เพื่อไทยฮึ่ม! ห้ามแตะ 'นายใหญ่' คนรักเพราะผลงานเยอะ ต้องหนีคดีโกงเพราะเผด็จการ

เหตุผลที่คนไทยต้องเรียกหาอดีตนายกฯ ทักษิณ เพราะประชาชนยังเชื่อมั่นกับผลงานและนโยบายดีๆที่เคยทำสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ จนทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น ดังนั้น จึงไม่ควรเอารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ที่ไม่เคยมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันมาเปรียบเทียบ

28 มิ.ย.2565 – นส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด และประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค ยกย่องการบริหารประเทศ 8 ปีของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ดีกว่าในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมทั้งพาดพิงกล่าวหาเรื่องคดีทุจริตคอร์รัปชั่น ว่า สิ่งที่นายเสรีกล่าวมา ไม่เหนือความคาดหมายที่ยังคงต้องออกโรงเชียร์พลเอกประยุทธ์ อยากให้ลุงตู่อยู่ต่อ ที่ผ่านมานอกจากเคยมีส่วนร่วมเปิดประตูให้การรัฐประหารครั้งนั้นเกิดขึ้นแล้ว จวบจนทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยมีท่าทีและแนวคิดเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย กลับเชิดชูผู้มาจากเผด็จการและสืบทอดอำนาจด้วยจิตใจแน่วแน่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เห็นดีเห็นงามกับการใช้อำนาจนอกระบบที่ทหารออกมายึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากประชาชน จนประเทศชาติและเศรษฐกิจพังพินาศอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

นส.ชญาภากล่าวว่า การตั้งข้อกล่าวหาต่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยองค์กรอิสระต่างๆ เป็นที่ทราบกันดีว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดได้เกิดขึ้นภายหลังการรัฐประหาร และถูกสอบสวนโดยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) แม้มีสถานะเป็นองค์กรอิสระ แต่เป็นองค์อิสระที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร ซึ่งประกอบไปด้วยบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองกับ ดร.ทักษิณ ทั้งสิ้น ขัดกับหลักนิติธรรมในระบอบประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก จนเกิดการตั้งคำถามอย่างกว้างขวางต่อกระบวนการยุติธรรมไทย ดังนั้น นายเสรีและองคาพยพของพลเอกประยุทธ์ ควรยุติการนำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่เพื่อสร้างวาทกรรมโจมตีที่ไม่มีข้อเท็จจริงและไม่สร้างสรรค์อีก

หากถามว่าทำไมประชาชนคนไทยยังคงคิดถึงอดีตนายกฯ ดร.ทักษิณ ชินวัตร คำตอบคือ การบริหารประเทศกว่า 8 ปีภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ที่ล้มเหลวทุกด้าน ไร้ความรู้ ไร้ความสามารถ ไร้ภาวะผู้นำ จนนำพาประเทศเข้าสู่วิกฤตรอบด้าน ภาพลักษณ์ด้านการทุจริตของประเทศไทยภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งอยู่ยิ่งตกต่ำลง ทั้งที่เคยใช้เป็นหนึ่งในข้ออ้างในการเข้าสู่อำนาจว่ามาปราบโกงแต่กลับทำล้มเหลวเสียเอง จึงอยากทราบว่างานปราบโกงของพลเอกประยุทธ์อยู่ในขั้นตอนใดแล้ว เพราะหากไปดูรายละเอียดของคะแนนดัชนีการรับรู้ทุจริต ประจำปี 2564 ที่ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 5 ในอาเซียนจาก 9 ประเทศนั้น พบว่า ไส้ในของรายละเอียดการทุจริตที่สำรวจในกลุ่มนักธุรกิจทั่วโลกพบว่า คะแนนลดลง นั่นหมายความว่าในการทำธุรกิจค้าขายกับต่างประเทศ ประเทศไทยยังมีการรับ/จ่ายสินบนอยู่จนนักธุรกิจรับรู้ได้ ซึ่งเกิดขึ้นนับตั้งแต่ที่พลเอกประยุทธ์เข้ามายึดอำนาจบอกจะปราบโกง แต่การโกงไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย

“ทั้งหมดจึงเป็นเหตุผลที่คนไทยต้องเรียกหาอดีตนายกฯ ทักษิณ เพราะประชาชนยังเชื่อมั่นกับผลงานและนโยบายดีๆที่เคยทำสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ จนทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น ดังนั้น จึงไม่ควรเอารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ที่ไม่เคยมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันมาเปรียบเทียบ คงมีแต่คนอย่างนายเสรีที่อยู่บนโลกคู่ขนานเท่านั้น ที่ยังเชื่อมั่นอยากเชียร์ให้ลุงตู่อยู่ต่อ แต่ถ้าถามประชาชนคนไทยทุกวันนี้คงไม่มีใครเอาด้วย เพราะ 8 ปีก็เกินพอ” นางสาวชญาภา กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จตุพร' ย้อนเกล็ด 'ทักษิณ' แหกปากด่ารัฐประหารเมื่อตัวเองเสียประโยชน์!

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ระบุถึงคำพูดของทักษิณ ชินวัตร ที่ตำหนิกติกาเลือก สว. จนทำให้นายสม

น้องเขยพ่ายเลือกสว. 'ทักษิณ' รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าการคัดเลือก สว.ที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับการคัดเลือกนั้นไม่ใช่เรื่อง

'หมอวรงค์' เคลื่อนไหวหลัง 'ทักษิณ' ส่งทนายฟ้องเรียก 100 ล้านบาท!

สืบเนื่องจาก กรณีนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้อง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท

ตะเพิด 'เศรษฐา' กลับไปขายบ้าน หูมีไว้ฟังเสียงปชช. ไม่ใช่ฟังเสียงทักษิณ!

ถ้าเป็นนักการเมือง เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วรำคาญเสียงวิจารณ์ก็กลับไปขายบ้าน หรือ ไปสร้างสะพานข้ามคลองแล้วเก็บเงินชาวบ้าน