท็จจริงโดยเร็ว การตอบคำถามของ พล.อ.ชัยชาญ อาจเกิดจากการที่ท่านไม่ทราบ หรือไม่อยากตอบ ก็เป็นได้ พล.อ.ชัยชาญ หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามมากกว่า แม้มีการตั้งกรรมการเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยให้ยึดถือสำนวนการสอบสวนเดิมเป็นหลัก อาจทำให้สังคมมองว่าเป็น ตัดตอน ผลักภาระให้หน่วยงานอื่น ทั้งที่ความผิดในบางประเด็น มีหลักฐานชัดแจ้งเป็นที่ประจักษ์และเต็มไปด้วยข้อสงสัย เช่น 1. กระบวนการรับบุคคลเข้ารับราชการตำรวจทำอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ เป็นไปด้วยเส้นสนกลในหรือไม่
2. ส.ต.ท.หญิง ชื่อไปปฏิบัติงานที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งมีสิทธิประโยชน์ช่วยเหลือจากการปฏิบัติมากมาย เช่น เบี้ยเลี้ยง เบี้ยเสี่ยงภัยและอายุราชการที่ทวีคูณ เท่าที่ทราบข้อมูลในเบื้องต้น มีการสร้างขบวนการขึ้นมาเพื่อสร้างการเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงานให้ ส.ต.ท.หญิง นอกจากกระบวนการสอบสวนที่ยังต้องหาคำตอบอีกมากมาย การกระทำของผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการฝากฝังให้ ส.ต.ท.หญิงได้รับการบรรจุเข้าเป็นข้าราชการตำรวจและมีชื่อช่วยงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.)
เรื่องนี้คนที่เป็นผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาค 4 ผู้อำนวยการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ไม่ใช่เพียงการย้าย ส.ต.ท.หญิงคนดังกล่าวกลับต้นสังกัดแล้วเรื่องก็จบไปเท่านั้น แต่ผู้บังคับบัญชา และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการแต่งตั้งโยกย้ายส.ต.ท.หญิงคนดังกล่าวโดยมิชอบ อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน 2 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ”
นายประเดิมชัยกล่าวว่า ยังได้ข้อมูลมาว่า ในหน่วยงาน กอ.รมน.ภาค 4 มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานช่วยงาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 50,000 คน หากมีกรณี ส.ต.ท.หญิง เพียงแค่ 1% หรือ 500 คน ในหน่วยงานราชการก็ถือเป็นการกระทำที่จงใจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบที่สร้างความเสียหายให้กับงบประมาณแผ่นดิน เพราะคือภาษีประชาชนที่ต้องจ่ายเป็นเงินเดือนและค่าตอบแทนมหาศาล ตนจะรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง หลักฐานในเบื้องต้นร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) เพื่อเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลชี้แจงโดยเร็วที่สุด
“บุคคลที่เป็นเจ้าพนักงาน มีฐานะนอกเหนือไปจากประชาชน เพราะมีอํานาจหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ มีสถานะเป็นผู้รักษากฎและห้ามไม่ให้ผู้อื่นทำผิดกฎ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่รัฐทำผิดเสียเอง ยิ่งปรากฎมีหลายกรณีมากขึ้นๆ หากรวบรวมดูแล้วพบว่า ในรัฐบาลนี้ เจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็นผู้คุมกฎ แต่ทำผิดกฎโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายมากมายหลายกรณี จนทำให้วิกฤตศรัทธารัฐบาลอยู่ในขั้นติดลบ อย่างนี้ผู้นำไม่ว่าจะเป็นใครที่มาจากรัฐบาลนี้คงไม่สามารถปกครองประเทศได้ เพราะคนทำผิดกฎหมายเต็มบ้าน เต็มเมือง เต็มสภา”นายประเดิมชัย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สส.เพื่อไทย ดี๊ด๊า ประเทศไทยมีระบบที่เป็นมาตรฐาน!
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้คงสบายใจขึ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับ
สาวกเพื่อไทย ยื่นศาลรธน.สอบ 'ธนพร' ละเมิดอำนาจศาล
ที่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ นายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ และนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือร้อง นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์
'ชูศักดิ์' เผย 'เพื่อไทย' ได้รับความเป็นธรรม ศาลรธน. ไม่รับคำร้องปมล้มล้างการปกครอง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายอิสระ ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย(พท.) ยุติการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองจะผูกพันไปยังกรณีที่มีการยื่นคำร้องเดียว
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
2 ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย รับคำร้อง 'ทักษิณ' สั่งรัฐบาลเอื้อประโยชน์ฮุนเซน น่าจะเกิดผลใช้สิทธิล้มล้างปกครองฯ
จากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูก
'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.
หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ