ชัยชนะอึ้ง! ท่านโรมเล่นการเมืองล้าหลังไหนบอกเป็นคนรุ่นใหม่

‘ชัยชนะ’ ตกใจ ‘รังสิมันต์’ ใช้สำนวนโบราณโจมตี ปชป. ชี้แค่หวังสร้างความปั่นป่วนให้กับรัฐบาล สวนทางความคิดที่จะสร้างการเมืองแบบใหม่ แนะเอาเวลาไปหาข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ

04 พ.ค.2565 - นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกมาโจมตีพรรคประชาธิปัตย์มีแผนที่จะถอนตัวออกจากรัฐบาล โดยใช้คำพูดที่รุนแรงว่า การที่นายรังสิมันต์ออกมาพูดจาเช่นนี้ คงคาดหมายว่า จะสร้างความปั่นป่วนให้พรรคร่วมรัฐบาล ท่ามกลางกระแสข่าวความเคลื่อนไหวในการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่จะมีการพิจารณากฎหมายสำคัญๆ และมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้น ขณะเดียวกันเมื่อเข้าสู่ปีสุดท้ายในวาระของสภาบรรดานักการเมืองและพรรคต่างๆ ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง ดังนั้นเห็นว่าสิ่งที่นายรังสิมันต์พูดนั้น ถือเป็นลูกไม้ธรรมดาๆ ทางการเมืองในแบบที่นายรังสิมันต์ และผู้สนับสนุนตั้งแง่รังเกียจมาก่อน เพราะสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันนี้ รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยเฉพาะกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถึงแม้ว่าในปัจจุบันในส่วนของพรรคยังคงมีปัญหาภายในที่จะต้องแก้ไข แต่ปัญหาของประชาชนถือว่ามีความสำคัญกว่า เช่น ปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด – 19 ปัญหาสินค้าราคาแพง ปัญหาเงินเฟ้อ เป็นต้น ที่จะต้องเร่งแก้ไขเสียก่อน

นายชัยชนะกล่าวต่อว่า ขณะนี้ ปชป.และพรรคร่วมรัฐบาล ก็ได้ใช้กำลังกาย กำลังใจ และกำลังสติปัญญา พยายามคลี่คลายปัญหาแต่ละเรื่อง เพื่อให้ประชาชนผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้ โดยไม่มีการทิ้งปัญหาหรือหนีความรับผิดชอบ ดังนั้น ถ้านายรังสิมันต์ กับผู้สนับสนุนยังเชื่อในแนวทางที่เคยกล่าวไว้ว่า จะทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ ต้องการให้การเมืองแบบเก่าให้จบที่รุ่นเราแล้ว ก็จะต้องเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาและจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสาธารณะ ไม่ใช่เอาวาทะกรรมของนักการเมืองรุ่นก่อนๆ มาพูดเพื่อประจานความไร้มารยาทของตัวเองด้วย

“สำนวนที่นายรังสิมันต์พูดนั้น ผมรู้สึกตกใจมาก เพราะว่า เป็นไปได้อย่างไรที่นายรังสิมันต์ ที่ถูกยกย่องจากคนบางกลุ่มว่า เป็นการเมืองคนรุ่นใหม่ที่มีอนาคตไกล แต่กลับมีท่าทางและคำพูดคำจาที่ถอยหลังลงคลองไปมาก ซึ่งผมเองก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบบรรยากาศการเมืองแบบเดิมๆ ก็ได้พยายามสร้างบรรยากาศทางการเมืองแบบใหม่ เพื่อให้ชาวบ้านไม่รู้สึกเอือมระอาหรือเบื่อหน่ายกับการประดิษฐ์ประดอยวาทกรรม และให้คนรุ่นใหม่สามารถก้าวเข้ามาทำงานทางการเมืองได้ โดยปราศจากความหวาดกลัวต่อสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาเชื่อกันมา”

นายชัยชนะกล่าวอีกว่า ขอแนะนำให้นายรังสิมันต์ได้แสดงออกถึงการเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ โดยหาเวลาค้นคว้าหาหลักฐานเชิงประจักษ์ เพื่อจะใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเที่ยวนี้ว่า มีข้อบกพร่องเรื่องใดบ้าง มีความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินโครงการใดๆ อันเป็นผลเสียต่อประเทศตรงจุดไหน และมีการใช้อำนาจโดยมิชอบตามที่นายรังสิมันต์และพรรคพวกกล่าวอ้างอย่างไร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า สามารถจะฝากอนาคตให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ได้ ไม่ใช่จะมาใช้ลูกไม้แบบเดิมๆ คือการพูดจาให้เสี้ยมหรือแตกคอกัน เพราะนอกจากไม่ใช่การทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นการไม่ให้เกียรติคนอื่น รวมทั้ง ยังจะสร้างความเดือดร้อนให้กับตัวของผู้พูดเองอีกด้วย

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลขาฯกกต. ตรวจหน่วยรับสมัคร อบจ.ปราจีนบุรี อุบตอบปมสอบเงิน 20 ล้าน

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย พ.ต.ท. ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต. , น.ส.โชติกา แก้วผล ผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี และคณะ ร่วมสังเกตการณ์การรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.ปราจีนบุรีและนายก อบจ.จังหวัดปราจีนบุรี ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี

‘ชวน’ ร่อนหนังสือถึงผู้ตรวจฯ-กกต.แก้ปมผู้บริหารท้องถิ่นลาออกก่อนครบวาระ

นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าตนพร้อมด้วยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน  และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)

'บัญญัติ' รับได้ฉายา 'ประชาธิเป๋' บอกอีกสักพักก็แข็งแรงเดินตรงมากขึ้น

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงฉายาที่สื่อรัฐสภา ตั้งให้กับสภาผู้แทนราษฎรว่า “เหลี่ยม(จน)ชิน ว่าตรงกับที่ตนวิเคราะห์แล้วว่ารัฐบาลนี้ก็อยู่ด้วยการช่วงชิงกันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว

แฉอีโม่ง วิ่งเต้นล้มปมชั้น 14 เตือนหยุดทำเถอะ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ให้จับตาดูวันที่ 15 ม.ค.ที่แพทยสภาขีดเส้นตายให้แพทย์รักษาทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ส่งรายงานการรักษามาตรวจสอบการเอื้อหนีติดคุก แล้วยังต้องติดตามผลตรวจสอบของ ป.ป.ช.กรณีชั้น