'อนุทิน' ลั่น! เตรียมตัวมาอย่างดี ตรงไหนลืมก็ก้มหน้าอ่าน ตรงไหนพูดจากใจได้ก็จะพูดจากใจ

“อนุทิน “มั่นใจเตรียมข้อมูลซักฟอก โควิด-กัญชาอย่างดี ขอฝ่ายค้าน อย่าเอาการเมืองทำลายล้างกันเหตุเป็นคนละบัญชี พร้อมปัดตอบเซอร์ไพรส์งูเห่า โหวตหนุน รบ. มีแต่สไปรท์

19 ก.ค.2565- นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึง การเตรียมความพร้อม ชี้แจงภายหลังถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นคนแรก ว่า ตอนนี้ได้เตรียมข้อมูลมากที่สุด ตามที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติ หลายๆ อย่างอยู่ในหัวอยู่แล้วเพราะเราทำงานด้วยตนเองมาตลอด และเต็มที่ จะเน้นตอบคำถามเกี่ยวกับการทำงานหากตรงไหนมีข้อสงสัยในเรื่องใดๆ ก็จะเตรียมข้อมูล ในส่วนตนจะเตรียมข้อมูลตอบในเรื่องบริหาร แต่หากจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลเชิงรายละเอียด ผู้บริหารในกระทรวงสาธารณสุข ก็พร้อมนำเสนอข้อมูลประกอบการอภิปราย เพื่อชี้แจงความกระจ่างให้กับพี่น้องประชาชน

“ผมเตรียมตัวมาอย่างดี ตรงไหนลืมก็ก้มหน้าอ่าน ตรงไหนพูดจากใจได้ก็จะพูดจากใจ” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่าตอนนี้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นแล้วแต่ยังถูกฝ่ายค้านอภิปราย จะเตรียมข้อมูลชี้แจงอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ขอเพียงอย่างเดียว อย่าเอาสุขภาพ ชีวิตของพี่น้องประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 มาเป็นเกมทำลายล้างทางการเมือง เพราะเป็นคนละบัญชีกัน เราต้องเอาความปลอดภัยของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด เรื่องการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง มันมีอีกหลายเรื่องเยอะแยะ การแข่งขันทางเรื่องการเมืองให้เอานโยบายมาแข่งขันกัน เอาความใกล้ชิดชาวบ้าน ความรับผิดชอบในพื้นที่ มาแข่งขันกัน จะดีกว่า ส่วนเรื่องกัญชา ที่จะถูกอภิปรายตนเองก็มีความพร้อม เพราะเป็นนโยบายของพรรค ภท. ได้เตรียมเอาไว้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งปี 2562 เราเข้ามาอยู่ตรงนี้ได้ส่วนหนึ่งก็มาจากนโยบายกัญชา ดังนั้นต้องมีความพร้อม มีข้อมูลชี้แจงให้ประชาชนเห็นประโยชน์อย่างเต็มที่

ซักว่ากังวลใจญัตติ การเมืองที่ฝ่ายค้านระบุว่า มุ่งดึง ส.ส. จากพรรคการเมืองอื่นเข้ามาสังกัดพรรคการเมืองตนเอง หรือไม่ รมว.สาธารณสุข ตอบว่า หลักการของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ควรพูดถึงหลักในการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรี เรื่องการเมืองเป็นเรื่องของการบริหารจัดการเรื่องการเมือง ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารราชการแผ่นดิน

ถามว่าในการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 กค.ทุกพรรคได้แสดงความมั่นใจในเรื่องคะแนนเสียงให้กับนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเกิดความมั่นใจแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างที่เรียนหัวหน้าพรรคทุกพรรคต้องไปรับผิดชอบ ให้ลูกพรรคของตนเองลงมติ โดยหากชี้แจงได้ พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องลงมติไว้วางใจ แต่ถ้าชี้แจงไม่ได้และมีหลักฐานเด่นชัด ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีการทุจริต ไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพ อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ ส.ส. เพราะทุกคนมีเอกสิทธิ์ในการใช้วิจารณญาณ และตนก็คิดว่า รัฐมนตรีทั้งหมดที่ถูกอภิปราย มีความตั้งใจทำงานในหน้าที่อย่างเต็มที่ ซื่อสัตย์สุจริตและทุ่มเทกับการทำงาน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจ จะเทคะแนนไว้วางใจ ส.ส .ให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมดเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรค ภท.ก็สนับสนุนในฐานะพรรค ภท.

ซักว่าการลงมติจะมีเซอร์ไพรส์พรรคฝ่ายค้าน และพรรคอื่นๆ มาลงคะแนนไว้วางใจให้ฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะก่อนตอบว่า “ไม่ทราบเลย ผมไม่มีเซอร์ไพรส์ มีแต่สไปรท์”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุริยะ' ชี้ 'วิโรจน์' พูดให้ดูดี ไม่สนนามสกุลเดียวกับ 'ธนาธร' ก็จะตรวจสอบ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กล่าวกรณีฝ่ายค้านออกมาระบุว่าเตรียมจองคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจกระทรวงคมนาคมว่า เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบรัฐบาลถือว่าเป็นเรื่องปกติ

ฝ่ายค้านจ่อยื่นซักฟอกรัฐบาลปลายก.พ.-ต้นมี.ค. โวมีเซอร์ไพรส์ ไม่เคยมีใครรับรู้มาก่อน

ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าว

'มนพร' ไม่หวั่น ฝ่ายค้านเตรียมซักฟอกทุกกระทรวง ไม่เว้นคนนามสกุล 'จึงรุ่งเรืองกิจ'

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม กล่าวถึงกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ระบุจะอภิป

'ธนกร' แนะฝ่ายค้านเปิดศึกซักฟอกรัฐบาล อย่าแค่เล่นละคร ต้องตรวจสอบให้จริงจัง

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบลงมติ

'อนุทิน' ควง 'เนวิน' ทำพิธียกยอดฉัตร วงเวียนรัชกาลที่ 1 เสริมมงคลรับปีใหม่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธียกยอดฉัตรตามโครงการปิดทองเบิกฟ้า สักการบูชา มหาราช รัชกาลที่ 1 ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(รัชกาลที่ 1)