'หมอระวี' ยกธงขาวไม่ยื้อ สู้สูตรปาร์ตี้ลิสต์แค่ชั้น กมธ.พอไม่ยื่นตีความ

'หมอระวี' น้อมรับคำวินิจฉัยบัตรเลือกตั้ง 2 ใบไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพ ชี้เดินหน้าสู้สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ต่อ แต่ขอจบแค่รัฐสภา ไม่ยื่นศาลตีความเองอีก

12 พ.ค.2565 - นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ ว่าสงครามนี้จบแล้ว ตนเองและทีมกฎหมายได้ใช้ความพยายามสุดความสามารถแล้ว แต่เมื่อศาลมีคำวินิจฉัยอย่างไรก็เคารพต่อศาล และจะไม่มีการดำเนินการใดต่ออีก และขอแสดงความเสียใจกับประชาชนที่ยังต้องการให้มีบัตรเลือกตั้งใบเดียว ขณะเดียวกันก็ขอแสดงความยินดีกับพรรคการเมืองและบุคคลที่ต้องการให้เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ สำหรับกลุ่มพรรคเล็กเองเมื่อรัฐธรรมนูญเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบแล้ว ตอนนี้ก็ต้องสู้ในกรอบรัฐธรรมนูญที่เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า วันนี้กรรมาธิการ(กมธ.)พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะมีการเสนอเหตุผลเกี่ยวกับการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าจะหารด้วย 100 หรือ 500 ตนในฐานะตัวแทนกลุ่มพรรคเล็กก็จะพยายามสุดความสามารถ โดยใน กมธ.ก็คงจะสู้กันด้วยเหตุและผล ส่วนท้ายที่สุดผลจะออกมาอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุม แต่ทั้งนี้ไม่ว่าผลจะออกมาหารด้วย 100 หรือ 500 ฝ่ายที่แพ้ก็คงจะสงวนคำแปรญัตติ

“ตามขั้นตอนกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ รัฐสภาจะต้องส่งไปยังองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง คือ ศาลรัฐธรรมนูญ และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาว่ามีประเด็นใดบ้างที่มีปัญหาทางกฎหมาย ซึ่งหากทั้ง 2 องค์กร ไม่มีความเห็นเป็นอย่างอื่นก็ถือว่าจบ ดังนั้นในขั้นตอนการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ผมเข้าใจว่าฝ่ายที่แพ้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหาร 100 หรือ 500 คงจะได้มีการนำเสนอข้อมูลส่งไปประกอบการพิจารณา และคาดว่าจะไม่มีการยื่นให้ศาลตีความเอง” นพ.ระวี กล่าว

นพ.ระวี กล่าวถึงทิศทางการเมืองของกลุ่มพรรคเล็ก ว่าทางกลุ่มพรรคเล็กทั้งในและนอกสภาคงรอความขัดเจนในการพิจารณาวาระ 3 ว่าสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไร จะใช้วิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อโดยหารด้วย 100 หรือ 500 ซึ่งหากผลออกมาว่าหารด้วย 500 ก็เชื่อว่ากลุ่มพรรคเล็กจะเดินหน้าลงสนามเลือกตั้งต่อไป แต่หากออกมาให้หารด้วย 100 ก็เชื่อว่าบางพรรคคงจะยุบไป และบางพรรคก็คงควบรวม เพราะไม่สามารถสู้ไหว เนื่องจาก 1 ส.ส.บัญชีรายชื่อจะต้องได้คะแนนเฉลี่ยถึง 370,000 เสียง ในขณะที่ ส.ส.เขตได้คะแนนเพียง 20,000 กว่าก็ชนะแล้ว ส่วนพรรคพลังธรรมใหม่นั้นยืนยันว่าจะเดินหน้าสู้ต่อ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วรงค์' มึน 'กกต.' ปล่อยผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง มีบทบาทเหนือหัวหน้าพรรค

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ผมรู้สึกมึนกับกกต. ที่ปล่อยให้ผู้ถูกตัดสิทธิ์ทา

ประธาน กกต. ไม่ฟังธง 'ทักษิณ' ช่วยหาเสียงชูนโยบายรัฐบาลเกินอำนาจ อบจ. ผิดหรือไม่

"อิทธิพร" เผยบัตรเลือกตั้งอบจ. เตรียมส่งถึงทั่วประเทศ เตือนผู้สมัคร หลีกเลี่ยงให้เงินแตะเอีย-สิ่งของในช่วงตรุษจีน

รู้ทันกลเกมนักการเมือง แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ใครได้ใครเสีย?

ประชาธิปไตยจะไม่มีทางเบ่งบานได้เลย หากประชาชนยังไม่รู้เท่าทันกลเกมของนักการเมือง ที่มักแอบอ้างประชาชนในการกระทำสิ่งต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน การเมืองไทยทุกวันนี้ยังคงเป็นพื้นที่ของคนรวยที่อยากมีอภิสิทธิ์เหนือคนทั่วไป หรืออยากได้อำนาจรัฐมา