'อมรัตน์' ฉะกองทัพยุค 'บิ๊กตู่' ยับ แฉหากินไม่เว้นแม้แต่โครงการก่อสร้างเพื่อสถาบัน เย้ยรักชาติจนน้ำลายไหล ไม่รู้เรียกกองทัพหรือกองโจร ซัดเป็นทรราช 2 แผ่นดิน พร้อมมอบกระจกให้ส่องดูตัวเอง
21 ก.ค.2565 - นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายถึงความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆของกองทัพ ว่า ไม่อาจไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บุคคลที่มีอำนาจ แต่ไร้ทั้งความสามารถและความรับผิดชอบ ใน 3 ประเด็น 1.จงใจปล่อยปละละเลยให้เกิดเครือข่ายทุจริตในกองทัพ 2.สร้างความเสื่อมเสียแก่พระเกียรติยศในโครงการเทิดพระเกียรติ และ 3.มีจิตสำนึกเผด็จการ สันดานทรราช หลังรัฐประหารยังจงใจบ่อนทำลายระบอบการปกครองและอุดมการณ์ประชาธิปไตย
นางอมรัตน์ กล่าวถึงความไม่ชอบในโครงการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่9 ที่ค่ายภูมิพล จ.ลพบุรี โดยได้กล่าวถึงที่มาของงบประมาณที่สูงราว 60 ล้านบาท ว่าประชาชนต่างตั้งคำถามว่าเหตุใดถึงใช้งบประมาณจำนวนมาก ทั้งที่สร้างเพียงแท่นพระบรมราชานุสาวรีย์ และปรับภูมิทัศน์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม โครงการนี้แบ่งออกเป็น 2 โครงการย่อย คือ 1.โครงการรื้อถอนอนุสาวรีย์พระยาพหล และจอมพล ป. มูลค่า 1.2 ล้านบาท โดย หจก.ภูวเณศ เป็นผู้ชนะประมูล แต่พบว่ามีผู้รับเหมาเข้าไปรื้อถอนก่อนที่กองทัพบกจะมีประกาศผู้ชนะการประมูล โดยเข้าไปทำงานตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.2563 แต่มีประกาศเมื่อวันที่ 23 เม.ย.2564 และเมื่อดูภาพถ่ายผ่านดาวเทียมก็พบว่าสอดคล้องกันระยะเวลาข้างต้น นั่นแสดงให้เห็นว่ามีผู้รับเหมาเข้าไปทำงานก่อนถึง 15 เดือน
นางอมรัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าโครงการสร้างแท่นพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่9 ของกรมยุทธโยธาทหารบก มูลค่า 59.99 ล้านบาท ปรากฏว่าบริษัท ไอยเรศ จำกัด ชนะการคัดเลือก ด้วยการเสนอราคา 59,873,500 บาท โดยโครงการนี้ได้มีการประกาศตัวผู้ชนะการเสนอราคาในวันที่ 14 ก.ค.2564 และทำการเซ็นสัญญากันในวันที่ 27 ส.ค.2564 แต่เมื่อดูจากแผนที่ทางดาวเทียมพบว่ากองทัพได้ให้ผู้รับเหมาเริ่มทำงานไปล่วงหน้าแล้วตั้งแต่เดือน ธ.ค.2563 โดยภาพถ่ายทางดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าในช่วงเดือนเม.ย. 64 โครงการที่ว่านี้ได้คืบหน้าไปมาก จนโครงสร้างฐานรากของแท่นพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 ใกล้เสร็จสมบูรณ์สามารถมองเห็นได้ชัดจากภาพถ่ายทางดาวเทียม
“ทั้ง 2 กรณีชัดเจนว่าเริ่มการก่อสร้างกันตั้งแต่ยังไม่มีการประกาศราคากลาง ยังไม่มีการประกวดราคา ยังไม่มีการทำสัญญา พูดง่ายๆ กองทัพล็อกผู้รับเหมา แล้วให้เข้าไปทำงานล่วงหน้าอย่างน้อยๆ 4 เดือน ข่าวประชาสัมพันธ์ของกองทัพบกระบุว่าโครงการนี้ทำตั้งแต่ปี 2563 ถือเป็นการสารภาพเสียเอง ขณะเดียวกันก็มีประกาศผู้ชนะประมูลและเซ็นสัญญาณในปี 2564 แบบนี้ท่านหลอกได้แต่ลิงที่ลพบุรีเท่านั้น นายกฯ ชี้หน้าด่านักการเมืองกล่าวหาว่าทุจริตอ้างเป็นเหตุให้เข็นรถถังทำรัฐประหาร แต่กองทัพที่ตัวเองดูแลอยู่กลับแกล้งปิดตาข้างเดียว ปล่อยให้เน่าเหม็น เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง กองทัพย่ามใจอย่างไร ถึงได้กล้าหากินไม่เว้น แม้กระทั่งโครงการที่อ้างว่าทำเพื่อความสง่างามสมพระเกียรติ และเพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 รักชาติจนน้ำลายไหลขนาดนี้เลยหรือ” นางอมรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ นางอมรัตน์ ยังกล่าวถึงโครงการก่อสร้างบ้านพักรับรอง ผบ.ทร. มูลค่า 65 ล้านบาท ว่ามีลักษณะเช่นเดียวกับโครงการข้างต้นที่มีการให้ผู้รับเหมาเข้าไปก่อสร้างก่อนที่จะประกาศผู้ชนะประมูลและเซ็นสัญญา และระบุว่าการประกวดราคาในกองทัพบกเป็นเพียงพิธีกรรม เพราะแอบล็อกสเปกไว้ก่อนหน้า มีการจ่ายค่าน้ำร้อนน้ำชาให้นายพลมากน้อยต่างกันตามยศ ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายจนเคยชิน แบบนี้จะให้เรียกว่ากองทัพหรือกองโจร
จากนั้นนายชวนที่ทำหน้าที่ประธานควบคุมการประชุมได้ตักเตือนอย่าใช้คำว่ากองโจร เพราะต้องมองกองทัพในแง่ดี ซึ่งนางอมรัตน์ กล่าวว่ามีสิทธิ์ที่จะใช้คำว่ากองโจร เพราะเป็นการพูดถึงกองทัพในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ บริหาร แต่ทั้งนี้ ทหารดีก็มีอยู่จำนวนมากเช่นกัน
นางอมรัตน์ กล่าวด้วยว่า ในกองทัพยังมีผู้รับเหมาแบบผูกปิ่นโตอยู่ไม่กี่ราย ที่เห็นชัดเจน เช่น โครงการก่อสร้างที่ จ.ลพบุรี บริษัทไอยเรศ ซึ่งเป็นบริษัทเครือเดียวกันกับบริษัท เบญจมาศ ซึ่งไม่ใช่บริษัทมหาชน แต่รับงานทั้งหมดจากกลาโหมทุกอย่างทั้งโครงการขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ผูกปิ่นโตเป็นเจ้าประจำ บริษัทไอยเรศ เสนอราคาก่อสร้างที่ลพบุรี ต่ำกว่าราคากลางเพียง 0.12% ขณะที่บริษัทคู่เทียบ เสนอราคาต่ำกว่าราคากลาง 0.5- 0.6 %
นางอมรัตน์ ยังกล่าวถึงโครงการพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าว่า มีการขยายวงเงินหลายครั้ง และลงมือก่อสร้างไปแล้วที่เขตดุสิต กรุงเทพ แต่แล้วเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2560 สั่งให้ยุติโครงการ ทั้งที่ใช้งบประมาณไปแล้ว 600 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะย้ายไปสร้างในที่ดินพระราชทานที่ห้วยขวาง และด้วยเหตุนี้จึงสบโอกาสขยายวงเงินโครงการก่อสร้างเป็น 6.3 พันล้านบาท
“เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงพฤติกรรมชูแขน แอ่นอก ยิ้มร่า รับว่าตัวเองก่อการกบฏเพียงคนเดียว การหัวเราะเรื่องรัฐประหารในสภาแห่งนี้ คือการไร้ยางอาย ไม่มีวุฒิภาวะ ทำอะไรไม่ถูกกาลเทศะ ถ้าปล่อย พล.อ.ประยุทธ์ครองอำนาจต่อไป วันหนึ่งตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก็จะไม่มีเหลือ และฝากถนนหมายเลข 1 ชื่อถนนพหลโยธิน โรงพยาบาลพหลพลพยุหะเสนา ที่จังหวัดกาญจนบุรี ช่วยดูแลด้วยไม่เช่นนั้นจะหายไปอีก ดิฉันไม่อาจไว้วางใจให้ทรราช 2 แผ่นดิน พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกและรมว.กลาโหม ต่อไป” นางอมรัตน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตอนท้ายนางอมรัตน์ ได้ยกกระจกมอบให้นายกฯ และกล่าวว่า “ขอให้นายกส่องกระจก เวลาชี้หน้าใครว่าก่อความไม่สงบ เที่ยวชี้หน้าใครว่าไม่มีมารยาท ไม่รักชาติให้มองที่กระจกบานนี้ และเวลาที่ท่านว่าใครว่าไม่อ่านประวัติศาสตร์ ก็ขอให้มองกระจกบานนี้ ทั้งหมดคือคนในกระจก” จากนั้นนางอมรัตน์ได้เดินจากที่นั่งตรงที่ใช้อภิปราย เพื่อนำกระจกไปยื่นต่อหน้านายกฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ สั่งเกาะติด 7จังหวัดภาคใต้ที่เจอฝนถล่มหนัก
นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์พื้นที่เสี่ยงจากฝนตกหนักในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน
นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้
เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ
เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน
'เทพไท' วิเคราะห์ชัดๆ 'ทักษิณ-อุ๊งอิ๊งค์' ใครคือนายกฯตัวจริง
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท