“ชัชชาติ” ลุยงานวันแรก หวังเดินหน้าพร้อมขรก. แนะอย่าเรียกว่าเจ้านาย ขอให้เรียกเพื่อนร่วมงาน พร้อมเผยชื่อทีมงาน ชี้นโยบาย 214 ข้อ ไม่อยู่บนพื้นฐานใช้งบเยอะ
1 มิ.ย.2565 - ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบประกาศคณะกรรมการการเลือกต้ังเรื่อง ผลการเลือกต้ั้งผู้ว่าฯกทม. แก่นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร จากนั้นปลัดกทม.ลงนามในหนังสือมอบหมายงานให้ผู้ว่าฯกทม. ทั้งนี้ปลัดกทม.ในนามข้าราชการและบุคลากรกรุงเทพมหานคร กล่าวต้อนรับ และมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดี โดยนายขจิต กล่าวว่า ขอขอบคุณนายชัชชาติ ที่เสียสละเวลาตัวเองเป็นเวลา 2 ปีกว่า เพื่อทำการบ้านในกทม.ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทำให้คนกทม.มีความสุขและโชคดีที่ประสบความสำเร็จ โดยหวังว่าจะสามารถนำพวกเราไปข้างหน้าได้ เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนและขอให้นายชัชชาติ เชื่อมั่นว่าพวกเราจะทำงานตามที่ได้รับมอบหมายได้อย่างดี
ด้าน นายชัชชาติ กล่าวว่า เราเดินมานานกว่า 2 ปีกว่า และวันนี้ก็ได้เดินต่อ ตอนนี้ดีใจที่มีเพื่อนร่วมเดินทางกับเราคือข้าราชการ ลูกจ้าง กทม.ทั้งหมด ซึ่งตนไม่ใช่นาย ขอให้เรียกว่าอาจารย์ ตนอยากจะให้เราเดินไปด้วยกัน มีอะไรคุยกันได้ และตนก็เป็นคนใหม่ของกทม. หลักการคือถ้าตนทำอะไรไม่เหมาะก็ขอให้พูดกัน ยกตัวอย่างเช่น นโยบาย 214 ข้อ ตนอยากให้ทุกคนอ่านเพราะเราอยากได้ความเห็นของท่าน หากท่านมองว่านโยบายของเราทั้งหมดดีหรือไม่ดีอย่างไร ไม่ได้บอกว่าให้ท่านปฏิบัติตาม แต่อยากได้ความเห็นว่าควรจะปรับปรุงอย่างไร ตนคิดว่าหลายๆท่านรู้มากกว่า และเราอาจจะเพิ่มเป็น 300 ข้อ หากพวกเรามีพลัง แต่ตนเชื่อว่า 8 วันที่ผ่านมาเห็นว่าข้าราชการกทม.มีทั้งคนเก่งและคนที่พร้อมทำงานเพื่อประชาชนจำนวนมาก ทุกคนพร้อมที่จะมาลุยด้วยกัน ขอให้เดินไปด้วยกันและมีอะไรขอให้พูดคุย อย่าเก็บไว้ในใจ ถ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่เหมาะสม ต้องพูดออกมา ไม่งั้นจะไปผิดทางได้
“เรื่องความโปร่งใส สุจริต ผมจะไม่ทนต่อการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งตอนนี้มีคนมาแอบอ้างชื่อตนแล้ว หากมีคนแอบอ้างว่าเป็นทีมงานอาจารย์ชัชชาติให้ทำอะไร ขอให้รู้ไว้ว่านั่นไม่ใช่ผม ทีมงานของเราก็จะเป็นคนของเรา หากมีคนแอบอ้างขอให้แจ้งทีมงานทันที เพราะเรามาด้วยความโปร่งใส สุจริตจริงๆ เพราะอยากทำให้กทม.มีชื่อเสียงว่าเป็นหน่วยงานที่สุจริต และผมเชื่อว่าทุกคนอยากทำงานให้โปร่งใส และความยุติธรรมในการแต่งตั้งที่เป็นธรรม คนเก่งและคนที่ทำงานมีโอกาสจะเติบโตในหน้าที่ได้ ผมสัญญาว่าจะทำให้เป็นอย่างนั้น” นายชัชชาติ กล่าว
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ตนเป็นคนตื่นเช้า แต่ไม่ต้องกังวล ซึ่งทุกคนก็ต้องทำกิจวัตรประจำวัน ขอให้ไม่ต้องทำตามตน แต่เมื่อไปลงพื้นที่ไม่ต้องมาเยอะ มาเท่าที่จำเป็น ขอให้ที่เหลือทำหน้าที่ให้ประชาชนต่อไป และบางครั้งตนไปไหนจะไม่บอกล่วงหน้า ตนไม่ได้จะไปจับผิดอะไร แต่บางครั้งเกรงใจเพราะอยากไปคุยกับประชาชนจริงๆ ว่าเขาอยากจะพูดอะไรกับเรา ส่วนเรื่องป้ายชื่อ ห้ามมีชื่อและรูปของตน เพราะเราไม่ต้องการประชาสัมพันธ์ตัวเอง และเราทำงานในนามของผู้ที่มารับใช้ประชาชนชน เพราะฉะนั้นไม่ต้องการเอาชื่อหรือรูปตนไปติดที่ไหน ขอให้ห้ามมี ไปไหนขอให้เรียบง่าย คนจำนวนน้อยๆ เมื่อลงพื้นที่อย่าทำความเดือดร้อนให้ประชาชน หากคงมีโอกาสได้คุยกันอย่างละเอียดอีกที นอกจากนี้เราจะมีนโยบายที่จะเป็นผู้ว่าฯสัญจร ในการลงไปทุกเขต ซึ่งอาจจะเป็นวันทุกวันอาทิตย์ 1 ปีก็อาจจะครบทั้ง 50 เขต แต่ขอให้ทางสำนักงานเขตไม่ต้องกังวลตนแค่ต้องการไปเยี่ยม ส่วนในเรื่องของเขต ผมคิดว่ามีนโยบายสำคัญที่อยากทำ คือ เรื่องปลูกต้นไม้ล้านต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนเชื่อว่าสามารถเปลี่ยนกรุงเทพได้ อยากจะขอให้เขตช่วยดูว่าจะปลูกอย่างไรให้ได้เขตละ 20,000 ต้น โดยเราจะมีโจทย์ให้แต่ละเขตทั้งเรื่องของปลูกต้นไม้ จุดน้ำท่วมซ้ำซาก หาบเร่แผงลอย จุดรถติด จุดก่อสร้าง เราเป็นทีมงานเดียวกันและจะมาช่วยกันแก้ปัญหาไป
“ผมก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับพวกเราทุกคนนะครับแล้วก็อย่างที่บอก ผมต้องการคำว่า ทำงานกับผมอย่าเก็บไว้ในใจ ถ้าผมทำอะไรไม่ดียกมือพูดได้เลย แต่ต้องมีเหตุผลนะ ต้องทำการบ้านมาบ้าง ให้พูดแลกเปลี่ยนกัน อย่าคิดว่าผมพูดอะไรไปต้องถูกเสมอ เรื่องอะไรเห็นด้วยไม่เห็นด้วย พูดแล้วจบ หาข้อยุติแล้วเดินหน้าทำงานให้ประชาชนต่อ ผมคิดว่ามันเป็นหลักการโปร่งใสในหน่วยงานและสุดท้ายจะได้งานที่สามารถเดินไปด้วยกันได้ แต่ทุกคนต้องกล้าพูดนะ เพราะฉะนั้นผมไม่อยากเป็นนาย ถ้าเป็นเจ้านายจะมองว่าไม่กล้าพูด แต่ถ้ามองว่าเป็นเพื่อนร่วมงานจะสามารถพูดได้มากกว่า ผมเชื่อว่าหลายๆเรื่องทุกคนเก่งกว่าผม ฉะนั้นต้องช่วยกัน เราเป็นทีมเดียวกัน ฝากไว้แค่นี้ ขอบคุณครับ” นายชัชชาติ กล่าว
ต่อจากนั้น เวลา 13.51 น. นายชัชชาติ และทีมงานเดินทางมายังเวทีที่แถลงบริเวณหน้าลานพระบรมรูปพระพุทธนวราชบพิตร และส่ิงศักดิ์สิทธิ์ประจํา ภายในศาลาว่าการกทม. โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า ขอบพระคุณประชาชน และสื่อมวลชน ก่อนอื่นคือต้องทำภารกิจแรกก่อนคือการประกาศทีมงาน โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนที่ 17 สำหรับทีมงานมีดังนี้ 1 .นายจักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองปลัดฯ และรองผู้ว่าฯ 2.นายวิศณุทรัพย์สมพล ดูแลเรื่องผังเมืองและการโยธาฯและโครงสร้างต่างๆ 3. น.ส.ทวิดา กมลเวช ดูแลเรื่องภัยพิบัติ กลยุทธ์ต่างๆ และ 4. นายศานนท์ หวังสร้างบุญ ดูแลเรื่องชุมชน NGO และสิ่งแวดล้อม
ส่วนที่ปรึกษามี 9 คน มีดังนี้ 1.นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. 2.นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ 3. พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก 4.พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ 5. พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี 6.นางวิลาวัลย์ ธรรมชาติ 7.นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี 8.นายภาณุมาศ สุขอัมพร และ 9.นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ส่วนเลขาผู้ว่าฯ คือ นายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าฯกทม. และ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. ประกอบด้วย 1.นายเอกวรัญญู อัมระปาล 2.นางสาวศนิ จิวจินดา 3.นายจิรัฏฐ์ ม้าไว 4.นายสิทธิชัย อรัณยกานนท์
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า วันนี้(1 มิ.ย.) เป็นวันแรก คงลุยงานกันเลย เพราะมีหลายเรื่องที่เป็นเรื่องเร่งด่วน อย่างเรื่องน้ำท่วม เพราะเป็นช่วงหน้าฝน เรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน ทางม้าลายต่างๆ ที่คงมีปัญหาต่อเนื่องมา เรื่องหาบเร่-แผงลอย นโยบายยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังเป็นเหมือนเดิม ไม่มีการโอนอ่อน เพราะเราเห็นว่าเริ่มมีข่าว มีการเข้ามารุกล้ำพื้นที่ทางเท้ามากขึ้น ก็ต้องเรียนท่านปลัดฯ ว่าเรายังไม่เปลี่ยนนโยบาย ต้องหาข้อสรุปเรื่องหาบเร่แผงลอยให้ได้ จุดที่สมดุลอยู่ตรงไหน และเรื่องสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว พรุ่งนี้ก็จะเชิญทางกรุงเทพธนาคม มาให้ข้อมูล คงต้องทำเรื่องนี้ให้โปร่งใส และคงต้องมีรายละเอียดคุยกับทางรัฐบาลได้มากขึ้น
สำหรับเกณฑ์การเลือกทีมงานเข้ามาทำงานร่วมกัน นายชัชชาติ กล่าวว่า คัดเลือกจากหลายมิติ ขอให้มีความหลากหลายทั้งในแง่ประสบการณ์ สิ่งแรกคือความโปร่งใส ซื่อสัตย์ โปร่งใส สุจริต สิ่งนี้สำคัญที่เราไว้วางใจได้ มีความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญที่หลากหลายกันไป แต่ยังมีอีกกลุ่มที่ยังไม่สรุปชื่อมาเป็นกลุ่มทางเทคนิค มีประมาณ 30-40 ท่าน แต่กลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มการเมือง เป็นกลุ่มนักวิชาการ จึงต้องรอสรุปส่วนนี้อีกที ก็คือจะมีกลุ่มรองผู้ว่าฯ เลขาฯ ที่ปรึกษาทางการเมือง และกลุ่มที่ปรึกษาทางเทคนิค
ผู้สื่อข่าวถามว่า งบประมาณฯปี 65 ค่อนข้างมีจำกัดมีไม่ถึง 100 ล้านบาท ทางทีมผู้บริหารกทม. จะขับเคลื่อนนโยบายยังไง นายชัชชาติ กล่าวว่า จะเห็นว่ามีการลดภาษีและสิ่งปลูกสร้างไป 10% ซึ่งหายไปเกือบๆ หมื่นล้าน และเห็นว่าหลายโครงการถูกตัดออกไป ตนเชื่อว่าตัวเลขก็คงไม่น้อย ก็ต้องไปดูว่าสุดท้ายเหลือเท่าไหร่ แต่นโยบายทั้ง214 ข้อ ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานที่ว่าไม่ได้ใช้เงินเยอะ ไม่มีเมกะโปรเจค อาจจะทำเรื่องที่ไม่ได้ใช้เงินทำก่อนเลย เช่น การทำแอพพลิเคชั่นร้องเรียนปัญหา ซึ่งอาจจะรองบประมาณปี 66 อีกที สรุปก็คือไม่ได้เป็นห่วงอะไร เพราะหลายๆ เรื่องขับเคลื่อนได้โดยที่ไม่ต้องใช้เงิน
ถามต่อว่า แนวทางการแก้ปัญหาคนไร้บ้าน ที่ทำให้ประชาชนหวาดกลัวเนื่องจาก คนไร้บ้านนั้นเป็นคนวิกลจริต นายชัชชาติ กล่าวว่า อย่างแรกต้องอย่าพูดให้ประชาชนรู้สึกกลัว เพราะคนไร้บ้านจริงๆ เป็นคนวิกลจริตแค่ 1-2% และคนไร้บ้านจำนวนมากไม่ได้สร้างปัญหา ตนคิดว่าต้องเริ่มจากการทำฐานข้อมูลก่อน อาจจะต้องลงชุมชนเยอะหน่อยดูว่าจำนวนคนไร้บ้านมีเท่าไหร่ อย่างโครงการบ้านอิ่มใจนั้น จะต้องเปิดใหม่ เขาไร้บ้านแต่ต้องไม่ไร้โอกาส เขาเหมือนพวกเรานะ มีสิทธิบัตรทอง แต่เขาอาจจะไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ทำให้เขาใช้สิทธิไม่ได้ อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการ แต่มีแผนไว้แล้ว ต้องดูแลกายใจและสุขภาพให้เขา ขณะเดียวกันโครงการใหญ่ อาจจะต้องกลับไปประเมินความคุ้มทุนและทบทวน เพื่อเรียงลำดับความสำคัญก่อน เช่น การก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ การก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสีย หรือ การปรับปรุงสวนลุมพินี ซึ่งรวมมูลค่าหมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามนโยบายของตนเน้นที่เส้นเลือดฝอยเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าจะดูแลประชาชนได้ดีกว่าเดิม โดยจะกระจายไปยัง 50 เขต เพื่อดูแลและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเป็นหลัก
ถามต่ออีกว่า รถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่นายชัชชาติ เคยได้ให้ไอเดียหลายประเด็น จะมีแนวทางเคลียร์ปัญหาสัมปทานอย่างไร นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องมีเลทไทม์ให้คิด ต้องคิดเรื่องหนี้ ที่รับมาถูกต้องไหม มีขบวนการรับหนี้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นเรื่องการบรรจุแต่งตั้งข้าราชการในระดับปัจจุบัน นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรม ถ้าขบวนการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม ข้าราชการก็จะเสียขวัญและกำลังใจ ก็คงต้องคืนความเป็นธรรมให้ข้าราชการกทม. ก็คงต้องให้ความเป็นธรรมเป็นหลัก
ถามต่อว่า การย้ายศาลาว่าการกทม.ไปอยู่ที่ดินแดงนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า มีข้าราชการบอกว่าซื้อบ้านไว้เขตฝั่งธนฯ อย่าย้ายเลย แต่เราต้องมองภาพใหญ่ว่าหน้าที่ของข้าราชการต้องรับใช้ประชาชน เอาประโยชน์ของกทมเป็นที่ตั้ง แต่จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาข้อดีข้อเสีย ข้อมูลว่าใช้เงินเท่าไหร่ ซึ่งเรามีปัญหาทั้ง 2 ที่เหมือนกัน ต้องมีการสื่อสาร ต้องมีเอกสารเพื่อที่จะลดค่าใช้จ่าย ส่วนพื้นที่ตรงนี้ แม่ค้าบอกว่าอย่าย้าย กลัวไม่มีคนมาใช้บริการที่ร้านแต่ผมบอกว่า ถ้าย้ายไป ตรงนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางกรุงเทพฯ เป็นแหล่งท่องเที่ยว จะมีนักท่องเที่ยวมาอีกมหาศาลแต่นั่นคือแนวคิดและนโยบายของเราคือการย้าย เราอาจจะย้ายเสร็จใน 2 ปี 3 ปี แต่เราต้องเปิดใจ ตนคิดว่าลานคนเมืองเป็นสิ่งที่มีค่า มันคือสะดือกรุงเทพฯ ไม่ใช่ที่จอดรถของพวกเรา เพราะอนาคตจะเป็นที่ที่เราไปเดินเที่ยวได้
ถามอีกว่า วันนี้วันที่ 1 มิ.ย. เปิดผับ-บาร์-คาราโอเกะ วันแรก มีนโยบาย หรือได้กำชับผอ.เขตไว้บ้างไหม นายชัชชาติกล่าวว่า ก็คงเน้น เพราะโควิด-19 เป็นเรื่องสำคัญ ต้องเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ดูแลเรื่องความเดือดร้อนรำคาญด้วย ที่เราเจอเยอะคือผับเปิดใกล้บ้าน เสียงดัง ก็คงต้องดูตามมาตรการที่มี ลงพื้นที่ให้เข้มข้นมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ผู้ว่าฯชัชชาติ' สั่งปิดโรงแรมไฟไหม้ย่านข้าวสาร ต่างชาติดับ 3 เจ็บ 5 ราย
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เพลิงไหม้โรงแรม The Ember Hotel ถนนตานี เขตพระนคร
สส.รทสช. จี้ ‘ผู้ว่าฯกทม.’ เร่งแก้ปัญหาคนแร่ร่อน นอนเกลื่อนถนนริมคลองหลอด
สส.เกรียงยศ จี้กทม.เร่งแก้ปัญหาคนแร่ร่อนนอนเกลื่อนถนนริมคลองหลอดใกล้ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครแค่เอื้อม หวั่นชาวต่างชาตินำภาพไปเผยแพร่จะเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับเมืองท่องเที่ยว ดักคออย่าโยนให้แต่กระทรวงพม.
คนกรุงเลิกกลุ้มไม่ท่วม เคลียร์เชียงรายจบต.ค.
"นายกฯ อิ๊งค์" ตรวจเข้มสถานการณ์น้ำ ยันคนกรุงไม่ต้องกลุ้มใจ
'ชัชชาติ' ดันศูนย์ BKK Food Bank ครบ 50 เขต แบ่งปันอาหาร 2 ล้านมื้อถึงกลุ่มเปราะบาง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดธนาคารอาหาร หรือศูนย์ BKK Food Bank แห่งที่ 50 โดยมี นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร นางสาวมธุรส เบนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตสะพานสูง ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักพัฒนาสังคม สำนักงานเขตสะพานสูง
นายกฯ ตรวจศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กทม. เล็งลงพื้นที่ชุมชนเปราะบาง ยันไปตรวจสอบไม่ใช่จับผิด
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการป้องกันและรับมือน้ำท่วม โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า จริงๆแล้ววันนี้มาให้กำลังใจ เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว และหน้าฝนปีนี้มาเร็ว
ชัชชาติ ลุยกินเมนูปลาหมอคางดำ แนะคนกรุงจับมาทำอาหาร สั่งห้ามเลี้ยง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก โดยเขียนแคปชั่นระบุว่า “เมนู ปลาหมอคางดำ” เผยภาพครัวที่กำลังทำอาหารเมนูปลาหมอคางดำ