“เลขาป.ป.ช.” เผย ตั้งวอร์รูมติดตามควันหลงศึกซักฟอก พร้อม มอนิเตอร์ปมไลน์ส.ส.พรรคเล็กหลุด ชี้ ไม่เหมือนคดียืมนาฬิกาเพื่อน ระบุ ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจยุบพรรค โยนกกต. ดำเนินการ
26 ก.ค.2565- นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตรวจสอบกรณีไลน์หลุด ประเด็นส.ส.กลุ่มพรรคเล็กรับเงิน ว่า ขณะนี้ทางป.ป.ช. ได้ให้สำนักการข่าวและกิจการพิเศษรวบรวมข้อมูลอยู่ ซึ่งปกติเขาก็จะรวบรวมรายละเอียดข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ ในอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช. ตั้งแต่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็มีการตั้งวอร์รูมอยู่เพื่อเฝ้าติดตามรับฟัง ว่ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นใดบ้าง รวมทั้งมีกระแสข่าวที่มีความต่อเนื่อง เช่น กรณีที่มีสลิปการโอนเงินหลุดออกมาจนทำให้สื่อมวลชนสนใจ เราก็มีการมอนิเตอร์อยู่ และรวบรวมข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ หากถามว่าจะมีการเสนอคณะกรรมการป.ป.ช. ได้เมื่อไหร่นั้น ก็ต้องรอดูรายละเอียดข้อเท็จจริงที่จะต้องรวบรวมมาว่าจะต้องครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ และอยู่ในอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช.หรือไม่ ถ้าอยู่ในอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช. เราก็จะเสนอคณะกรรมการป.ป.ช. ถ้ามีคนมาร้องเรียนเราก็จะหยิบหยกเรื่องนี้มารวมกัน แต่ถ้าไม่มีคนมาร้องเรียนคณะกรรมการป.ป.ช. ก็สามารถยกเหตุที่สงสัยขึ้นเพื่อดำเนินการสืบสวนต่อไปได้
เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวป.ป.ช. สามารถดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องรอคนมาร้องใช่หรือไม่ เลขาฯป.ป.ช.ตอบว่าต้องดูก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะเท่าที่ฟังจากข่าวเป็นการยืมเงิน เราก็ต้องไปดูว่าเป็นการยืมเงินจริงหรือไม่ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเป็นการยืมเงินจริง เขาก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะทุกคนสามารถมีสิทธิ์ในการกู้ยืมเงินได้ ในกรณีที่มีความจำเป็น แต่หากไม่ใช่เรื่องการกู้ยืมเป็นเรื่องของการให้ ก็จะเป็นอีกกรณีหนึ่ง หากเป็นเรื่องการให้ก็ต้องไปดูว่าให้เพราะสืบเนื่องจากอะไร ถ้าให้เฉยๆ ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องไปดูกรอบกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องการรับทรัพย์สินเกินกว่า 3,000 บาท เพราะคณะกรรมการป.ป.ช. ประกาศและทางสมาชิกสภาฯ ก็เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายนี้
นายนิวัติไชย กล่าวต่อว่า หากจะรับเงินเกินกว่า 3,000 บาท ต้องรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อทราบและอนุญาตเพื่อถือครองทรัพย์สินนั้นได้ แต่ถ้าเกิดเป็นการให้เพื่อจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ อาจจะเป็นกรณีการรับหรือมีการเรียกรับไว้เพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในตำแหน่ง ก็ต้องไปดูว่าตำแหน่งในสมาชิกสภาฯ มีหน้าที่อะไร ซึ่งก็มีหน้าที่ในการลงคะแนนเสียงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ หรือมีหน้าที่ในการพิจารณาผ่านร่างกฎหมายต่างๆ ดังนั้น หากไปรับเงินโดยมีมูลเหตุจูงใจ ก็อาจจะต้องเข้าข่ายความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ได้ ซึ่งต้องดูเป็นกรณีไปนอกจากนี้ ยังมีความผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งก็ต้องพิจารณาดูอีกครั้ง ส่วนข้อเท็จจริงตอนนี้เท่าที่ทราบเป็นการยืมเงินเฉยๆ หากเป็นการยืมเงินเฉยๆ ก็ยังไม่ต้องหยิบยกอะไรมาพิจารณา
ถามว่า แชทไลน์หลุดถือเป็นหลักฐานหรือไม่ เลขาฯป.ป.ช.ตอบว่า ถือเป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งที่ใช้ในการพิจารณาได้ แต่ทั้งนี้เราต้องมีการรวบรวมประเด็นในการพิจารณาก่อน ซึ่งจะต้องไปตรวจสอบว่าเป็นการกู้ยืมหรือการให้อย่างไรก็ตาม เราต้องเคลียร์ประเด็นนี้ก่อน
ซักว่า กรณีที่สังคมมองว่าคดีนี้ ท้ายที่สุดแล้วจะเป็นเหมือนคดียืมนาฬิกาเพื่อน หรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า คงไม่เหมือนกัน เพราะคดีนั้นมีการวินิจฉัยที่ชัดเจนแล้ว ฉะนั้น บรรทัดฐานในเรื่องนี้ต่างกัน เรื่องการยืมนาฬิกาเพื่อนก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องการให้ มันแตกต่างกัน
ถามย้ำว่า กลุ่มพรรคเล็กชี้แจงยืนยันประเด็นไลน์หลุดว่าเป็นการยืมเงินกันนั้น นายนิวัติไชย กล่าวว่า การให้มีหลายแบบ เช่น การให้แบบให้ไปเลย ให้รถยนต์ ให้เงิน แต่หากให้กู้ก็จะมีเรื่องผลประโยชน์ตอบแทนมา ส่วนนี้จะเป็นไปเพื่อประโยช์ทางพาณิชย์หรือประโยชน์ของตัวผู้ให้กู้และตัวผู้กู้เอง ซึ่งจะต้องมีการตกลงเป็นข้อสัญญา ซึ่งก็แล้วแต่กรณีต้องมีการแยกแยะให้ชัดเจนก่อน จะมาเหมารวมไม่ได้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกรณีผิดทั้งผู้ให้และผู้รับจะเป็นอย่างไร เลขาฯป.ป.ช.ตอบว่า ปัญหามีอยู่ว่าผู้ให้ ให้เพื่ออะไร เช่น ให้เพื่อจูงใจเพื่อให้เขาปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติในหน้าที่แบบนี้ ผู้ให้ถือว่าผิด ถือเป็นการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งในหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผู้ให้ถือว่าผิดเพราะมีผลประโยชน์แอบแฝง มีมูลเหตุจูงใจว่าจะให้เขากระทำอะไร เช่น เพื่อให้เขาออกใบอนุญาตให้ ซึ่งแบบนี้ก็จะผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ แต่ความผิดจะแตกต่างกันเพราะใช้กฎหมายคนละมาตรา
ถามต่อว่า เรื่องดังกล่าวจะนำไปสู่การขยายผลเพื่อยุบพรรคการเมืองได้หรือไม่ นายนิวัติไชย ตนไม่ขอก้าวล่วงไป ถึงเรื่องยุบพรรค เพราะไม่ใช้อำนาจหน้าที่ของป.ป.ช. แต่ความผิดทุกอย่าง ถ้าป.ป.ช.วินิจฉัยแล้ว ก็จะส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นต้น เพื่อให้เขารู้เป็นฐานข้อมูล ส่วนการดำเนินการจะเป็นอย่างไร ก็เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของกกต. ถ้าผลถึงขนาดนั้น แต่วันนี้ผลยังไม่ถึงขนาดนั้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป.ป.ช.แจงยังไม่ชี้มูลปม 'ทักษิณ' ป่วยทิพย์ชั้น 14 เผยอยู่ในชั้นตรวจสอบเบื้องต้น
กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อออนไลน์ว่า ฝ่ายตรวจสอบไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. โดยมีนายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน
'นิวัติไชย' แจงเหตุ 'วิทยา' ประธาน ป.ป.ช.คนใหม่ เข้ามาทำหน้าที่เป็นการชั่วคราว
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งขณะนี้มีทั้งหมด 6 คน
ป.ป.ช. ตอบ สลค. แล้ว! ใครใน 'ครม.อิ๊งค์' ติดคดีบ้าง
'นิวัติไชย' แจง สลค. ถามคดีว่าที่รัฐมนตรี ป.ป.ช. มีแค่หน้าที่ให้ข้อมูล ไม่มีอำนาจวินิจฉัย อุบใครอยู่ระหว่างโดนตรวจสอบบ้าง ชี้เป็นความลับ
เลขาฯป.ป.ช. เผยส่งรายชื่อให้รัฐบาลแล้ว ว่าที่รมต. มีคดีค้าง
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกระแสข่าวว่าที่รัฐมนตรีบางคนมีคดีใน ป.ป.ช. ว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการส่งรายชื่อบุคคลที่ถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาสอบถาม ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบดูว่ามีคดีอะไรใน ป.ป.ช.หรือไม่
ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด 3 บิ๊กนักการเมืองท้องถิ่น ทุจริตต่อหน้าที่
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลกรณีกล่าวหานายมงคล เพ็งสมภาร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลผาตั้ง
ป.ป.ช. ฟัน อดีตนายกอบต.โพธิ์ศรีสว่าง เรียกรับเงิน 1.9 แสนบาท แลกเข้าทำงานมิชอบ
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดกรณีกล่าวหานายรังสรรค์ บุญมี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ศรีสว่าง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ติดต่อเรียกรับเงินจากบุคคลที่ประสงค์จะเข้าทำงานที่องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ศรีสว่างโดยมิชอบ