ปลดแอกชาวนา อยู่ดีมีหลักประกัน ‘หมอวรงค์’ ประกาศชัดนโยบายไทยภักดี

‘หมอวรงค์’ นำทีมไทยภักดี ลงพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ประกาศชัดจะปลดแอกชาวนา เงินต้องได้เต็ม ได้ใช้พลังงานราคาถูก อยู่ดีกินดีแบบมีหลักประกัน

10 ก.ค.2565-นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมด้วยนายพุฒิพงศ์ สงวนวงศ์ชัย รองหัวหน้าพรรคและนายปฏิยุทธ ทองประจง กรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ร่วมพบปะพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนและรับฟังปัญหาของพี่น้องชาวบำเหน็จณรงค์ ณ สำนักงานพรรคไทยภักดี จังหวัดชัยภูมิ

นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนมีคำถามตลอดว่าพื้นที่อีสานปลูกข้าวหอมมะลิดีที่สุดในโลก แต่ปรากฎว่าพี่น้องชาวนาภาคอีสานกลายเป็นคนที่จนที่สุดในประเทศ แต่ทำไมคนที่อยู่ในวงการค้าข้าวรวยหมด ตนลงทุนจ้างอาจารย์มหาวิทยาลัยเก็บข้อมูลเรื่องข้าวทั้งประเทศย้อนหลัง 3 ปี เก็บข้อมูลข้าว 3 ชนิด คือ 1. ข้าวหอมมะลิ 2. ข้าวเหนียว 3. ข้าวจ้าว หลังเก็บข้อมูลพบว่า พี่น้องชาวนามีกำไรโดยเฉลี่ยไร่ละ 1,700 บาท แต่คนค้าข้าวสารในข้าวทุกชนิดที่ถูกศึกษามีกำไรรวมกันปีหนึ่งประมาณ 1.9 แสนล้าน นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่เคยมีพรรคการเมือง หรือนักวิชาการคนไหนศึกษา แต่ตนตามเรื่องข้าวมาตลอด และได้บทพิสูจน์แล้วว่า คนขายข้าวเปลือกจน คนขายข้าวสารรวย ดังนั้นถ้าเอาเปรียบเกินไปมีการกดขี่ชาวนามากเกินไปเราไม่ยอม ตนประกาศชัดเจนว่าระบบค้าขายข้าวของประเทศต้องเปลี่ยน อยู่แบบเดิมไม่ได้

ในแต่ละปีรัฐบาลตั้งงบปีละ 1 แสนล้านบาทกับการช่วยเหลือชาวนา เราจะเอาเงินภาษีตรงนี้มาเฉลี่ยคืนเหมือนระบบอ้อย เราจะไม่คืนเราจะเอาเงินก้อนนี้มาช่วยปลดหนี้ให้พี่น้องเกษตรกรรายย่อยทุกคน ไม่มีรัฐบาลชุดไหนกล้าที่จะช่วยพี่น้องปลดแอกจากการเอาเปรียบทุนค้าข้าว แต่พวกตนกล้าและทำอย่างตรงไปตรงมา พี่น้องต้องได้รับการดูแลจากรัฐบาล พรรคอื่นคิดจะคิดอย่างไร ตนไม่ทราบ แต่ไทยภักดีจะทำสิ่งเหล่านี้

ประเด็นที่ 2 เป็นประเด็นที่ใหม่มาก เรื่องนี้จะทำให้พวกตนได้ต่อสู้กับทุนพลังใหญ่ของประเทศ เราเป็นประเทศเกษตรกรรมรายใหญ่ของโลก แต่เราผลิตปุ๋ยไม่ได้ ในทุกวันนี้ราคาปุ๋ยแพงขึ้นทุกวัน แต่เราจะทำปุ๋ยยูเรียในราคาไม่เกินกระสอบละ 750 บาท ผลิตก๊าซหุงต้มกิโลกรัมละ 7 บาท และผลิตไฟฟ้าในราคาหน่วยละ 2.50 บาท โดยตนจะให้พี่น้องปลูกหญ้าเนเปียร์ ที่เป็นหญ้าพลังงาน เพื่อให้เป็นวัตุดิบในการผลิตปุ๋ยยูเรีย และขอให้หลักประกันว่าตนจะให้พี่น้องมีกำไรจากการปลูกหญ้าเนเปียร์โดยเฉลี่ย 10,000 บาทต่อไร่ พี่น้องเกษตรกรจะต้องได้ใช้ปุ๋ยราคาถูกแน่นอน เพราะเราผลิตได้เอง

เวลาเราเป็นนักการเมือง ในการช่วยเหลือประชาชนเราจะปิดกั้นระบบไม่ได้ ความคิดนวัตกรรมสิ่งใหม่เหล่านี้ จะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพี่น้องเกษตรกรทั้งประเทศ ตนยืนยันว่าไม่มีพรรคการเมืองพรรคไหนกล้าคิดและกล้าทำ เพราะเขาไม่มีเทคโนโลยีเหมือนพวกเรา และเขารับเงินจากทุนผูกขาดทั้งสิ้น แต่เราไทยภักดีไม่รับเงินทุนเหล่านี้ ขอย้ำว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่เปลี่ยนประเทศครั้งใหญ่ เพื่อให้พี่น้องอยู่ดีกินดีแบบมีหลักประกัน เราสามารถทำให้พี่น้องเกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ ปลดหนี้ได้ มีรายได้ที่มั่นคง นี่คือหน้าที่ของพวกตนที่จะต้องคิดนอกกรอบ คิดในสิ่งที่ดีและทันสมัยเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร สิ่งเหล่านี้จะเป็นการช่วยเหลืออย่างยั่งยืนแบบต่อเนื่องแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชาวนาเฮ! นบข. ไฟเขียว 'ไร่ละพัน' ยกเลิก 'ปุ๋ยคนละครึ่ง'

ชาวนาเฮ! นบข. ไฟเขียวช่วยไร่ละพัน ไม่เกิน 10 ไร่ จ่อชง ครม.สัญจรเชียงใหม่ 29 พ.ย. เป็นของขวัญปีใหม่ พร้อมยกเลิก 'ปุ๋ยคนละครึ่ง' ด้าน ‘นายกสมาคมชาวนา’ พอใจ ไม่ปลุกม็อบประท้วง

เอ๊ะยังไง! 2 สัปดาห์ ชื่อ 'กิตติรัตน์' ประธานบอร์ด ธปท. ยังไม่ถึงมือขุนคลัง

'พิชัย' บอกยังไม่ได้รับรายงาน ผลการเลือก 'ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ' คาดติดช่วงวันหยุด ชี้ช่วยค่าเกี่ยวข้าวชาวนาไร่ละ 500 บาท ขอฟังความเห็นที่ประชุม นบข.

รองโฆษกรัฐบาล เผย นบข. เตรียมเคาะช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ก่อนชง ครม.อนุมัติ

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะนั่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.)

กระทรวงเกษตรฯ เคาะช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่! วงเงิน 3.8 หมื่นล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากกรณีมติของที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิตครั้งที่