"บิ๊กตู่" นิ่งไม่ตอบปมธรรมนัสขู่ล้มรัฐบาลเวทีซักฟอก "สุชาติ" มั่นใจเสียงพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อบารมีลุงป้อมทางการเมืองเหนือทุกคน ขู่กลับใครทำการเมืองเอาสะใจ ไร้อุดมการณ์ ระวังถูกลงโทษเลือกตั้งครั้งหน้า
30 มิ.ย.2565 - ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานีภายหลังเปิดงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ครั้งที่ 34 (Thailand Safe@Work 2022) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ปฏิเสธตอบคำถามกรณี ร.อ.ธรรมนัสพรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ประกาศจะล้มรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจยกเว้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยนายกฯไม่ได้ตอบคำถามและเดินไปขึ้นรถกลับทำเนียบรัฐบาลทันที
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่นรมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีร.อ.ธรรมนัส มีท่าทีไม่โหวตให้รัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า จริงๆแล้วทางการเมืองต้องไปถามคนที่พูด เราเองเป็นฝ่ายที่โดนกล่าวหา เราก็ต้องหักล้างข้อกล่าวหา ซึ่ง 10 รัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี ก็พร้อมที่จะชี้แจงอยู่แล้ว เป็นเรื่องของความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย ในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเราก็อยากจะตอบให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศได้ฟัง ว่านายกฯและรัฐมนตรีทั้ง 10 คน ตอบคำถามเคลียร์หรือไม่เคลียร์
นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการจะเป็นตัวแทนของประชาชน สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องดูแลพี่น้องประชาชน และตอบให้พี่น้องประชาชนให้เข้าใจ ในบริบทที่เราทำ เราไม่ได้สนใจในสิ่งที่เขาจะพูดอะไร อย่างฝ่ายค้านก็จะต้องพูดอย่างนั้น แต่เขาเป็นฝ่ายค้านหรือเปล่า เขาอาจจะครึ่งๆเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นอะไร
เมื่อถามว่า จะต้องมีการประสานพูดคุยหรือไม่ เพราะพรรคเล็กอาจจะคล้อยตาม 18 เสียงของพรรคเศรษฐกิจไทยได้ นายสุชาติ กล่าวว่า พรรคเล็กที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทุกท่านเป็นหัวหน้าพรรค ทุกท่านมีจุดยืน มีมวลชน มีสมาชิก ซึ่งหัวหน้าพรรคเล็กซึ่งร่วมรัฐบาล ท่านก็พูดอยู่ตลอดเวลาว่าไม่มีเรื่องทุจริต ไม่มีพรรคเล็กใดที่จะไม่สนับสนุน แต่ในส่วนของพรรคอื่นที่เขาออกมาพูด ก็ให้พี่น้องสื่อมวลชนไปถามเขาว่า ตรรกะที่เขาคิดหรืออะไรที่เขาคิดก็แล้วแต่ แต่ในส่วนของตนไม่เคยคิดถึงในเรื่องตรงนี้ และไม่อยากพูดถึง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้ประสานงานพรรคเล็ก มั่นใจได้ใช่หรือไม่ว่าพรรคเล็กจะไม่คล้อยตามพรรคเศรษฐกิจไทย นายสุชาติ กล่าวว่า พรรคเล็กทุกพรรคที่ร่วมรัฐบาลพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เป็นผู้ที่สมานความสัมพันธ์กับพรรคเล็กทั้งหมดอยู่แล้ว ในส่วนนี้"ผมขอถามสื่อมวลชนว่าบารมีทางการเมืองของลุงป้อม วันนี้ในประเทศไทย หรือพรรคไหนมีใครเท่าท่าน ผมถามแค่นั้น "
เมื่อถามว่าในสุดท้ายแล้วเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร จะพูดคุยกับร.อ.ธรรมนัสได้ นายสุชาติตอบว่าดูได้จากวันที่โหวตร่างงบประมาณรายจ่ายปี 66 ลุงป้อมนั่งจนวันโหวตจบ มีคะแนนออกมา278 คะแนน ฝ่ายค้านที่ไม่เห็นด้วยมีแค่ 194 คะแนน สิ่งที่สื่อมวลชนได้เห็นในวันนั้น เมื่อได้เห็นภาพนั้นแล้ว การชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกคนตอบได้อยู่แล้ว ฝ่ายค้านเองก็มีสิทธิ์ยื่นตามรัฐธรรมนูญซึ่งก็เป็นครั้งสุดท้ายของเขา เป็นการทำหน้าที่ของเขา ตนว่าสถาบันทางการเมืองเป็นเรื่องที่ดูดี ที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ เราเป็นฝ่ายโดนยื่นก็ต้องตอบเป็นเรื่องปกติ แต่นอกเหนือจากพรรคอื่นที่ออกมาพูด ก็ต้องไปถามพรรคเขา
เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์หรือไม่ว่าทำไมร.อ.ธรรมนัส ถึงออกมาพูดลักษณะเช่นนี้ในช่วงเวลานี้ นายสุชาติ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตัดสินใจตอบแทนท่านได้ เมื่อถามว่า ทั้งหมดเชื่อว่าพล.อ.ประวิตร จะสามารถเคลียร์ได้ใช่หรือไม่ นายสุชาติ ตอบว่า ตนไม่ได้พูดในเชิงที่พล.อ.ประวิตรจะเคลียร์แต่ตนพูดในแง่ที่ว่าพล.อ.ประวิตรเป็นผู้ใหญ่ในทางการเมือง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่เมื่อครั้งจัดตั้งรัฐบาลก็มีเสียงห่างจากฝ่ายค้าน 1-2 เสียง แต่มาวันนี้ การที่รัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำงานทุกอย่างให้กับประชาชน บางพรรคที่เคยอยู่กับฝ่ายค้านก็กลับมาช่วยรัฐบาล เช่น พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคการเมืองที่เคยมีแนวคิดที่ตรงข้าม ไม่เคยเห็นด้วยกับนายกฯ ก็หันกลับมาช่วยกันหมด เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้เราทำงานการเมืองเพื่อประชาชนและประเทศชาติ เราไม่ได้ทำงานการเมืองเพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งเราไม่ได้ทำงานการเมืองเพื่อเอาความสะใจ ถ้าใครทำการเมืองเพื่อเอาสะใจ ไม่มีอุดมการณ์ทางการเมือง บทลงโทษก็จะเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
เมื่อถามว่า หากพล.อ.ประวิตร สามารถเคลียร์ปัญหาได้เอง จะมีการพูดถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)และเก้าอี้รัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่าในส่วนนั้นเป็นอำนาจของนายกฯ ตนไม่สามารถไปคิดหรือก้าวล่วงได้ แต่ตนมองว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคยังมีความเป็นหนึ่งมีความรักสามัคคีกัน มุ่งมั่นไปในแนวทางเดียวกันหมดเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ไม่มีเรื่องของการจะมาต่อรองอะไรกันทั้งสิ้น ทุกคนรู้หน้าที่ตัวเองดี
เมื่อถามว่า หาก 18 เสียงของพรรคเศรษฐกิจไทยหายไป รัฐบาลก็จะยังอยู่ได้ใช่หรือไม่นายสุชาติ กล่าวว่า ตนไม่กล้าพูดว่าเขาจะอยู่หรือหายไป ถ้าพูดว่าหายไปก็จะมาโทษตนอีก ว่าตนพูดผลักเขาออกจากการที่เขาจะสนับสนุนรัฐบาล แต่ถ้าเขาไม่อยู่เองอันนั้นก็ต้องไปถามเขาว่ามีเหตุผลอะไร ซึ่งก็เป็นเรื่องของเขา ตนไม่ได้มองตรงนั้น ตนมองว่าการโหวตคะแนนเสียงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถจะไปบังคับใครกันได้ ถ้าเราสามารถชี้แจงกันในเวทีของสภาได้ ประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสินเองว่าใครเล่นการเมืองอย่างไร ใครตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ใครตั้งใจทำเพื่อตัวเอง ก็แค่นั้นเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โธ่!บุคคลสาธารณะ 'ชูศักดิ์-เพื่อไทย' จ่อฟ้อง 'ธีรยุทธ'
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เตรียมฟ้องกลับนายธีรยุทธ
ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 37): ‘กรมขุนชัยนาทนเรนทร’ ทรงตกเป็นเหยื่อการเมืองของหลวงพิบูลสงคราม ? ”
รัฐธรรมนูญไทยฉบับที่ 4 คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อ วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 รัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดจากคณะทหาร
รัฐบาลอย่าเสี่ยง! แจงยิบทำไม 'MOU 44' เข้าข่าย รธน. มาตรา 178
นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าเสี่ยงจงใจขัดรัฐธรรมนูญ! MOU 44 ต้องผ่านรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 178
นายกฯ ปลุกทุกภาคส่วน ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทุกรูปแบบ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านวีดิทัศน์ว่า เนื่องในเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ประจำปี 2567
ความจริง 'ชั้น 14' ชี้ชะตา 'รัฐบาลอิ๊งค์'
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อายุรัฐบาลขึ้นกับความจริงบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.)
'สุริยะใส' เขย่า 'แจกเงินหมื่น' หอกทิ่มแทง วัดใจจุดเปลี่ยนรัฐบาลแพทองธาร
“สุริยะใส” ชี้จุดสลบใหญ่เรื่องเศรษฐกิจ นโยบายเรือธงอย่างดิจิทัล แจกเงินหมื่นเป็นหอกทิ่มแทง วัดใจจุดเปลี่ยนของรัฐบาลแพทองธาร