ขนลุกซู่! เต้นออกแขกยี่เกประชาธิปไตยบอกหาก 'ทักษิณ' ยืนตรงข้าม ปชต.เจอชนแน่

'ทั่นเต้น' มาแล้วคว้าไมค์อุ้มชูหลักการประชาธิปไตยทันที ลั่นพร้อมสู้ทักษิณหากยืนตรงข้ามฝั่งประชาธิปไตย โว พร้อมพาเพื่อไทยแลนด์สไลด์ อุ๊งอิ๊งหยอดคำหวาน มั่นใจพี่เต้นเป็นกำลังหลัก พาพี่น้องกลับบ้าน

15 มิ.ย.2565 - ที่ร้านหนังสือก็องดิด เดอะแจมแฟคทอรี่ ย่านคลองสาน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง, นายภูมิธรรม เวชชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค, นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรค, รวมทั้งแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อาทิ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นพ.เหวง โตจิราการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง ร่วมเปิดตัวนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โดยภารกิจแรก คือ การลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ในกิจกรรม "ครอบครัวเพื่อไทย บุกศรีสะเกษ ไล่หนู ตีงูเห่า" ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดตัวครอบครัวเพื่อไทยเพื่อลดกฎเกณฑ์การปิดกั้นระหว่างพรรคการเมืองกับประชาชนให้หมดไป ทำให้ประชาชนเข้าใกล้กับเรามากขึ้น เข้าใกล้กับพรรคการเมืองมากขึ้น เพื่อที่จะสื่อสารกับประชาชนว่า มีความทุกข์ยากอย่างไรบ้าง 3 เดือนที่ผ่านมา พวกเราทำงานหนัก เพื่อที่จะรับรู้ปัญหาของประชาชนจริงๆ ได้เสียงตอบรับที่ดีมากจากพี่น้องประชาชนผ่านโครงการครอบครัวเพื่อไทย เรารับฟังปัญหาประชาชนและจะทำให้ครอบครัวเพื่อไทยแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เราเสียเวลามามากแล้วกับเผด็จการ ต้องระดมคนที่มีจิตใจประชาธิปไตย รักในประชาธิปไตยกลับมาอยู่ร่วมกันตอนนี้เราล้าหลังมาก เมื่อดูประเทศรอบข้างเราไม่ทันเขาแล้ว

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกมั่นใจเป็นอย่างมากว่า นายณัฐวุฒิหรือพี่เต้นของพวกเรา จะเป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญมากๆ ที่จะทำให้บ้านของเราหลังนี้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น พี่เต้นจะเป็นกำลังสำคัญในการทำให้พี่น้องกลับมาอยู่บ้านของเรา ได้รู้ว่าเราต้องการความเข้มแข็ง เราพูดเรื่องแลนส์สไลด์ในหลายพื้นที่ที่เราไป เพราะเราอยากให้ฝั่งประชาธิปไตยเป็นผู้ชนะ ครอบครัวเพื่อไทยรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้รับพี่เต้นเข้ามาในครอบครัวเพื่อไทย พี่เต้นไม่เพียงแต่รู้จักพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี แต่ยังเข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างลึกซึ้ง ขอต้อนรับพี่เต้นกลับบ้านของเรามาเป็น ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยของเรา

จากนั้น นายณัฐวุฒิได้เริ่มต้นร้องเพลงแดงเสรีชน ก่อนกล่าวว่า ประเทศนี้ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง นี่ไม่ใช่เวทีเสื้อแดงแต่เป็นเวทีของครอบครัวเพื่อไทย ที่จะเดินหน้าทำงานคู่ขนานไปกับพรรคเพื่อไทย ต่อสู้ในทางการเมือง ต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง ช่วงชิงอำนาจรัฐบาลเผด็จการกลับคืนสู่รัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชน ภารกิจนี้เป็นเรื่องยาก เราทำกันไม่แต่เพียงเฉพาะสมาชิกพรรคเพื่อไทย หรือครอบครัวเพื่อไทย หรือเพียงคนเสื้อแดงเท่านั้น เราต้องปิดประตูทุกบาน เปิดทุกประตูหัวใจ ยื่นมือให้สุดแขนเหยียดไปทุกมุมของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ กลุ่มอาชีพ กลุ่มผู้คนที่ทุกข์ยาก กลุ่มความเชื่อ กลุ่มวิถีชีวิตใหม่ รวมเป็นคนไทยทุกคน เป็นพันธะสัญญาที่เราจะยืนยันร่วมกันตรงนี้ว่าไม่มีเวลาให้กับรัฐบาลสืบทอดเผด็จการชุดนี้อีกต่อไป ประเทศไทยไม่เหลืออะไรให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม และพรรคพวกกัดกินได้อีกต่อไป

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นนักการเมืองมากว่า 10 ปี สังกัดมาแล้วหลายพรรค แต่ละพรรคที่สังกัดและเปลี่ยนแปลงไม่ใช่โยกย้ายด้วยการขายตัว แต่เพราะการกระทำจากอำนาจเผด็จการด้วยกติกาฉ้อฉล ทำให้คนอย่างพวกเราต้องดิ้นรนต่อสู้ ตลอดเวลาที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย มีทั้งวันชื่นและขื่นขม มีทั้งที่ถูกและผิดต่อกัน มีความทรงจำ มีความไม่เข้าใจ มีความรู้สึกต่างๆ มากมายตลอดเวลา 10 ปีแต่ถึงอย่างไรที่นี่คือบ้าน เกิดและโตที่นี่ ทุกครั้งเมื่อมองเข้าไปในพรรคเพื่อไทย เห็นคนหลายคนที่รักผมและเห็นคนอีกหลายคนที่รักผม เห็นพี่เพื่อนน้องที่สู้มาด้วยกัน เห็นคนที่เคยร้องไห้มาด้วยกัน เคยถูกไล่ยิงไล่ฆ่าบนถนนมาด้วยกัน

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรามีภารกิจร่วมกันกับคนไทยทั้งประเทศ คือ ต้องเอาชนะรัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการชุดนี้ หยุดความเพ้อฝันของพล.อ.ประยุทธ์และพวกลงตรงนี้ แล้วคืนความฝันที่เป็นจริงให้กับประชาชนคนไทยให้มีรัฐบาลที่มีศักยภาพมีความสามารถมีประสบการณ์แก้ไขปัญหาได้ดี เราจะทำอย่างนั้นได้มีทางเดียว คือต้องชนะเลือกตั้ง แต่ด้วยกติกาอัปยศนี้ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงพอ พรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับหนึ่งแต่พรรคพลังประชารัฐใช้คะแนน ส.ว.250 คนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เลือกให้ พล.อ.ประยุทธ์ตั้ง โหวตพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ดังนั้นการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงจึงจำเป็นต้องมีพรรคใดพรรคหนึ่งในฝ่ายประชาธิปไตยคว้าชัยชนะให้เด็ดขาด ได้คะแนนเสียงเป็นจำนวนมาก ได้คะแนนเสียงเกินครึ่งในสภาฯ แลนด์สไลด์เพื่อขับไล่เผด็จการออกไปให้กลับมาตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยได้

คำถามคือเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งมี 250 ส.ว.ต้องการอีก 126 เสียง สามารถตั้งนายกฯ ได้ แต่ในมิติทางการเมืองมันมีพรรคหนึ่งต้องได้เกิน 250 เสียงก่อน ให้มันเห็นชัดว่าประชาชนลงฉันทามติเลือกพรรคการเมืองหนึ่งแลนด์สไลด์เกินครึ่ง ถึงวันนั้นชื่อว่าส.ว.ซึ่งมีโอกาสเลือกนายกฯ อีกเพียงปีเดียว จะถูกเรียกร้องทวงถามจากพลังของประชาชนทั้งประเทศ ให้เคารพการตัดสินใจคนส่วนใหญ่ แน่นอนที่สุดในทางการเมืองไม่มีอะไรตายตัว แต่ถ้าไม่กล้าคิดไม่กล้าทำ มันก็จะไม่มีวันสำเร็จเช่นเดียวกัน ดังนั้นตนเดินเข้ามาที่นี่ด้วยเหตุผลในทางการเมือง เชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าถ้าจะมีพรรคการเมืองประชาธิปไตยพรรคใดได้คะแนนเสียงสูงสุด ชนะขาดหรือเกินครึ่งหรือแลนส์สไลด์พรรคการเมืองนั้นต้องเป็นพรรคเพื่อไทยเพราะเขาเคยทำให้เห็นแล้ว 2 ครั้ง

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จะทุ่มเททุกความคิด ทุกกำลังความสามารถที่มี เพื่อภารกิจครอบครัวเพื่อไทยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าชัยชนะเป็นของประชาชน ถามว่าจะพาคนเสื้อแดงกลับบ้าน แต่ภารกิจของตนนั้นคือ ถ้าพี่น้องที่ต่อสู้กอดคอร่วมอุดมการณ์ จะไปร่วมพรรคการเมืองอื่นๆ แล้ว เราเคารพการตัดสินใจกัน วันหนึ่งถ้าเขาบอกว่าอยากกลับมาเคียงข้างกับพรรคเพื่อไทย อกนี้อ้อมกอดนี้เปิดรับพี่น้องอยู่ตลอดเวลา แต่หากพี่น้องเราบอกว่า เรามีความรักปักใจพรรคการเมืองในแนวทางประชาธิปไตยและไม่ร่วมงานพรรค หัวใจดวงนี้เคารพส่งความปรารถนาดีให้ จิตวิญญาณเสื้อแดงไม่ว่ายืนมุมไหนของฝ่ายประชาธิปไตยเราคือพี่น้องกัน ถ้ายืนตรงข้ามยอมกายใจรับใช้เผด็จการไม่กลับมาก็ขอไปให้ไกลที่สุด เมื่ออยู่ตรงข้ามหลักการประชาธิปไตยอย่าเรียกตัวเองว่าเป็นคนเสื้อแดงอีกต่อไป

อยากเรียนพี่น้องแบบนี้ว่า พลังประชาชนที่สู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ใช่สมบัติโดยจำเพาะของพรรคการเมืองหรือนักการเมืองคนไหน ถ้าพรรคเพื่อไทย ต้องการทุกแต้มคะแนน ต้องแสดงศักยภาพ นโยบาย ความมุ่งมั่นตั้งใจต่อประชาชนอย่างถึงที่สุด ประชาชนไม่มีหน้าที่ เมื่อถึงเวลาไม่ต้องคิด ออกมากาเข้าไปเลยเพื่อไทย แม้กระทั่งคนเสื้อแดง ก็ไม่ได้มีหน้าที่นี้ พรรคเพื่อไทย นักการเมืองมีหน้าที่เดินไปหาประชาชน ไปอธิบาย เสนอนโยบาย ไปสัมผัสความทุกข์ยาก และเดินไปให้ความเชื่อมั่นว่า เราแก้ปัญหาได้จริง เราเคยทำสำเร็จมาแล้ว และจะทำให้สำเร็จอีกครั้ง

“มีคำถามอีกว่า เต้นมึงก็ปูนนี้ เห็นออกมาสู้ ตั้งแต่ทรงผมรุงรัง จนปัจจุบันใกล้จะครบล้าน จะมาเป็นผู้อำนวยการครอบครัว โดยมีน้องอิ๊งเป็นหัวหน้า เต้นมาเป็นลูกน้องน้องอิ๊ง ได้อย่างไร ปูนนี้แล้ว ผมบอกว่า ไม่มีปัญหา เรื่องนี้เอาที่ผมสบายใจ ไม่ได้รู้สึกว่า เดินมาที่นี่เพื่อมาเป็นลูกน้อง แพทองธาร ชินวัตร แต่เดินมานี่เพื่อมาสู้ด้วยกัน เคียงข้างกัน เพื่อทำให้ภารกิจประชาชนสำเร็จให้ได้ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมีหน้าที่ ภาระความรับผิดชอบเต็มสองบ่าของเธอ ผมก็มีหน้าที่ มีภาระความรับผิดชอบเต็ม 2 บ่าเหมือนกัน แต่ 2 บ่าของเราไม่เพียงพอกับภารกิจเหล่านี้ เราจึงต้องการบ่าของบ่าของประชาชน แบกภารกิจนี้ด้วยกันในนามครอบครัวเพื่อไทย สนับสนุนพรรคเพื่อไทย“

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า คนอย่างผม ใครเอาเป็นลูกน้องยาก ไม่ใช่ว่าหยิ่ง แต่คิดไม่เหมือนชาวบ้าน เวลาทำก็ทำ เวลาไม่ทำก็ไม่ทำ ผมเป็นของผมมาแบบนี้ ดังนั้นเข้ามาเต็มหัวใจ ไม่มีอะไรตะขิดตะขวง ไม่มีลูกเล่น ไม่มีลีลา เดินหน้าทำงานกับหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เอาไงเอากัน เป็นไงเป็นกัน แล้วจะอยู่พรรคเพื่อไทยไปถึงเมื่อไหร่เต้น ผมเรียนว่า จะอย่างไรก็ตาม ความจริงที่ไม่มีใครลบได้คือที่นี่ คือบ้านทางการเมือง เลิกที่จะเดินจับมือกับพรรคเพื่อไทย เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเพื่อไทยจนสุดทาง เส้นทางที่ผมเดินกับพรรคเพื่อไทย คือเส้นทางประชาธิปไตย ตราบใดที่พรรคเพื่อไทย ยังชวนกันเดินบนเส้นทางนี้ ยังคงยืนยันหลักการประชาธิปไตย ผมก็จะเดินร่วมทางไปแบบนี้ แม้วันหนึ่งวันใด เกิดพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนเส้นทาง ขัดต่อหลักการประชาธิปไตย ทำลายหลักการที่ถูกต้อง ในทางการเมืองถือว่า สุดทางรัก เราจะปล่อยมือแยกทางกันตั้งแต่ตรงนั้น

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า รัก เคารพ ศรัทธา อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เป็นความจริง เอาใจช่วย ส่งกำลังใจ คาดหวังว่า วันหนึ่งแผ่นดินไทย จะได้ใช้ศักยภาพระดับโลกของชายคนนี้ มาแก้ปัญหาให้กับประชาชน มาทำให้คนไทยหายจน ปลดแอกผู้คนจากอำนาจฉ้อฉลไร้สติปัญญาที่เป็นมา 8 ปี จะโดยบทบาทใดก็ตาม ที่เป็นฉันทามติของสังคม หวังใจรอคอยศักยภาพของชายชื่อทักษิณ ชินวัตร อยู่ตรงนี้ ดังนั้นถ้าพูดว่า ณัฐวุฒิเป็นลูกน้องทักษิณ ขอชี้แจงว่าจริง เพียงแต่ในหลักการเดียวกัน ตราบเท่าที่นายกฯทักษิณ ยังคงยืนอยู่กับประชาชน ตราบเท่าที่นายกฯ ทักษิณยังคงยืนอยู่กับหลักการประชาธิปไตย ตราบเท่าที่นายกฯ ทักษิณ ยังเชื่อมั่น เหมือนที่เราเชื่อมั่นว่า อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน คิดขแบบนี้ว่าพรรคนี้หรือจะให้แคบลง ครอบครัวนี้ถ้าหอบผ้าหอบผ่อน ย้ายข้างเสียตั้งนาน ป่านนี้ชีวิตของคนในพรรคหรือคนในครอบครัว อาจไม่ต้องอกสั่นขวัญแขวน มานั่งเอาใจช่วยลูกสาวคนเล็ก ไม่รู้ว่าจะเจอชะตากรรมแบบไหน เชื่อแบบบ้านๆว่า ป่านนี้ ยังไม่ย้ายข้าง ยังยืนอยู่กับประชาชนก็ยังฝากความหวังประชาธิปไตยกับพรรคการเมืองนี้ได้ เอาไว้กับชายคนนี้ได้

“สิ่งที่จะพูดเป็นประเด็นสุดท้ายคือว่า หากมันเป็นการสมมุติแล้วมันเกิดขึ้นว่า มีการเปลี่ยนเส้นทาง แนวทางจากหลักการประชาธิปไตยไปเสียแล้ว ทำลายหลักการที่ถูกต้องที่คนส่วนใหญ่เขายึดถือไปเสียแล้ว ด้วยความเคารพนะครับ ผมพูดชัดๆต่ อหน้าน้องอิ๊ง ต่อหน้าพี่ๆทุกคนตรงนี้ ต่อหน้าประชาชนและสื่อมวลชน ถ้าเป็นเช่นนั้น โดยคนที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร ดำเนินการ และยืนตรงข้ามหลักการประชาธิปไตย กับทักษิณ ผมก็สู้ ผมคิดว่า ผมได้พูดในสิ่งที่ได้พูดจนครบถ้วนแล้ว แต่ยังขาดประการหนึ่ง ไอ้คนๆนี้ คำก็หลักการ คำก็ประชาธิปไตย คำก็สู้ จะอยู่ยั้งยืนยงกับประชาธิปไตยแน่หรือไม่ ผมไม่อาจตอบได้ เวลาเท่านั้นที่จะตอบได้ในทางกลับกัน ถ้านายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ทรยศต่อหลักการประชาธิปไตย ถ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชน ทำลายหลักการที่ถูกต้อง ก็ขอให้คนในพรรคเพื่อไทย ใช้ปลายตีนข้างที่ไม่ถนัดเขี่ยออกไปให้พ้นจากชายคาพรรคทันที ไม่ต้องเหลือเยื่อไว้ใย ณ วินาทีนั้น ผมเป็นมนุษย์ไม่ได้ อย่าว่าแต่เรียกตัวเองว่าเป็นคนเสื้อแดง ขอให้เราสิ้นนับถือ ตัดความสัมพันธ์ไม่ต้องเอ่ยถึงในใจอีกต่อไป”นายณัฐวุฒิกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'มาดามแพ' พาลูกๆเข้าทำเนียบฯ เย็นนี้กินข้าวเบิร์ธเดย์วันเกิด 'คุณหญิงพจมาน '

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 09.30 น. โดยวันเดียวกันนี้ นายกฯเดินทางด้วยรถเบนซ์ส่วนตัว ทะเบียน 4 ขท 2566 กรุงเทพมหานคร และได้พา ด.ญ.ธิธาร สุขสวัสดิ์ บุตรสาว และด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ บุตรชาย มาทำเนียบฯด้วย

นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้