วิเคราะห์แคมเปญ 'ชัชชาติ' เชื่อจะเกิดเลียนแบบการเมืองตามมา รวมถึงกลุ่มที่หมั่นไส้ชัชชาติ

'พงศ์พรหม'วิเคราะห์แคมเปญ'ชัชชาติ'หาเสียงผู้ว่าฯกทม.สร้างการเมืองปฏิบัตินิยมเพื่อหยุดการทะเลาะแล้วเปลี่ยนพลังเป็นการแก้ปัญหาสังคมเชื่อว่าจะเกิดเลียนแบบการเมืองตามมาอีกมากมายรวมถึงกลุ่มที่หมั่นไส้ชัชชาติ

27พ.ค.2565- นายพงศ์พรหม ยามะรัต แกนนำพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กถึงกรณี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม.ว่า

เมื่อคืนมีน้องสนิทที่ช่วยการเมืองกันมาหลายปี โทรมาคุยกับผมว่าแคมเปญผู้ว่าชัชชาติ ตรงกับ “Cult movement” ที่ผมเคยให้คำปรึกษา 2-3 พรรคการเมืองมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา

ผมมักพูดเสมอว่าการเมืองใหม่นั้นต้องสร้างคำว่า “วิถี” การร่วมมือการทำอะไรซักอย่างให้สำเร็จ วิถีที่ประชาชนมีส่วนร่วมได้ วิถีที่เกิดประโยชน์ และเป็นวิถีที่ turn เป็น pop culture ได้ แปลว่ามันต้องมีคำว่า “สนุก” โดยรู้ “insight”

เพราะเรากำลังเล่นกับคำว่า “inception” ไม่ใช่ “perception”
แนวทางนี้ผมเรียกมาตลอดว่าเป็นแนวทางการสร้างการเมืองด้วยการสร้าง “Cult movement”
นักการเมือง 500 คน จะเข้าใจผม 1 คน

ตลอด 10 กว่าปี ผมมักจะไปสร้าง movement ผ่านกิจกรรมต่างๆ
ตั้งแต่ Bigtrees (ที่ผมก่อตั้ง), กลุ่มมักกะสัน (ผมไปสนับสนุนพี่ถกด้วยการทำคอนเท้นต์บนโซเชี่ยล), Car Freeday (ร่วมกับพี่สันติ)

จะทำเอง หรือไปช่วยคนอื่นทำ เรามาทางนี้หมด คือ Cult movement บน data
ที่ “ชนะ” นักการเมืองมาทุกพรรค ตั้งแต่ประชาธิปัตย์ ยันเพื่อไทย
ทำไมเราถึงชนะนักการเมืองทุกพรรค?

เพราะสิ่งที่ทำนั้น ทำไปพร้อมๆกับการดู data ที่สมัยนั้นคำว่า big data ยังไม่เป็นที่รู้จัก
สิ่งที่เราเจอ คือ “culture sharing” ที่สร้างการมีส่วนร่วม และ loyalty ได้ดีกว่าการโปรโมตตัวเองแบบเดิมๆ
คนๆนึงที่เริ่มเรื่องนี้เป็นคนแรกๆในประเทศไทย คือพี่ Ace Thanaboon Somboon ที่แนะนำผมในการทำ movement ด้วยการ “แกะ data” เสมอ

คนนี้คือปรมาจารย์ “Data driven movement” คนแรกๆในไทย
ที่ทำมาจนมีคนเก่งๆมาช่วยกันมากมาย อย่าง Ogilvy องค์กรดีๆอย่างทีมจาก TCDC หรือ ..... ที่กำลังทำ social media listening ให้หลายๆคนในวันนี้
ทำทาน ทำทาน ทำทาน
ขี้เกียจ ขี้เกียจ ขี้เกียจ
ร้อนเงิน ร้อนเงิน ร้อนเงิน

ที่ตอนนี้กลายเป็นกระแสจากเสื้อ ทำงาน ทำงาน ทำงาน เป็นผล “เบื้องต้น” จากการสร้าง Cult นี้
แต่ที่สำคัญ

การจะสร้าง Cult นี้ ต้องเกิดจากการทำ brainstorming หาตัวตนคนใน core team ที่จะต้อง match ตัวตน + contribution และนำไป map กับความต้องการสังคมที่วันนี้หาได้ง่ายบน social listening
4 ปีที่ผ่านมา ผมไม่สำเร็จในการ convince พรรคการเมือง 3 พรรคให้เปลี่ยนตัวเองมาทำการเมืองแบบ “Cult movement”

แต่ก็ดีใจ ที่ทีมอาจารย์ชัชชาติทำสำเร็จ

เอาตรงๆ เป็นเพราะ “ความฉลาด data และตัวตนจริงๆ” ของ อ.ชัชชาติ นั่นแหละที่ทำให้เกิด
สิ่งถัดไปที่ผมเดาว่า อ.ชัชชาติ จะทำ คือสร้างการเมือง “ปฏิบัตินิยม” เพื่อหยุดการทะเลาะ แล้วเปลี่ยนพลังเป็นการแก้ปัญหาสังคม

และผมเชื่อว่าจะเกิด copycat การเมืองตามมาอีกมากมาย
รวมถึงกลุ่มที่ “หมั่นไส้” อ.ชัชชาติ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักวิชาการ กระตุก 'ชัชชาติ' จะประกาศให้กรุงเทพเป็นเขตควบคุมมลพิษ ต้องคิดให้ดี

ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

น้ำลายการเมืองแก้“ฝุ่นพิษ” โปรย“งบฯ”-ลนลานรักษาฐานเสียง

รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า “ไร้น้ำยา” ในการวางแผนรับมือปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ทั้งที่รู้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นวัฏจักรรายปี ยิ่งในปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าเป็นรายสัปดาห์ จากการใช้ชุดข้อมูลเทคโนโลยีตรวจวัด สถิติต่างๆ มาประมวลเพื่อเตรียมการได้อยู่แล้ว

มหานครจมฝุ่นพิษ ฉุดรัฐบาลทรุด-ชัชชาติร่วง

สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ปกคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ตลอดจนการดำเนินชีวิตประจำวันถึงตอนนี้ สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงอยู่ โดยเฉพาะเมืองหลวงประเทศไทย กรุงเทพมหานคร ที่อยู่ในสภาพ มหานครจมฝุ่นพิษ มาหลายวัน

'ชัชชาติ' แจงฝุ่น PM 2.5 เพิ่มสูงมาจาก 3 ปัจจัย ย้ำแก้ปัญหาต้องใช้เหตุผล ใช้ความรู้สึกไม่ได้

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ณ ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร สำนักสิ่งแวดล้อม เขตดินแดง

คนกรุงเทพฯยุค ผู้ว่าฯชัชชาติ ยังจมฟุ่นพิษ PM 2.5 เกินมาตรฐานระดับสีส้ม 70 พื้นที่

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันที่ 15 มกราคม 2568 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 56.7 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เกินมาตรฐานระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 70 พื้นที่