
'รังสมันต์-สส.ก้าวไกล'ดิ้นพล่านยืนยันพรรคก้าวไกลไม่ตัดบำนาญโวยคนปล่อยข่าวบิดเบือนกลบปัญหางบประมาณที่แท้จริงฉวยโอกาสใส่ความ ลั่นก้าวไกลมีนโยบายผลักดันให้เกิดสวัสดิการถ้วนหน้าสำหรับประชาชนทุกคน
8มิ.ย.2565 -นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
[ก้าวไกลยันไม่ตัดบำนาญ ชี้คนปล่อยข่าวบิดเบือนกลบปัญหางบประมาณที่แท้จริง]
.
การอภิปรายงบประมาณของคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่หวังให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้เห็นภาพใหญ่ของสถานการณ์อันน่าเป็นห่วงที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศไทยของเรา กลับถูกใครบางคนบางกลุ่มนำไปบิดเบือนกล่าวหาว่าคุณพิธาและพรรคก้าวไกลมองว่าบำเหน็จบำนาญข้าราชการเป็นปัญหาของประเทศ ลามไปจนถึงการสร้างความเข้าใจผิดๆ ว่าพรรคก้าวไกลคิดจะตัดหรือยกเลิกบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
.
หนึ่งในข้อความแรกๆ ที่บิดเบือนกล่าวหาคุณพิธาและพรรคก้าวไกล ที่ทางพรรคได้รับข้อมูลว่ามีการเผยแพร่ในกลุ่มไลน์ “ที่ปรึกษา รมช.สธ.” เขียนโดยบัญชีชื่อ “satit” (ซึ่งเป็นใครนั้น ผมคิดว่าตัวเจ้าของบัญชีรู้อยู่แก่ใจเป็นอย่างดี) มีข้อความว่า “นายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายเรื่องงบประมาณ แล้วอัดว่าบำนาญเป็นตัวปัญหาของการพัฒนาประเทศ แล้วมันไม่บอกว่าข้าราชการแต่ละคนกว่าจะได้รับบำนาญ ต้องทำงานด้วยค่าตอบแทนต่ำเตี้ยมากี่ปี แต่พวก ส.ส. ทำไม่กี่ปีก็ได้บำนาญเหมือนข้าราชการด้วย จงจำไว้ว่าพรรคนี้ถ้าได้เข้ามาบริหารประเทศ ข้าราชการบำนาญทั้งประเทศเดือดร้อนแน่”
.
ผมคิดว่าเราต้องพูดเรื่องนี้บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ว่างบบำเหน็จบำนาญข้าราชการนั้นมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าในปี 2573 หรืออีก 8 ปีข้างหน้า งบส่วนนี้เพิ่มจากปีปัจจุบัน 4.79 แสนล้านบาท ไปเป็น 6.99 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% และในปี 2583 จะเพิ่มไปถึง 1.18 ล้านล้านบาท
.
ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้พี่น้องข้าราชการเดือดร้อนที่สุด ไม่ใช่การที่คุณพิธาออกมาเตือนกันตรงๆ แบบที่พูดในสภา แต่คือการที่รัฐบาลยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาว บริหารงบประมาณแบบเดิมๆ ต่อไปโดยไม่คิดหาช่องทางรายได้มาเพิ่ม หรือตัดค่าใช้จ่ายจากส่วนอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นออก ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างงบการจ้างตรวจ GT-200 ที่อยู่ดีๆ ก็เสียเงินไปเพื่อทำเรื่องเปล่าประโยชน์กว่า 7 ล้านบาท นี่คงเป็นแค่หนึ่งใบเสร็จเชิงประจักษ์เท่านั้น ผมเชื่อว่ามีการใช้จ่ายงบแบบนี้ซ่อนอยู่เต็มไปหมด หากเราลองไปดู คำว่า งบสัมมนา งบดูงาน งบรับรอง ที่รวมๆ กันก็อาจถึงหลักพันล้านบาท เป็นต้น ถ้าเรายังต้องป้อนงบเพื่อไปเลี้ยงสิ่งที่ทุกคนรู้ดีแก่ใจว่าไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศที่กำลังเผชิญ ในที่สุด ถึงวันหนึ่งระบบก็จะพังและไม่มีกระทั่งเงินมาจ่ายเป็นบำนาญให้ข้าราชการที่เกษียณได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงและนักการเมืองทุกคนในสภาต่างรู้ดีกันแก่ใจ และนี่ต่างหากคือความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ช้างป่วย” ที่พวกเรากำลังบอกกล่าวกับทุกคนอย่างตรงไปตรงมา
.
และผู้ที่ยิ่งซ้ำเติมความเดือดร้อนของพี่น้องข้าราชการมากขึ้นไปอีก ก็คือคนแบบ “satit” ที่ฉวยโอกาสใช้เรื่องนี้มาใส่ความคุณพิธาและพรรคก้าวไกล สร้างผีพิธาให้ประชาชนหวาดกลัวเพื่อหวังประโยชน์ทางการเมืองแบบเฉพาะหน้าของตัวเอง จนใจความสำคัญของปัญหางบประมาณของประเทศถูกกลบเกลื่อนละเลยไป และสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะไม่ได้รับการแก้ไขให้ทันการณ์ ผมไม่ทราบว่าเพราะคนแบบนี้สายตาสั้นมองไม่เห็นวิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ หรือเป็นเพราะโดยส่วนตัวแล้วเขาถนัดแต่การใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นกันแน่
.
ผมขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายผลักดันให้เกิดสวัสดิการถ้วนหน้าสำหรับประชาชนทุกคน ซึ่งรวมถึงพี่น้องข้าราชการด้วย เราเห็นด้วยว่ารายจ่ายเพื่อสวัสดิการเหล่านี้สมควรแล้วที่จะต้องจ่าย ดังนั้นเราไม่มีวันที่จะมองว่าการจ่ายเพื่อสิ่งเหล่านี้คือปัญหาของประเทศ เรายังเสนอด้วยว่าเงินที่จะมามาสร้างสวัสดิการให้กับพี่น้องข้าราชการและประชาชนทุกคน หาเพิ่มเติมได้จากการเก็บภาษีที่ดินแบบรวมแปลง ยุติกองทัพพาณิชย์ ฯลฯ จะได้งบประมาณเพิ่มเกือบ 6 แสนล้านบาท รวมไปถึงการกระจายงบประมาณจากนายทุนใหญ่ไปสู่ SME จากส่วนกลางไปสู่ท้องถิ่น ทั้งหมดนี้ไม่มีสักคำเดียวที่เราบอกว่าจะตัดบำนาญข้าราชการ เพราะฉะนั้นแล้วพรรคก้าวไกลจึงไม่ได้เป็นภัยคุกคามใดๆ ที่จะทำให้พี่น้องข้าราชการเดือดร้อนเลย ในทางกลับกัน เราพยายามเสนอหนทางที่จะป้องกันไม่ให้พี่น้องข้าราชการต้องเจอกับความเดือดร้อนในภายภาคหน้าด้วยซ้ำ
.
ผมขอฝากพี่น้องข้าราชการทุกท่านได้พิจารณาในสิ่งที่ผมชี้แจงครั้งนี้ ว่าระหว่างการทำลายล้างผู้ที่ออกมาพูดข้อเท็จจริงที่ทุกท่านต้องเผชิญในไม่ช้านานนี้ตามคำยุยงของใครบางคนบางกลุ่ม กับการทบทวนข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาที่พวกเราพรรคก้าวไกลได้กล่าวไว้ อย่างใดกันแน่ที่จะเป็นประโยชน์ต่อพวกท่านมากที่สุด
.
(ป.ล. นอกจากนี้คุณพิธายังได้ตอบคำถาม 5 ข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณบำนาญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อกล่าวหามีอคติกับข้าราชการ, เรื่องเบี้ยบำนาญ ส.ส. ฯลฯ อ่านได้ที่ https://web.facebook.com/timpitaofficial/posts/571641987654914 ครับ)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง
ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ
'โรม' ไม่ต้องกลัวอเมริกาจะล้อมไทย ถ้าปราบฮุนเซน- สแกมเมอร์ จะได้ยินเสียงปรบมือจากชาวโลก
นายวีระ สุดสังข์ หรือ "ฟอน ฝ้าฟาง" ศิลปินมรดกอีสาน ปี 2558 อดีตครูสอนภาษาไทย นักเขียนอิสระ ผู้ก่อตั้งกลุ่มวรรณกรรมลำน้ำมูลและสโมสรนักเขียนภาคอีสาน โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีนายรังสิมันต์ โรม อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ระบุว่า รัฐบาลอนุทินเหลวเปลี่ยนจากโลกอยู่ข้างไทยเป็นโลกล้อมไทย ว่า
อดีตผู้สมัครส.ส.ปราจีนพรรคส้ม ประกาศยุติบทบาท แฉทนไม่ไหวทุนเทาในพรรคพวกมากลากไป
ไพทูรย์ นาคหิรัญ อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความขอยุติบทบาท กับ ”พรรคประชาชน“
พรรค‘ปชน.’ขอโทษจากใจ วอน‘ประชาชน’ไปต่อด้วยกัน
ภาพที่หัวหน้าพรรคสีส้มทุกยุคสมัยมาปรากฏตัวพร้อมหน้าบนเวทีเดียวกันไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยนัก เอาเข้าจริงอาจจะยิ่งกว่าเวทีปราศรัยใหญ่ก่อนเลือกตั้งทุกครั้งด้วยซ้ำ เพราะในกิจกรรม
'ธนาธร' กล้าพูด หาก 'พิธา' เป็นนายกฯ สถานการณ์ชายแดนจะไม่มาถึงจุดนี้เด็ดขาด
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวในกิจกรรม “ปิกนิก พรรคประชาชนพบประชาชน ขอโทษจากใจขอไปต่อด้วยกัน”
'รังสิมันต์' ร่ายยาวบอกสงครามฮุนเซนถ้าไม่ปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซากไม่มีวันจบได้!
'โรม' ย้ำถ้าปราบสแกมเมอร์ไม่ได้ บ่อเงินบ่อทองของ 'ฮุนเซน' ก็ยังอยู่ แนะชิงฟ้องศาลก่อน 'กัมพูชา' บอก ไม่ได้ให้ความสำคัญกับท่าที 'อนุทิน' แต่สนยุทธศาสตร์มากกว่า จี้ต้องทำให้ทั่วโลกเห็นไทยชอบธรรม

