น้องแรมโบ้ "ชนะศักดิ์" ซัด "สุทิน" ช่างกล้าเปรียบพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นทองคำ คนอื่นเป็นตะกั่ว เย้ยอยากหัวเราะให้ฟันร่วง ไม่ย้อนมองดูพรรคตัวเอง-นายใหญ่ขี้โกงหนีคุกไปต่างประเทศ จะเรียกเป็นอะไรดี คงยิ่งกว่าตะกั่วเถื่อน
13 ก.ค.2565 - กรณีนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และ ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่าการที่พรรคเศรษฐกิจไทยถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจมีความหวังล้มรัฐบาลมากขึ้น พร้อมเปรียบพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นทองคำ ถ้าอยู่ใกล้ตะกั่วก็จะหมอง
นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่าที่นายสุทิน เปรียบพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นทองคำ และเปรียบคนอื่นเป็นตะกั่ว ตนเองก็มองว่าหากพรรคเศรษฐกิจไทยไปอยู่กับพรรคร่วมฝ่ายค้านน่าจะหมองมากกว่านายกฯอีก เพราะดูจากพฤติกรรมที่ไม่เคยทำอะไรให้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน นอกจากคนในพรรคและนายใหญ่ นายทักษิณ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคที่มีแต่ประวัติทุจริตมากมาย จะหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าหรือเปล่า
"ตนเองอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วงที่นายสุทิน กล้าเปรียบเทียบในทำนองที่ว่า รอ.ธรรมนัสและพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นทองคำ เปรียบคนอื่นเป็นตะกั่ว เอาสมองส่วนไหนมาคิด ไม่ละอายสติปัญญาตัวเองเลยเชียวหรือ พูดโดยไม่คิด ไม่ย้อนมองดูพรรคเพื่อไทยของตัวเองว่าประวัติผู้นำเป็นอย่างไร ขี้โกงมากน้อยแค่ไหน ตะกั่วที่จะเอามาเปรียบเทียบยังมีค่ามากกว่าเสียอีก
ยิ่งมองดูจากพฤติกรรมคนในพรรคที่วันๆ มีแต่จะกล่าวหาโจมตีคนอื่น เล่นการเมืองไม่สร้างสรรค์ และยังมีนายใหญ่ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนขี้โกง เป็นนักโทษหนีคุกไปอยู่ต่างประเทศ แบบนี้ควรเรียกพรรคแบบนี้ว่าอะไรดี ช่างกล้าพูดไม่อายปากตัวเอง ต้องหัวเราะให้ฟันร่วงหมดปากเสียจริงกับคำเปรียบเปรยของนายสุทิน มีตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคและประธานวิปฝ่ายค้าน ให้ตำแหน่งนี้ได้มาเช่นไรช่างไม่เหมาะสมเลย น่าขำจริงๆ " นายชนะศักดิ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE ผู้คุมเกมไร้หลัก โลกไร้ระเบียบ..! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
'ยศชนัน' โวยป้ายหาเสียงถูกทำลาย วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ มั่นใจรักษาฐานเสียงชายแดน
‘ยศชนัน’ วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ หลัง ’เพื่อไทย’ ถูกทำลายป้ายหาเสียงหลายเขต บอกไม่ถูกต้อง หลังถูกวิจารณ์เป็นพรรคตัวแปรอันดับ3 เหตุ ปชช. ยังไม่ตัดสิน มั่นใจ รักษาฐานเสียงจังหวัดชายแดนได้ เชื่อประชาชนเข้าใจ
พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (32)
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475

