'ชลน่าน' ปูดงบวาระ 3 โดนคว่ำ จับตา 'ตู่' ยุบสภาฯ รักษาการยาว

“ชลน่าน” ปูด งบวาระ3 โดนคว่ำ ตู่ ยุบสภาฯ รักษาการยาว หวั่น หากบิ๊กตู่ รักษาการจนครบวาระ ชี้ “อุ๊งอิ๊ง”แคคนดิเดตนายกฯคนนอก ไม่เหมาะกับสถานการณ์ เตรียมดัน ชัยเกษม ขึ้นแท่น เหตุอยู่ในลิสต์เดิม ขู่ ตู่ รีบตัดสินใจก่อนไม่มีที่อยู่

21 ส.ค.เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อาจต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เหลือเพียง นายชัยเกษม นิติสิริ คนเดียวที่อยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขั้นตอนต่อไปคือ การเลือกนายกฯตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 และ มาตรา 159 ถ้าเลือกไม่ได้ก็ดำเนินการตามมาตรา 272 ซึ่งพรรคเพื่อไทย ต้องส่งนายกฯแคนดิเดตที่อยู่ในบัญชีของพรรคฯ แต่ยังไม่ได้ปรึกษาหารือกัน รายชื่อของพรรคเพื่อไทยในขณะนี้มี 3 คน แต่โดยความชอบธรรมแล้ว เมื่ออีก 2 คนไปทำหน้าที่อื่นก็เหลือเพียงนายเกษมเพียงคนเดียว ส่วนความเป็นไปได้ที่พรรคฯจะเสนอรายชื่อนายกฯคนนอกบัญชี กรณีถ้าสภาฯเลือกคนในบัญชีไม่ได้ ไม่ว่าจะเลือกกี่ครั้งก็ไม่ได้ ถึงจะเปิดช่องให้เอาคนนอกบัญชีมาเป็นนายกฯได้ หากเสียง 2 ใน 3 ของสภาฯเห็นชอบก็สามารถเลือกได้ และถ้าเลือกได้ก็จบ แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องเลือกอยู่อย่างนั้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเลือกวนรอบอยู่อย่างนั้นจนหมดวาระสภาฯ ในวันที่ 23 มี.ค. 2566

เมื่อถามว่าหากต้องเสนอนายกฯคนนอกบัญชีพรรคเพื่อไทยเตรียมคนไว้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ปรึกษาหารือกัน เรามีคนในบัญชี จึงต้องส่งคนในบัญชีก่อน

ถามย้ำว่าจะมีการเสนอชื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย เป็นแคดดิเดตนายกฯคนนอกหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่น่าจะเหมาะในสถานการณ์อย่างนี้ ส่วนชื่อของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเหมาะกับการเป็นนายกฯคนนอกบัญชีหรือไม่ ก็ไม่ใช่หน้าที่ของพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยปมนายกฯ 8 ปี ในวันที่ 22 ส.ค. ตามคำร้องของฝ่ายค้าน เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ ควรหยุดปฏิบัติหน้าที่เลยหรือไม่ น.พ.ชลน่าน กล่าวว่า ในคำร้องของฝ่ายค้านมีคำร้อง 2 เรื่องคือ1.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ และ2.ให้ศาลฯมีคำสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกฯ ถ้าในวันที่ 22 ส.ค. สภาฯส่งคำร้องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ซึ่งปกติศาลรัฐธรรมนูญจะประชุมทุกวันพุธ คือวันที่ 24 ส.ค. สมมุติว่ามีการเตรียมการประชุมวันที่ 24 ส.ค. ถ้าศาลตั้งองค์คณะว่าจะรับคำร้องดังกล่าวหรือไม่ ก็จะรู้ในวันดังกล่าวว่าศาลฯจะสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำร้องหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯครบ 8 ปีในวันที่ 23 ส.ค. ดังนั้นในวันที่ 24 ส.ค.ถือว่าเกิน 8 ปีแล้ว หากศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ต้องรอคำวินิจฉัยอีกเดือนครึ่งอาจถึงสิ้นเดือน ก.ย.ถึงจะมีคำวินิจฉัย สมมุติว่า ความเป็นนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุดลง วันที่ 24 ส.ค.นี้ และระหว่างที่รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ในระหว่างนั้นรัฐธรรมนูญคุ้มครองว่าการกระทำใดๆในช่วงนี้ทำได้ไม่มีผลที่จะไปลบล้างการกระทำนั้น ก็เป็นไปได้ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างรอคำวินิจฉัย แต่เหตุการณ์ที่เรากลัวคือข้อขัดแย้งทางการเมือง กระแสต่อต้านจะยิ่งแรงขึ้น ถึงตอนนั้นคือจุดวิกฤต อย่าว่าแต่พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ในประเทศไทยเลย แต่จะไม่มีที่อยู่
“ถ้าผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จะออกอย่างเท่ห์ที่สุด เย็นวันที่ 23 ส.ค. จะออกประกาศแถลงการณ์จากสำนักนายกรัฐมนตรี เลยว่า กราบเรียน พี่น้องประชาชน ผมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะหมดวาระตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในเวลา 24.00 น. ของวันนี้ ขอให้ทางรัฐสภาดำเนินการเลือกตั้งนายกฯคนต่อไปได้ อย่างนี้ทุกคนก็จะปรบมือให้ คือมโนธรรมสำนึกความรับผิดชอบ เคารพหลักนิติธรรม

พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ในใจพี่น้องประชาชน และกลไกลหลังจากนั้นจะดีไม่ดีหรือเลวร้ายค่อยว่ากัน ฝันว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะประกาศออกจากตำแหน่งอย่างสง่างามเพราะเป็นทางที่ดีที่สุด สำหรับประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ และสถาบันตุลาการก็รอดตัวไม่ต้องวินิจฉัย”นพ.ชลน่านกล่าว

ถามอีกว่ายังเชื่อว่า นายกฯจะไม่เลือกวิธียุบสภาใช่หรือไม่ น.พ.ชลน่าน กล่าวว่า ด้วยเหตุแล้วหากยุบสภาช่วงนี้มีแต่โทษไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยกับประเทศ ข้ออ้างในการยุบสภาไม่สมเหตุสมผล เหตุที่ต้องอ้างได้คือ ความขัดแย้ง และความเสียหายจากฝ่ายนิติบัญญัติ เช่น วันที่ 23 ส.ค.นี้ จะมีการโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ในวาระ 3 หากไม่ผ่าน เหมาะสมที่จะยุบสภา

เมื่อถามว่า แสดงว่าในวันที่ 23 ส.ค. ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 จะไม่ผ่านวาระ 3 ใช่หรือไม่ น.พ.ชลน่าน กล่าวว่า ในประเทศไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะงบประมาณอาศัยเสียงข้างมาก ถ้าเสียงข้างมากถูกบงการมาว่าเอาช่องทางนี้ก็เป็นไปได้ทั้งหมด ส่วนเหตุผลอื่นคือต้องการให้ตัวเองอยู่ในอำนาจได้ยาว ซึ่งเป็นเหตุผลที่อันตรายมาก เพราะตอนนี้สิ่งที่เราเป็นห่วงคือการดำรงตำแหน่งนายกฯ เกิน 8 ปี จะไปสอดรับกลับเจตนารมณ์และจุดมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ ที่บอกว่าหากให้อยู่ยาวเกิน 8 ปีจะทำให้เกิดการผูกขาดอำนาจทางการเมืองและจะก่อวิกฤตทางการเมือง ไม่อยากให้เกิดอย่างนั้น หากยุบสภาตอนนี้เพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจรักษาการณ์ได้ แต่กฎหมายเลือกตั้งยังไม่ออก หลายคนบอกว่าให้ไปใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.) ก็มีกระแสที่ไม่เห็นด้วย การออกพ.ร.ก.มาใช้ในการเลือกตั้ง ไม่ได้ใช้บังคับเช่นเดียวกับ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญ ทั้งที่กฎหมายเลือกตั้งเป็นพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ กลับให้ใช้เหมือนพ.ร.บ.

“โอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ต่ออีก 2 ปี ตามที่พล.อ.ประวิตรพูดนั้นในเมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ และมีแนวโน้มว่าจะเป็นอย่างนี้สูงมาก ตามที่สร้างกระแสมา แต่ดูเหมือนจะออกกลางๆ คาดว่าจะลดความกดดันของภาคประชาชนได้ แต่พล.อ.ประยุทธ์ มี 3 แนวทางที่วิเคราะห์กัน คือ 1.ออกด้วยอำนาจใจของพล.อ.ประยุทธ์ แสดงความรับผิดชอบเคารพหลักนิติธรรมประกาศว่าหมดวาระ 2.อำนาจศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และ3.อำนาจประชาชนขับไล่ หากเป็นผม จะเลือกทางเลือกที่ 1 เพราะเท่ห์ และเป็นรัฐบุรุษได้เลย ไปเป็นตำแหน่งอะไรที่อยู่ในประเทศก็ได้ คนก็เคารพยกย่อง”นพ.ชลน่าน กล่าว