'ศักดิ์สยาม' ชักแย่! ก้าวไกล แฉใช้นอมินีถือหุ้นเอกชน รับงานคมนาคม

19 ก.ค.2565 - เวลา 16.42 น. นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ยืมชื่อนอมินีมาถือครองหุ้นกิจการแทนตัวเอง ทำทีว่าขาดจากกิจการไปแล้วเพื่อเป็นรัฐมนตรี แต่ความจริงคือเป็นรัฐมนตรีไปพร้อมๆกับเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งทำธุรกิจเข้าประมูลงานกับกระทรวงที่นายศักดิ์สยามดำรงตำแหน่ง ถือเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และปกปิดทรัพย์สิน

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ในปี 58-61 นายศักดิ์สยามถือหุ้นเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และเคยเป็นที่ปรึกษา จากนั้น ได้มีการถอนหุ้น และกลับมาถือหุ้น กระทั่งปี 61 โอนหุ้นทั้งหมดอีกครั้ง คำถามคือขายกิจการจริงหรือไม่ หรือแค่เปลี่ยนชื่อ ปรากฏว่านายเอมารับช่วงต่อ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานการจ่ายเงินแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นายเอ เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ 4 แห่ง 3แห่งมีสถานะร้าง และเหลือเพียงแห่งเดียวยังคงดำเนินการกิจการ ซึ่งมีที่ตั้งบริษัทเดียวกับหจก.บุรีเจริญ แต่บริษัทนี้ไม่มีรายได้มาแล้วอย่างน้อย 3ปีติดต่อกัน

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า ยิ่งสืบยิ่งพบเหตุการณ์แปลกประหลาดที่บ่งชี้ว่านายเอเป็นเพียงนอมินีของคนในอาณาจักรชิดชอบ เพราะกลายเป็นว่านายเอเป็นลูกจ้างรับเงินเดือน 9,000 บาท จาก หจก.ศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือญาติของนายศักดิ์สยาม ที่แปลกคือ นายเอเป็นลูกจ้าง แต่ขณะเดียวกันก็เป็นเจ้าหนี้ของ หจก.ศิลาชัย โดยให้กู้เงิน 250 ล้านบาท แบบไม่คิดดอกเบี้ยและไม่ทำสัญญา และสาเหตุที่บริษัทดังกล่าวขาดสภาพคล่อง น่าจะมาจากการที่นำเงินไปซื้อเครื่องบินรุ่นเดียวกับที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล มีไว้ในครอบครอง ราคา 12 ล้านบาท โดยตนได้ยินแว่วว่าเครื่องบินลำนี้อยู่แถวจังหวัดบุรีรัมย์

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังพบว่าหจก.ศิลาชัย ยังให้นายศักดิ์สยามกู้ยืมเงิน 88 ล้านบาทแบบไม่คิดดอกเบี้ย และในปี62 แม้มีการคืนเงินกู้บางส่วน แต่บริษัทยังเป็นหนี้นายเอ 143 ล้านบาท ปรากฏว่าบริษัทควัก 4.7 ล้านบริจาคให้พรรคภูมิใจไทย นอกจากนั้นนายเอยังควักให้พรรคอีก 2.7 ล้านบาท และเอาเงินของบริษัทไปบริจาคเพิ่มอีก 4.8 ล้านบาท ถือเป็นความซับซ้อนเกินกว่าจะเป็นความจริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่งชี้ว่านายเอมีพฤติกรรมเป็นเพียงนอมินีให้รัฐมนตรีศักดิ์สยาม ยืมชื่อไปใช้ทำธุรกรรมทางบัญชีในกงสีของตัวเอง ความจริงเงินบริจาคในนามบริษัทและนายเอก็อาจเป็นของนายศักดิ์สยามทั้งหมดก็เป็นได้

“หจก.บุรีเจริญฯ มีทุนจัดตั้ง 120 ล้านบาท ไม่ว่าจะซื้อขายต่ำกว่าหรือสูงกว่าวงเงินจัดตั้ง แต่นายศักดิ์สยาม ไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินนี้ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตอนเข้ารับตำแหน่งส.ส. ในปี 2562 เพราะตอนเข้ารับตำแหน่งยื่นว่ามีทรัพย์สินอยู่ที่ 115 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน มีเงินสดบวกเงินฝากอยู่ประมาณ 76 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่นๆ เกือบทั้งหมดระบุว่าได้มาก่อนปี 61 แทบทั้งสิ้น คำถามคือ เงิน 120 ล้านบาทก้อนนี้หายไปไหน ผมก็คิดว่ารัฐมนตรีศักดิ์สยามอาจจะเอาไปใช้ในการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะ 2 ปี บริจาคอย่างมากได้ 20 ล้านบาท ถ้าใช้ 100 ล้านแบบลับๆไม่ผ่านบัญชีพรรค ถือว่าผิดกฎหมายถึงขั้นยุบพรรค หรือนายศักดิ์สยามอาจเก็บเป็นเงินสดไว้ในบ้าน แล้วยื่นบัญชีอันเป็นเท็จต่อป.ป.ช. ก็คงไม่ใช่ แต่ผมคิดว่ากรณีที่เป็นไปได้คือไม่มีการจ่ายเงิน ไม่มีการซื้อขายใดๆ แต่เป็นเพียงการเปลี่ยนชื่อในเอกสาร ดังนั้น จึงแปลว่าบุรีเจริญยังเป็นกิจการของนายศักดิ์สยามโดยพฤตินัย ซึ่งเท่ากับว่าขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี และยื่นบัญชีอันเป็นเท็จต่อป.ป.ช.” นายปกรณ์วุฒิ ระบุ

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวทิ้งท้ายว่า ช่วงนายศักดิ์สยามเป็นรมว.คมนาคม บริษัทบุรีเจริญ ได้งานจากกระทรวงเป็นพันล้าน โดยในปี63 โครงการที่ได้เซ็นสัญญาระหว่างเดือนเม.ย. ถึง พ.ค. 3เดือนเท่านั้น ของแขวงทางหลวงชนบท มีมูลค่า 260 ล้านบาท และราคาชนะประมูลก็ห่างจากราคากลางเฉลี่ย 0.13 เปอร์เซ็นต์ ซ้ำบริษัทคู่เทียบมีเพียงบริษัทเดียว ซึ่งเป็นบริษัทที่บริจาคเงินให้พรรคภูมิใจไทย 5 ล้านบาทในเดือนม.ค. 62 แบบนี้ให้ใครดูเขาก็ว่าฮั้วกันทั้งนั้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แฉอีโม่ง วิ่งเต้นล้มปมชั้น 14 เตือนหยุดทำเถอะ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ให้จับตาดูวันที่ 15 ม.ค.ที่แพทยสภาขีดเส้นตายให้แพทย์รักษาทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ส่งรายงานการรักษามาตรวจสอบการเอื้อหนีติดคุก แล้วยังต้องติดตามผลตรวจสอบของ ป.ป.ช.กรณีชั้น

พ่อนายกฯ ลั่นพรรคร่วมรัฐบาลต้องอยู่ด้วยกันจนครบเทอม

นายทักษิณ​ ชิน​วัตร​ อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์การเมืองในปี 2568​ ว่า​ การเมืองคงไม่มีอะไร ยังเหมือนเดิม พรรคร่วมรัฐบาลก็เหมือนเดิม การที่ไม่เห็นด้วยกับอะไรกันบ้าง ก็เป็น

เทวดาแม้วของขึ้น! เปิดศึกขาประจำกว่า 10 คน รวม ‘แก้วสรร-แฝดน้อง‘

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงฉายา “ทวีไอพี” ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการ

ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 41): ‘กรมขุนชัยนาทนเรนทร’ ทรงตกเป็นเหยื่อการเมืองของหลวงพิบูลสงคราม ? ”

รัฐธรรมนูญไทยฉบับที่ 4 คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อ วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 รัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดจากคณะทหาร นำโดย พลโท ผิน ชุณหะวัณ และพันเอก กาจ กาจสงคราม และมีนายทหารคนอื่น