รัฐสภา โหวตผ่าน 180 วัน ยกเว้นกม.ปฏิรูปตำรวจ กันกระทบโยกย้ายปีนี้ "ก้าวไกล" แฉ กมธ. ช่วยอุ้ม 2 เด็กเส้นตั๋วช้างเลื่อนตำแหน่ง ด้าน "โรม" ซัด กมธ. กำลังวางไข่ทายาทอสูร ขณะที่ "สมชาย" บอกตำรวจขอมา สภาฯอย่าใจดำ
5 ก.ค.2565 - เวลา 11.20 น. เข้าสู่การอภิปรายมาตรา 169/1 โดย นายอดิศร เพียงเกษ กมธ. อภิปรายว่า ก่อนที่จะถึงช่วงของการแต่งตั้งโยกย้าย ทาง สตช.ต้องรู้ร้อนรู้หนาวตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้วว่าร่างกฎหมายตำรวจจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา แล้วจะมาชักร่างกฎหมายเข้าออกแบบนี้ให้เปลืองค่าประชุม กมธ.ทำไม เราแก้ไขกฎหมายเพราะไม่ต้องการให้เกิดตั๋วที่ใหญ่กว่าม้า และเราต้องการให้เกิดการแต่งตั้งที่มีความยุติธรรม เมื่อ 169/1 ไม่มีตำหนิ แล้วจะมาแก้ไขทำไม ตนถามว่าสภาแห่งนี้เป็นเครื่องมือของใครหรือไม่ จะถอนไปเพราะคนใดคนหนึ่งอยู่เบื้องหลัง ก็จะไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ
นายสาธิต วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับร่างกฎหมายนี้ มีคนเสียประโยชน์ แต่จะมีคนได้ประโยชน์ด้วย ต้องพูดให้หมด อะไรคือความจริงระหว่างบรรทัด ถ้าเรายอมให้กมธ.แก้ไขรายงานที่พิจารณาเสร็จแล้ว โดยไม่ยอมถอนร่างกลับไปแก้ไข จะกลายเป็นบรรทัดฐานนิติบัญญัติ ตนเป็นห่วงทั้งความไม่ปกติของข้อเสนอ และเป็นห่วงกระบวนการนิติบัญญัติที่เกิดขึ้น ถ้าเราเดินไปตามปกติ เรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้นว่าจะคง 169/1 หรือตัด 169/1 ทิ้ง เพื่อไม่เป็นการโยนความรับผิดชอบให้รัฐสภา เพื่อไม่ให้กระบวนการนิติบัญญัติต้องด่างพร้อย
ด้าน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า มาตรา 169/1 ต้องบอกว่าเป็นมาตราที่เดิมจะต้องอ่านคู่กับมาตรา 69 ซึ่งมาตรา 169/1 สาระสำคัญคือ การเขียนล็อกเอาไว้เลยว่าตำแหน่งต่างๆนั้นจะต้องเป็นกี่ปี โดยวางกรอบระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นับแต่พ.ร.บ.นี้ประกาศใช้ ประเด็นสำคัญคือกมธ.ฯ รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทราบอยู่แล้วว่ากฎเกณฑ์ในการโยกย้ายตำแหน่ง คุณสมบัติการดำรงตำแหน่งต่างๆนั้น มีลักษณะประมาณใด ท่านรู้อยู่แล้วว่ากฎเกณฑ์กำลังจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่กมธ.ฯทำคือทำโผตำรวจ ในลักษณะที่ต่างกัน โดยไม่ได้คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้น ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหา เราพิจารณากฎหมายฉบับนี้ได้ด้วยดี หลายเรื่องตนและพรรคก้าวไกล ไม่เห็นด้วยเลย แต่ก็ดีใจอยู่บ้างที่ในมาตรา 69 สุดท้ายมีการกำหนดปีเอาไว้อย่างชัดเจน อย่างน้อยที่สุดอาจจะป้องกัน คนที่จะได้รับประเภทตั๋วช้างเข้ามาดำรงตำแหน่งข้ามหัวคนอื่นได้
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณามาถึงตรงนี้อยู่ๆก็เสนอกัน ซึ่งการเสนอแบบนี้ ตนคิดว่าเป็นการเสนอที่ผิด ถ้าเรายืนยันว่าทำกันแบบนี้ได้ ต่อไปนี้กฎหมายทุกฉบับก็เปลี่ยนกันหน้างานได้ ทั้งที่ในความเป็นจริง มาตรา 169/1 เราควรตัดทิ้งด้วยซ้ำไป เพราะมาตรา 69 ล็อกไว้อย่างชัดเจนว่าปีของการดำรงตำแหน่งต้องเป็นเท่าไหร่ เช่น คนที่จะขึ้นเป็นรองผบ.ตร.จะต้องเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.มาแล้ว 1 ปี คนที่จะขึ้นเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. จะต้อเป็นผู้บัญชาการ มาแล้ว 1 ปี อันนี้คือสิ่งที่เขียนล็อกเอาไว้ ซึ่งจะแตกต่างจากกฎ ก.ตร.เดิม ในลักษณะที่สามารถยกเว้นได้ ถึงแม้เนื้อหาสาระจะเขียนเหมือนกัน แต่กฎ ก.ตร.สามารถยกเว้นหลักเกณฑ์ตรงนี้ได้ และสิ่งที่แตกต่างจากเดิมคือคนที่ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.และรองผบ.ตร.จะต้องมีอาวุโส 100 เปอร์เซนต์ หมายความว่าตำแหน่งว่างเท่าไหร่ก็คัดจากคนที่อาวุโสเท่านั้น ซึ่งจะไม่มีกรณีข้ามหัวคนอื่นเกิดขึ้น
“สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีปัญหามาโดยตลอด และนำไปสู่การมีตั๋วช้างและตั๋วตำรวจต่างๆมากมาย ผมได้อภิปรายไปแล้วว่ามีตำรวจ 2 พันกว่าคน ที่ได้รับตั๋วและบางส่วนได้รับตั๋วช้าง สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบกับคนไม่กี่คนที่ถูกข้ามหัว แต่ทำให้ความเชื่อต่อระบบคุณธรรมของวงการตำรวจพังทลายลง และวิธีการแบบนี้ไม่ได้กระทบกับตำรวจที่อยู่ในตำแหน่ง แต่กระทบกับครอบครัวของเขา ซึ่งอาจจะเกี่ยวพันกับคนนับล้าน
วันนี้ผมเชื่อว่าคนที่นั่งอยู่ในแห่งนี้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เรากำลังจะอนุมัติให้เกิดตั๋วช้างอีกรอบ ท่านกมธ. โดยเฉพาะท่านที่มาจาก สตช.ท่านรู้ดีว่ากำลังช่วยใคร สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ ไม่ใช่แค่การวางตัวคนที่จะไปเป็นรองผบ.ตร.เท่านั้น แต่ผมได้ยินมาว่าลำดับท้ายๆ กำลังจะได้รับสิทธิในการข้ามหัวคนอื่น ขึ้นมาเป็นรองผบ.ตร. แล้วปีถัดไปก็จะเป็น ผบ.ตร.
และเหตุผลที่กมธ.ฯต้องขอ 180 วันในการชะลอกฎหมายที่กำลังจะผ่านสภาฯออกไปก็เพื่อที่จะได้วางไข่ วางทายาทอสูร ตั้งแต่รองผบ.ตร.ไปจนถึงตำรวจระดับชั้นที่น้อยที่สุด ซึ่งก็คือช่วงเดือนเมษายน
มากไปกว่านั้นท่านอ้างถึงการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมที่เขาอาจจะได้กลับมา เอาคนที่เสียหายจากการตัดสินใจของท่านมาเป็นเงื่อนไข ในการที่จะให้ตั๋วตำรวจกับแค่บางคน ซึ่งความจริงแค่ใช้กฎ ก.ตร.กับมาตรา 170 ก็ช่วยตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมได้แล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เนื้อหาแบบที่กมธ.เพิ่งเสนอปรับแก้ใหม่เลย
พูดกันตรงๆ พูดด้วยความจริงท่านก็แค่ใช้โอกาสนี้ช่วยตำรวจบางคนเท่านั้น นี่คือสิ่งที่สภาฯกำลังยอมให้เกิดระบบตั๋วเกิดขึ้นในวงการตำรวจ เป็นระบบที่ใช้ไม่ได้ ดังนั้นเราต้องหยุดยั้งระบบแบบนี้ จะปล่อยให้ตั๋วช้าง ตั๋วม้า ตั๋วแมว ตั๋วนก ตั๋วต่อ ตั๋วโต้ง ตั๋วอะไรก็แล้วแต่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปไม่ได้” นายรังสิมันต์ กล่าว
พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ระหว่างที่คณะกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.นี้ ทางตำรวจได้ทำข้อท้วงติงมาหลายเรื่อง แต่ตนไม่เห็นด้วย และเห็นว่าเป็นกระบวนการเคลื่อนไหวเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจทั้งประเทศกำลังจับตามองบุคคลเจ้าประจำ ที่ได้ตั๋วช้างช่วยมาตลอด เช่น ผู้บัญชาการสอบสวนกลางคนปัจจุบัน และผู้ช่วยผบ.ตร.คนหนึ่งในขณะนี้ ซึ่งเขาจะครบเกณฑ์หนึ่งปีที่สามารถเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นได้
พ.ต.ต.ชวลิต กล่าวต่อว่า การขึ้นตำแหน่งรองผบ.ตร. และผู้ช่วยผบ.ตร. ถ้าเทียบเกณฑ์เก่ากับกฎหมายใหม่จะเหมือนกัน ไม่มีอะไรแตกต่าง แต่ถ้าไปดูในมาตรา 74 จะเห็นว่าการเลื่อนต้องเป็นไปตามเรียงคิว ตามหลักอาวุโส 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสองคนข้างต้นกล่าวถึง ขณะนี้อยู่ในลำดับอาวุโสท้ายแถว เพราะเขาใช้ตั๋วช้างยกเว้นหลักเกณฑ์มาหลายรอบ ถ้าบังคับใช้กฎหมายใหม่ในรอบนี้ สองคนจะไม่ได้เลื่อนขึ้นแน่นอน แต่ถ้าเลื่อนออกไปอีก 180 วัน ตามที่คณะกมธ.แก้ไข สองคนดังกล่าวจะสามารถเลื่อนขึ้นได้
ดังนั้น ถ้าที่ประชุมรัฐสภามีมติผ่านเรื่องนี้ ผู้ช่วยผบ.ตร.ตั๋วช้างคนดังกล่าว ปีนี้จะได้เป็นรองผบ.ตร. และในปีหน้าก็จะสามารถขึ้นเป็นผบ.ตร.ได้ ถามว่าเขาจะเป็นผู้นำองค์กรที่ตำรวจทั้งประเทศยอมรับได้อย่างไร จึงขอเสนอให้สมาชิกลงมติไม่เห็นด้วยกับที่กมธ.ขอแก้ไขในมาตรา 169/1
นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะรองประธานกมธ. ชี้แจงว่า ตนไม่มีญาติเป็นตำรวจ ดังนั้น การที่บอกว่าเอื้อประโยชน์ให้กลุ่นคนได้ตั๋วช้าง ตั๋วม้า ตั๋วแมว หรือตั๋วอะไร ตนไม่ได้สนใจอะไร เพราะมีทั้งคนได้และคนเสียพอกัน แต่สภาต้องออกกฎหมายแล้วต้องใช้ได้ อย่างไรก็ตาม มีตำรวจมาขอร้องว่าเกิดปัญหาตำรวจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ย้ายกลับลำบากถ้ากฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ทันที ดังนั้น สภาฯจะใจจืดใจดำไม่ให้หรือ เพียงแค่ 180 วัน
จากนั้นเวลา 12.55 น. ที่ประชุมลงมติ ผลปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย 344 ต่อ 181 งดออกเสียง 50 ไม่ออกเสียง 1 เสียง เป็นอันว่าที่ประชุมเห็นด้วยกับคณะกมธ. เพิ่มข้อความขึ้นใหม่ ในมาตรา 169/1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับ รองผบ.ตร.-ผบช. วาระประจำปี 2567
การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2567 ได้มีมติเห็นชอบบัญชีรายชื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
'บิ๊กต่าย' สั่งสอบ 'พ.ต.ต.' อาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ กระทำอนาจาร
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีเพจดังเผยแพร่ข้อมูลระบุว่า มีนักเรียนนายร้อยตำรวจ ถูกอาจารย์ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และสารวัตร (สอบสวน) สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล
เคาะแล้ว! ก.ตร. แต่งตั้ง รองผบ.ตร.-ผบช. 'สยาม บุญสม' ม้ามืดผงาดนครบาล
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 10/2567 โดยวาระสำคัญ คือวาระที่ 4 เรื่องที่ 4 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2567 ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) เป็นการใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 เป็นครั้งแรก
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง