
โฆษกรัฐบาลจวกเพื่อไทยโยงได้ทุกเรื่องเพื่อโจมตีรัฐบาล เหน็บซักฟอกเชื่อไร้หลักฐานเด็ด สุดท้ายโยนบาปให้งูเห่า ทั้งที่รำไม่ดีโทษปี่โทษกลองเอง
14 ก.ค.2564 - นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่าผลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปางบ่งชี้ถึงคะแนนนิยมอยู่ที่ฝั่งประชาธิปไตย และเมื่อย้อนไปดูผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ก็สอดคล้องกันว่า ดูเหมือนกลายเป็นงานถนัดของฝ่ายค้านไปแล้ว ที่ออกมาตีกิน โยงทุกเรื่องเป็นเรื่องการเมืองเพื่อโจมตีรัฐบาล ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าสาเหตุที่ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปางออกมาแบบนั้น เพราะฝ่ายค้านช่วยกันเทคะแนนให้ และไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพราะพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ส่งผู้สมัคร
นายธนกรกล่าวต่อว่า ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมชี้แจงในทุกประเด็น โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าฝ่ายค้านจะจัดเวลาลำดับไหนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจผลที่ออกมาก็ไม่แตกต่างกัน เพราะประชาชนทราบดีว่ารัฐบาลโดยเฉพาะท่านนายกฯ บริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และเด็ดขาดกับการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งแตกต่างจากรัฐบาลในอดีตอย่างชัดเจน
"วันนี้ฝ่ายค้านเริ่มเห็นแววว่าตัวเองจะไปไม่รอด เพราะหาข้อมูลทุจริตไม่ได้ตามที่โม้เอาไว้ จึงรีบออกมาโยนบาปให้คนอื่นว่า หากผลโหวตออกมาว่ารัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นได้รับเสียงไว้วางใจอย่างล้นหลาม เป็นเพราะฝ่ายค้านที่เป็นงูเห่าถูกซื้อตัวไปเยอะ จนเป็นตัวแปรที่มีผลพอสมควร ทั้งๆ ที่ผ่านมาฝ่ายค้านโหมโรงแทบจะรายวัน แต่เนื้อหาและข้อเท็จจริงกลับไม่เคยมีให้เห็น จึงต้องโยนบาปให้งูเห่าเพื่อรักษาหน้าตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าละอายยิ่งกว่า เข้าทำนองรำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง" นายธนกรกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE ผู้คุมเกมไร้หลัก โลกไร้ระเบียบ..! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
'ยศชนัน' โวยป้ายหาเสียงถูกทำลาย วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ มั่นใจรักษาฐานเสียงชายแดน
‘ยศชนัน’ วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ หลัง ’เพื่อไทย’ ถูกทำลายป้ายหาเสียงหลายเขต บอกไม่ถูกต้อง หลังถูกวิจารณ์เป็นพรรคตัวแปรอันดับ3 เหตุ ปชช. ยังไม่ตัดสิน มั่นใจ รักษาฐานเสียงจังหวัดชายแดนได้ เชื่อประชาชนเข้าใจ
พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (32)
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475

