'ธีระชัย-จตุพร-ทนายนกเขา' รวมตัวไล่ประยุทธ์ชี้หลัง 23 ส.ค.จะกลายเป็นนายกเถื่อน

“ธีระชัย-จตุพร-ทนายนกเขา” ชี้ ปม 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ การตีความ กม. ต้อง คำนึงถึงผลได้-ผลเสีย ต่อประชาชนและประเทศ ด้าน ทนายนกเขาลั่น หลังเที่ยงคืน 23 ส.ค.อำนาจอธิปไตยกลับคืนสู่ ปชช.ทันที ถ้ายังอยู่ก็เป็น ‘นายกฯเถื่อน’

31 ก.ค. 2565 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) หรือทนายนกเขา กล่าวในรายการ “Exclusive Talk” ตอน “8 ปีประยุทธ์ทำไมต้องไป” ผ่านเพจเฟสบุ๊ค “ประชาชนคนไทย (ปท.)” โดยมี นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมอภิปรายด้วย

นายธีระชัย กล่าวว่า ในเชิงกฎหมาย 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับจากวันไหน ดูแล้วมีหลายวิธี คือ 1.นับจากวันที่เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 2. นับจากวันที่มีพระบรมราชโองการ แต่งตั้งครั้งแรก วันที่ 23 ส.ค.2557 และ 3. นับจากวันที่รัฐธรรมนูญ 60 ใช้บังคับ 4. นับจากวันเลือกตั้งปี 2562

อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า ธรรมนูญกำหนด 8 ปี ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่ประเทศส่วนใหญ่ จะกำหนดระยะเวลา ในการดำรงตำแหน่ง ซึ่งเป็นกติกาสังคม เพราะคนเราเมื่อมีอำนาจแล้ว มักจะนำไปสู่การคอรัปชั่น ยิ่งมีอำนาจแบบสมบูรณ์ ก็จะคอรัปชั่นแบบสมบูรณ์ จำเป็นต้องกำหนดว่า ครบเวลาแล้วต้องตัดออก ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่า องคาพยพของระบบข้าราชการ และระบบต่างๆ เตรียมเพื่อรองรับ ให้เขาอยู่ดีกินดี โดยอาศัยคอรัปชั่นไปได้เรื่อยๆ จำเป็นต้องมีการตัดต่อ อะไรที่ไม่ดีก็ต้องขุดคุ้ยตรวจสอบได้

“หลักนี้เป็นหลักสากล ที่จะนำไปสู่ความสงบปรองดอง ในประเทศและถ้าเราไม่ยึดหลักนี้ ก็จะเกิดความวุ่นวาย ดังนั้นถ้าเริ่มต้นตรงนี้ การนับ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ต้องเอากฎหมายวางไว้ก่อน แล้วเรามาถามว่า ท่านทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ในฐานะนายกรัฐมนตรี มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ต้องดูข้อเท็จจริงก่อนว่า ในทางปฏิบัติจริงๆเป็นอย่างไร ทำมาตั้งแต่เป็นหัวหน้าคสช. การตีความกฎหมาย ใครจะบิดอย่างไร ให้คำนึงถึงผลได้ผลเสีย ต่อประชาชน ต่อระบบความมั่นคง ความปรองดองของประเทศด้วย” นายธีระชัย กล่าว
นายธีระชัย กล่าวว่า ช่องทางที่ตนเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ คือ ปี 2562 การเลือกตั้งพล.อประยุทธ์ยอมให้เอาชื่อตนเอง เข้าไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ โดยที่ยังไม่ได้ลาออก จากหัวหน้าคสช. กติกาของกฎหมายสากล เปิดล็อคคนที่กลุ่มอำนาจรัฐ ไม่สามารถที่จะมาเป็น ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ฉะนั้นการเลือกตั้งปี 2562 ตัดทิ้งได้เลย

อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า ตนเคยเตือนพล.อ.ประยุทธ์ไปแล้ว ว่ามีความเสี่ยงว่าพอเลยวันที่ 23ส.ค.65 ไปแล้ว หากท่านยังดำรงตำแหน่งต่อ ก็จะมีความเสี่ยง ทั้งตัวพล.อ.ประยุทธ์เอง ทั้งคณะรัฐมนตรี และบุคคลที่รัฐมนตรีแต่ละคนแต่งตั้ง อาทิ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง ซึ่งเป็นกลไกรัฐ

“ความเสี่ยงดังกล่าว คือ เริ่มต้นเลยมีพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. มาตรา 171 ที่ระบุว่า ถ้าปฎิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ ที่ทำให้คนอื่นเชื่อว่า มีตำแหน่งหน้าที่ ทั้งที่ไม่มีตำแหน่งหน้าที่ และเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ โดยชอบด้วยกฏหมาย สำหรับตนเองและสำหรับผู้อื่น จะต้องจำคุก 1-10 ปีและปรับ 2000 – 20,000 บาท สิทธิที่มิควรได้ คือ รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง สิทธิต่างๆ ทั้งหมดนี้มีความเสี่ยง บุคคลที่เป็นองคาพยพใหญ่ แล้วกำลังสร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโดยไม่จำเป็น”นายธีระชัย กล่าว

นายธีระชัย กล่าวว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ จะได้บริหารประเทศต่อ ในวันที่ 24 ส.ค. 65 เดายากว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไร คนไทยกระตือรือร้น ในเรื่องของการปกป้องสิทธิ์ ของตนเองมากน้อยแค่ไหน แต่ถ้ามีคนชี้ประเด็นมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันผลงาน ในการบริหารประเทศ ประชาชนแฮปปี้อย่างเดียว คือ รัฐบาลแจกเงิน แต่เรายังเจอสภาวะพายุ จากเศรษฐกิจโลกที่พัดเข้ามา คิดว่าไม่เกินสิ้นปีนี้ ประเทศไทยมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาใหญ่โต

อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า เลยเที่ยงคืน 23ส.ค.ไปแล้ว ประชาชนที่เห็นว่า มีการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. และที่มีการฝ่าฝืน ประมวลกฎหมายอาญา สามารถแจ้งความได้ทั่วประเทศ ทุกคนที่เกี่ยวข้องในกระบวนการ ทั้งพล.อ.ประยุทธ์และคณะรัฐมนตรี รวมทั้งคนที่ถูกแต่งตั้ง

ด้านนายจตุพร กล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจ 22 พ.ค. 2557 จนกระทั่งถึง 23 ส.ค. 2557 ก็ทำหน้าที่เป็นรัฏฐาธิปัตย์ มีอำนาจเหนือฝ่ายตุลาการ สามารถแต่งตั้งโดยอาศัย คำสั่งหัวหน้าคสช. การเป็นนายกฯ แต่การเป็นนายกฯในวันที่ 23 ส.ค. 2557 ได้รับ พระบรมราชโองการโปรดเก้าฯ แปลว่าสถานะองค์รัฏฐาธิปัตย์ มาอยู่ที่พระเจ้าแผ่นดินแล้ว แต่ความจริงแล้ว22 พ.ค.- 23 ส.ค. ก็ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่เพื่อเป็นการปิดช่องว่าง เพราะฉะนั้นการอ้างเป็นหัวหน้ารัฏฐาธิปัตย์ นับตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.ไม่สามารถเป็นไปได้อีกต่อไป เพราะได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแล้ว

ประธาน นปช. กล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อวันใช้รัฐธรรมนูญ 60 ถ้าให้เป็นความสิ้นสุดลง และถ้ารัฐธรรมนูญประกาศใช้ นายกฯต้องสิ้นไป แต่ปรากฏว่ากลับดำรงตำแหน่งต่อ และรัฐธรรมนูญมาตรา 264 ก็รับรองการเป็นนายกรัฐมนตรี , ครม.ทั้งหมดจนกระทั่งปี2562 ก็รับรองความต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นนายกฯ ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แสดงว่าเป็นนายกฯก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้ เพราะถ้าไม่นับ ก็ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน เมื่อคราวที่ครบตำแหน่ง

นายจตุพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ตั้งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ มาร่างรัฐธรรมนูญ และตนก็เชื่อว่าทุกมาตรา นายมีชัยไม่สามารถทำได้โดยพลการ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ยินยอม ก็แปลว่ากรณีนี้เมื่อเดินทางมาถึงจุดนี้ แล้วยังมาถามอีกว่า จะต้องมานับวันไหน ถ้านับวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ก็แปลว่าคนที่เป็นนายกฯ มาก่อนหน้านี้ก็เป็นศูนย์วันเลย

ประธาน นปช. กล่าวว่า ฉะนั้นการตีความในลักษณะนี้ ความจริงแล้ว ข้อความที่ว่า “ชีวิตนี้เป็นได้ 8 ปี” แสดงว่าถ้าจะเป็นต่อ ต้องไปตายแล้วเกิดใหม่ ไม่มีทางอื่นแต่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย พูดไม่ครบ ฉะนั้นจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ความจริงต้องนับวันที่ 22 พ.ค. อย่างที่นายธีระชัย และนายนิติธรระบุไว้ เพราะหัวหน้าคสช. ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารด้วย ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ว่าต้องครบ 8 ปี เที่ยงคืนวันที่23 ส.ค.นี้

“กรณี 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรจะจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ควรจะจบที่พล.อ.ประยุทธ์ เพราะกติกาท่านเขียนเองกับมือ จะมาลบด้วยเท้าได้อย่างไร ถ้าพล.อ.ประยุทธ์รู้ว่ามาตรานี้มีปัญหา แล้วจะให้นายมีชัยเขียนได้อย่างไร เป็นเวลาดีที่พล.อ.ประยุทธ์ จะลงจากตำแหน่ง เพราะลงด้วยเหตุนี้ โดยไม่ต้องบอบช้ำอะไรเลยแต่ว่าหลังจาก วันที่ 23ส.ค.เป็นต้นไป ทางลงมันไม่ง่ายอย่างวันที่ 23 เพราะฉะนั้น เห็นด้วยกับผู้มีอำนาจหลายคน เวลาทางลงที่มักเป็นทางสวรรค์ มักจะไม่ลง” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจและวิกฤติ ของบ้านเมืองหนักอยู่แล้ว แต่กรณี 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งกว่าการเอาฟืนใส่กองไฟ เพราะฉะนั้นหลังเที่ยงคืนวันที่ 23 ส.ค.อะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่รู้ หากดื้อดึงต่อไป ตนชื่อว่าวิกฤติรออยู่ กรณีเลือดตกยางออก ที่หลายคนคาดการณ์กัน แต่เราไม่อยากให้เกิด เพราะฉะนั้นอยู่ที่สามัญสำนึก ของพล.อ.ประยุทธ์เอง รู้ดีที่สุด

ด้านนายนิติธร กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะต้องเริ่มต้น จากเจตนาของประชาชน อำนาจอธิปไตยของประชาชน อำนาจในการสถาปนารัฐธรรมนูญ ของประชาชนและประชาชน ส่วนใหญ่ของประเทศ เห็นอย่างไรบนปัจจัยพื้นฐาน ที่อาจจะเกิดขึ้นในขณะนี้ และเรื่องนี้ถ้าเกิดขึ้น จะนำไปสู่ความล่มสลาย ในอีกหลายมิติ คือ ล่มสลายทางการเมือง , ล่มสลายทางความน่าเชื่อถือ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ , ล่มสลายต่อการมีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ

แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ใหญ่มาก และสิ่งที่สำคัญคือกฎหมาย จะเขียนหลีกเลี่ยงอย่างไร ถึงการดำรงตำแหน่ง แต่จะหลีกเลี่ยงอย่างไรก็แล้วแต่ ความหมายของคำว่า “นายก-นิติ-นีติ” มีความหมายเหมือนกัน คือ ความหมายของผู้นำ เพราะฉะนั้นจะเรียกอะไร ก็แล้วแต่ถ้าอยู่ในความหมาย ของผู้นำกลุ่ม ต้องเข้าบริบททางกฏหมาย ฉะนั้นที่นายธีระชัยพูดสำคัญมาก

“ทันทีที่คุณเข้ามาทำหน้าที่ผู้นำ แล้วคุณยึดอำนาจรัฐ คือ มีอำนาจบริหาร มีอำนาจนิติบัญญัติ และมีอำนาจตุลาการ แต่คุณยกเว้น คือ 1.คุณเอาอำนาจบริหาร ไว้ที่คุณ ส่วนอำนาจนิติบัญญัติ คุณส่งผ่านไปให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) , อำนาจตุลาการให้คงสภาพไว้ เท่ากับว่าคุณก็มีฐานะ เป็นผู้นำฝ่ายบริหารโดยตรง ถึงจะใช้คำว่าหัวหน้าคสช. ก็ตาม”นายนิติธร กล่าว

นายนิติธร กล่าวว่า เพราะฉะนั้นถ้านำตรงนี้ ไปจับในรัฐธรรมนูญปี 60 หรือรัฐธรรมนูญปีชั่วคราว ที่เขียนไว้ว่าให้ความเป็นรัฐมนตรี ,รัฐบาล รวมทั้งการดำเนินการใดๆตั้งแต่ 22 พ.ค.57 มาจนถึงปัจจุบัน หรือวันที่รัฐธรรมนูญนี้ ประกาศใช้ คือ รับรองความเป็นผู้นำของคุณ ความเป็นหัวหน้าคสช. ของคุณ ฉะนั้นถ้าจะนับให้ถูกต้อง โดยข้อเท็จจริงต้องไปนับ22 พ.ค.57 ซึ่งก็พ้นมาแล้ว

แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่า ตรงนี้กำลังเจอเกมการเมือง อย่างวินาศสันตะโร เล่นไสยศาสตร์ทางกฎหมาย และนายวิษณุ ได้ว่าเหลี่ยมแพรวพราวบอกว่าชีวิตนี้นายกฯ เป็นได้ 8 ปีแต่นายวิษณุสามารถจะพูดได้ว่า นับตั้งแต่เมื่อไหร่ตรงไหนอย่างไร แต่นายวิษณุกลับไม่พูด ทำให้เกิดความคลางแคลงใจทางสังคม ตรงนี้จะเป็นแรงกระตุ้น กับภาคประชาชนโดยตรง

นายนิติธร กล่าวว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ไปลงนาม รับสนองพระบรมราชโองการบ้างหรือไม่ นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม มาจนถึงปัจจุบัน นี่คือสิ่งที่ขัดต่อระบบการปกครอง และรูปแบบการปกครองอย่างแท้จริง ไปสอดคล้องกับการใช้อำนาจ และการต่ออำนาจ โดยพยายามทำให้เกิดภาพลักษณ์ รัฐบาลรักษาการให้ได้

แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่หรือไม่ ตนไม่สนใจ แต่จะบอกประชาชนทุกคนว่า หลังเที่ยงคืนวันที่ 23 ส.ค.อำนาจอธิปไตย ที่ไปใช้ในการเลือกตั้ง กลับคืนสู่ประชาชนทันที และประชาชนสามารถ ใช้อำนาจอธิปไตย ในขณะนั้น เข้าบริหารจัดการบ้านเมืองได้ทันที ถ้าคุณอยู่คุณก็เป็นนายกเถื่อน บรรดาคณะรัฐมนตรีก็เถื่อน คณะกรรมการต่างๆที่ไปตั้งไว้ก็เถื่อนหมด ตนมองว่ามันอัตโนมัติเหมือนกัน โดยไม่ต้องมีใครตีความ แต่ต้องรู้ตัว

นายนิติธร กล่าวว่า ตนเชื่อในอำนาจอธิปไตย เป็นของปวงชนชาวไทย ตนจะพาพี่น้องประชาชน ใช้อำนาจอธิปไตยทางตรงทันที เชื่อว่าประชาชนไม่เอาแล้ว จะยึดอำนาจโดยทหาร โดยกลไกทางกฎหมาย ยึดอำนาจหลังจากการเลือกตั้งพฤษภา ไม่เอาแล้ว เพราะฉะนั้นต่อไป ถ้าจะมีการยึด ต้องประชาชนเท่านั้น เพียงแต่ใช้อำนาจอธิปไตย ของตนเองทางตรงเท่านั้น ตนเชื่อว่าถ้าผู้นำและประชาชนทุกคนมีสติ บ้านเมืองก็จะไม่โกลาหล