ดุสิตโพลชี้คนไทยเกาะติดซักฟอกยก 'บิ๊กตู่ - บิ๊กป้อม - อนุทิน' ควรถูกอภิปรายมากที่สุด

10 ก.ค.2565 – สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,021 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 4-7 กรกฎาคม 2565 พบว่า ส่วนใหญ่มองว่าถึงเวลาแล้วที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร้อยละ 83.38 โดยสนใจติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมีขึ้น ร้อยละ 71.02 ทั้งนี้อยากให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจประเด็นผลงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุด ร้อยละ 75.67 สิ่งที่อยากเห็นจากการอภิปราย คือ เนื้อหาที่นำมาอภิปรายไม่ซ้ำ ค้านอย่างมีเหตุผล มีหลักฐาน ร้อยละ 80.18 สิ่งที่ไม่อยากเห็น คือ การโต้เถียง ทะเลาะเบาะแว้ง การประท้วงบ่อยครั้ง ร้อยละ 84.33 และมองว่าการอภิปรายที่กำลังจะมีขึ้นอาจจะมีผลให้เกิดการยุบสภา ร้อยละ 46.03 รัฐมนตรีที่ควรจะถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ อันดับ 1 คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ร้อยละ 78.51 รองลงมา คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 65.17 อันดับ 3 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ร้อยละ 61.30

จากผลโพลสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่อยากให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านจึงควรใช้โอกาสนี้อย่างคุ้มค่าในการซักฟอกรัฐบาลเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชน ส่วนรัฐบาลเองก็ควรชี้แจงผลงานที่ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และสาเหตุของสินค้าแพงค่าแรงถูกเป็นสิ่งที่ประชาชนคาใจและอยากจะรู้ ทั้งนี้ประชาชนก็หวังว่าการอภิปรายครั้งนี้จะมีข้อมูลใหม่ ๆ ไม่ประท้วงนอกประเด็น ไม่เป็นเพียงการละคร เพื่อให้การอภิปรายนั้นเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เอกอนงค์ ศรีสำอางค์ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิตการที่คนส่วนใหญ่มองว่าถึงเวลาแล้วที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และสนใจติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมีขึ้น น่าจะสอดคล้องกับประเด็นปัญหาสำคัญระดับชาติ คือ การมองผลงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 1 ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่กระทบปากท้องของประชาชนเป็นหลัก แม้ว่าประชาชนจะมีความเบื่อกับการอภิปรายเนื้อหาหรือประเด็นเดิม ซ้ำ ๆ การโต้เถียง ทะเลาะเบาะแว้ง การประท้วงบ่อยครั้ง แต่ก็เห็นว่าการอภิปรายที่กำลังจะมีขึ้นไม่น่าจะมีผลให้เกิดการยุบสภา ส่วนผู้ที่คาดว่าจะถูกอภิปรายเป็นอันดับที่ 1 คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อันดับที่ 2 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และอันดับที่ 3 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดัชนีการเมืองไทย' หลังซักฟอก 'อิ๊งค์' เรตติ้งร่วง! 'เท้ง' แซง 10%

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนมีนาคม 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,141 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม)

ประกาศลดระดับสาธารณภัย 'แผ่นดินไหว' เหลือระดับ 2 ให้จังหวัดเร่งฟื้นฟูเยียวยา

กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ประกาศลดระดับการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ (ระดับ 3) เป็นการจัดการสาธารณภัยขนาดกลาง (ระดับ 2)

ภูมิใจไทย ชงขับ ‘เอกราช​ ช่างเหลา’ พ้นพรรคแล้ว 'อนุทิน' ลั่นส่ง ผู้สมัคร สส. ป้องกันแชมป์เมืองคอน

ความคืบหน้าการประชุมพรรคเพื่อขับนายเอกราช​ ช่างเหลา​ สส.​ขอนแก่น​ พรรค ภท. หลังไปปรากฏตัวร่วมประชุมจัดตั้งสาขาพรรคกล้าธรรม​ที่จังหวัดขอนแก่น

จุลพงศ์-พรรคประชาชน เอ็กซ์เรย์ แผลอักเสบ นายกฯ ผิดจริยธรรม-นิติกรรมอำพราง

ถึงแม้ว่า"แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี"จะผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านไปได้ด้วยคะแนนเสียงโหวตไว้วางใจท่วมท้น 319 เสียง แต่ประเด็นข้อกล่าวของฝ่ายค้านที่ซักฟอกนายกฯกลางสภาฯ

ควันหลงซักฟอก 'อิ๊งค์' เสี่ยงขัดจริยธรรม ‘พรรคส้ม’ รุกฆาตหรือรอฮั้ว ‘พรรคแดง’

ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติโหวตญัตติในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยคะแนนเสียงไว้วางใจ 319 ต่อ 162 เสียง

'สนธิญา' ยื่น กกต. สอบปม 'นายกฯอิ๊งค์-เท้ง' โต้กันนัวศึกซักฟอก คนนอกครอบงำพรรค

นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นหนังสือต่อกกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบจากกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 -25 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการกล่าวหาซึ่งกันและกัน ระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน