‘ไทยสร้างไทย’ จี้ ศธ. แจงประสิทธิภาพการใช้งบปี 66 เน้นจ่ายค่าจ้าง-ซื้อครุภัณฑ์ แต่ยังเจอโรงเรียนไฟดับ-เงินไม่พอจ้างครู
19 ส.ค. 2565 – นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้จัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีฯ 2566 โดยเสนอของบประมาณแผ่นดินเพื่อใช้จ่ายจำนวน 325,900 ล้านบาท ไม่รวมเงินนอกงบประมาณเพื่อใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 1,213 ล้านบาท จึงขอตั้งคำถามไปยัง รมว.ศธ. ถึงประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณของกระทรวงว่ามีมากน้อยเพียงใด หลังจากที่พบว่างบประมาณปี 66 เป็นงบลงทุนเพียง 16,546 ล้านบาท ในขณะที่เป็นรายจ่ายเพื่อบุคลากรสูงถึง 204,023 ล้านบาท ในขณะที่ต้องมาเห็นข่าวโรงเรียนขาดแคลนครู-ขาดแคลนอุปกรณ์ไม่เว้นแต่ละเดือน
นางสาวธิดารัตน์ กล่าวว่า โครงสร้างงบของ ศธ. อาจแบ่งได้เป็นสามส่วนหลักๆ คือส่วนให้บริการจัดการศึกษา คือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ส่วนสนับสนุนคือสำนักงานปลัดกระทรวงฯ (สป.ศธ.) และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) และส่วนของหน่วยงานในกำกับ/องค์กรมหาชน ของกระทรวง
หลังจากได้อ่านตัวร่างงบประมาณฯ มีคำถามที่ต้องการทราบหลายข้อ โดยเรื่องที่เห็นว่าสำคัญที่สุดคืองบประมาณในส่วนของ สพฐ. ที่พบว่าเป็นค่าตอบแทนบุคลากรถึง 186,203 ล้านบาท ในขณะที่งบดำเนินการเพื่อซื้อวัสดุและจ่ายค่าสาธารณูปโภคสำหรับการศึกษาภาคบังคับ (ประถมและมัธยมต้น) ได้เพียง 3,602.97 ล้านบาท ส่วนของระดับปฐมวัยและระดับมัธยมปลายได้เพียง 79.5 ล้านบาท และ 230.01 ล้านบาทตามลำดับ
จากตัวเลขข้างต้น หากคิดเป็นสัดส่วนจะได้เพียง 0.02 % ของงบค่าตอบแทน จึงไม่แปลกใจเมื่อเห็นข่าวโรงเรียนใน จ. อุบลราชธานีไฟดับนานกว่าสองเดือน หรือโรงเรียนอื่นๆ ที่ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการดำเนินการเรียนการสอน แต่ในขณะเดียวกันแปลกใจว่าทำไมโรงเรียนในเขตทุรกันดารกลับขาดแคลนครู เพราะไม่มีอัตรากำลังจ้าง ทั้งๆ ที่งบบุคลากรฯ ของ สพฐ. มีมากกว่ากึ่งหนึ่งของงบประมาณรวมทั้งกระทรวงเสียด้วยซ้ำ
ส่วนงบอื่นๆ ที่มีข้อสงสัย เช่น ทำไม ศธ. ต้องใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเป้าหมายด้านความมั่นคงรวมกันกว่า 1,048.36 ล้านบาท ในขณะที่งบประมาณเพื่อการสร้างความสามารถในการแข่งขันกลับได้เพียง 188.38 ล้านบาท งบพัฒนาศักยภาพครูได้เพียง 243.16 ล้านบาท งบพัฒนาหลักสูตรและการประเมินผล 158.18 ล้านบาท งบพัฒนา Digital literacy เพียง 22.94 ล้านบาท หรือโครงการที่ต้องการคำอธิบายถึงความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณ เช่น โครงการปรับกระบวนทัศน์ผู้บริหารโรงเรียนเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ของ สป.ศธ. ที่ของบ 6.65 ล้านบาท ค่าใช้ง่ายดูงานต่างประเทศของ สกศ. ที่ตั้งสำรองถึง 2.49 ล้านบาท เป็นต้น
“หากกระทรวงฯ สามารถตอบข้อสงสัยต่างๆ และชี้แจงให้เห็นว่ากระทรวงฯ ได้บริหารงบประมาณเหล่านี้อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดิฉันเชื่อว่าประชาชนจะช่วยผลักดันให้มีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มด้วยอีกแรง เพราะไม่มีประชาชนคนไหนที่เมื่อรู้ว่างบประมาณที่จำเป็นขาดแคลน แล้วจะคัดค้านไม่ยอมให้เพิ่มงบประมาณฯ โดยเฉพาะกับงบประมาณทางการศึกษาซึ่งทุกคนต่างรู้ว่าเป็นหน่วยงานสำคัญในการพัฒนาประเทศ” นางสาวธิดารัตน์ ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระทรวงศึกษาธิการ เร่งผลักดันการเรียนรู้แบบ Active Learning
กระทรวงศึกษาธิการ สั่ง สพฐ. เร่งผลักดันการเรียนรู้แบบ Active Learning ให้ครอบคลุมทุกภาค ทุกโรงเรียน หวัง ส่งเสริมให้นักเรียนตั้งคำถามและหาคำตอบเอง แทนการท่องจำแบบเดิม
'รมช.ศธ.' เคลียร์ปมเปิดบัญชีรับบริจาค เหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้
'สุรศักดิ์' แจงปมเปิดรับบริจาค ช่วยเหลือครู-นักเรียน เหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ มอบ 'สพป.อุทัยธานีเขต 2' รับผิดชอบหลัก
'ปชน.' จัดเต็ม 13 ชม. ถลกนโยบายรัฐบาลอิ๊งค์ ยังไร้สัญญาณจาก 'พปชร.'
'ปกรณ์วุฒิ' พอใจฝ่ายค้านได้ 13 ชม. ถลกนโยบายรัฐบาล 'แพทองธาร' เผย 'พปชร.' ยังไม่มาคุยจัดสรรเวลา จี้ 'ครม.' ตอบให้ตรงคำถาม จ่อทวงความชัดเจน 'ดิจิทัลวอลเล็ต'
สุดสับสน! ปรากฏการณ์การเมืองไทย ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์'
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเฉพาะกลุ่ม สส. แต่หัวหน้าพรรคกลับถูกไล่ออกไม่ให้ร่วมด้วย
พรรคคุณหญิงหน่อย งัด 'จริยธรรม' ขับสส.งูเห่า 'จตุพร' ถามมีพรรคไหนจะกล้ารับ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ช่วงหนึ่งถึงการส่วนการตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.)า ไม่ง่าย