“พปชร.” แถลงจุดยืน ไม่หนุนใบเลือกตั้งใบเดียว เหตุเคยแก้มาแล้ว ชี้ “บิ๊กป้อม” เห็นชอบ ด้าน “ไพบูลย์” จ่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตีความสูตรหาปาร์ตี้ลิสต์หาร 500 ขัดรธน.หรือไม่
2 ส.ค.2565 - ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) แถลงถึงกรณีกระแสที่จะมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งแบบใบเดียว ว่า พรรคมีนโยบายชัดเจนคือไม่สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้กลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวทั้งสิ้น โดยมีเหตุผลคือเราเคยแก้ไขรัฐธรรมนูญมาแล้ว เพื่อเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ อย่างไรก็ตาม จากที่ปรากฎเป็นข่าวที่จะมีการเสนอให้มีการกลับไปแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อกลับไปเลือกบัตรเลือกตั้งใบเดียวนั้นอาจจะมีฝ่ายต่างๆที่มีความประสงค์ที่อยากจะได้ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าจุดยืนของพรรค พปชร. ซึ่งเป็นการหารือร่วมกันของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ก็สนับสนุนเรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบด้วย
เมื่อถามว่า เรื่องสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 500 พร้อมยื่นศาลรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ถูกต้อง ตนไม่สามารถเห็นชอบกับร่างที่หาร 500 ได้ เพราะเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ โดยจะยื่นเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง รัฐสภา ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรง ทั้งนี้ ตนเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 91 นั้น เพื่อให้เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และต้องหารด้วย 100 เท่านั้น แต่การที่ไปบิดเบือนเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ โดยเอาบัตรเลือกตั้งใบที่ 2 เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเมื่อลงคะแนนเสร็จแล้วนำมาหารด้วยจำนวนส.ส. บัญชีรายชื่อ 100 คน บวกกับส.ส.เขต 400 คน รวมเป็น 500 คน เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 91 อย่างสิ้นเชิง ดังนั้น เรื่องนี้ต้องชัดเจน
เมื่อถามว่า จากกรณีพรรคฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วย นายไพบูลย์จะยื่นแยกใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ยื่นแยกได้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องการเข้าชื่อ 1 ใน 10 ของสมาชิกรัฐสภา โดยประเด็นที่ตนจะยื่นนั้น มีแต่ข้อกฎหมาย ที่จะชี้ว่าการสูตรคำนวณแบบหาร 500 นั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ และขัดทั้งบทบัญญัติที่เขียนให้สัมพันธ์โดยตรง รวมถึงขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งชัดเจนว่าจะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 54 ให้เหมือนรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ปี 2550 และปี 2554 โดยมีเจตนารมณ์ที่เขียนไว้ชัดเจนว่ามาตรา 93 และมาตรา 94 ไม่มีผลที่จะเปลี่ยนรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ได้ และมาตรา 91 ที่แก้ไขไปนั้น ก็เป็นที่มาของการแก้ไขการคำนวณสูตรหาส.ส.บัญชีรายชื่อ ดังนั้น การกลับไปไม่ใช้สูตรแบบหาร 100 ก็เป็นการขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
“คนทั่วไปก็ดูแล้วก็คงเข้าใจ ในเมื่อเป็นการหาส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยใช้บัตรคะแนนของส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ประชาชนเลือก ก็จะต้องใช้จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นตัวคำนวณ ไม่เช่นนั้นประชาชนที่เลือกส.ส. ของพรรคการเมืองหนึ่ง เมื่อผลปรากฏว่าหารออกมาแล้วกลับไม่มีพรรคการเมืองที่เลือกเลย ก็ถือว่าเป็นการบิดเบือนเจตจำนงของประชาชนผู้ออกเสียงผ่านบัตรเลือกตั้งใบที่ 2 ดังนั้น เรื่องเหล่านี้ก็จะต้องไปพิสูจน์ที่ศาลรัฐธรรมนูญ” นายไพบูลย์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉอีโม่ง วิ่งเต้นล้มปมชั้น 14 เตือนหยุดทำเถอะ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ให้จับตาดูวันที่ 15 ม.ค.ที่แพทยสภาขีดเส้นตายให้แพทย์รักษาทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ส่งรายงานการรักษามาตรวจสอบการเอื้อหนีติดคุก แล้วยังต้องติดตามผลตรวจสอบของ ป.ป.ช.กรณีชั้น
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ดร.เสรี ฟาดพรรคขี้โม้-พรรควาทกรรม
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “พรรคหนึ่งมีแต่วาทกรรม ไม่เคยทำงาน
พ่อนายกฯ ลั่นพรรคร่วมรัฐบาลต้องอยู่ด้วยกันจนครบเทอม
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์การเมืองในปี 2568 ว่า การเมืองคงไม่มีอะไร ยังเหมือนเดิม พรรคร่วมรัฐบาลก็เหมือนเดิม การที่ไม่เห็นด้วยกับอะไรกันบ้าง ก็เป็น
เทวดาแม้วของขึ้น! เปิดศึกขาประจำกว่า 10 คน รวม ‘แก้วสรร-แฝดน้อง‘
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงฉายา “ทวีไอพี” ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการ
'ทักษิณ' ถึงเชียงใหม่ ช่วยหาเสียงนายก อบจ. 'สว.ก๊อง' คึกมั่นใจชนะล้านเปอร์เซ็นต์
'ทักษิณ' ถึงเชียงใหม่ 'เจ๊แดง-สมชาย-พิชัย' ต้อนรับ แวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านมิชเชอร์ลิน 7 ปีซ้อน ก่อนช่วงเย็นขึ้นปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ. 'สว.ก๊อง' ลั่นมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์