“กรณ์” เปิดความในใจถึง “กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ” นั่งประธานยุทธศาสตร์ ‘พรรคกล้า’ อาสาร่วมมือแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจประเทศอีกรอบ
1 พ.ค. 2565 – นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ความในใจถึง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่เข้าร่วมพรรคกล้าและมีการเปิดตัวในงานประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า ยินดีต้อนรับมืออาชีพด้านเศรษฐกิจตัวจริง พรรคกล้ามองว่าความท้าทายสูงสุดตอนนี้หนีไม่พ้นเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ ประเทศไทยต้องแก้ปัญหาของแพง-รายได้ฝืด-หนี้สูง เราอยู่ในช่วงดอกเบี้ยโลกขาขึ้น สงครามและโควิดบีบการค้าระหว่างประเทศ และวัตถุดิบสำคัญของแทบทุกอุตสาหกรรมขาดแคลนและราคาแพง
หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน เราต้องมียุทธศาสตร์และนโยบายที่ชัดเจน ฐานะการคลังเรายังดี แต่เราต้องเปลี่ยนวิธีใช้เงินกู้และเงินงบประมาณของรัฐ ซึ่งพรรคกล้าเราเสนอว่าต้องเป็นรัฐบาลกู้แต่ต้องเพื่อเอกชนเป็นผู้ได้ใช้ เราต้องมียุทธศาสตร์ภาคอุตสาหกรรมใหม่ที่จะนำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ในประเทศ เราต้องส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรม เราต้องลงทุนเพื่อสร้างอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยให้เป็นแนวหน้าของโลก เพื่อสร้างงานคุณภาพให้คนรุ่นใหม่ ทั้งหมดนี้ไม่สามารถแก้ทุกปัญหาเฉพาะหน้าให้กับประเทศและพี่น้องประชาชนได้ ระหว่างทางเราต้องตอบโจทย์ปัญหาของแพง ปุ๋ยแพง ภาระหนี้สิน และการเข้าถึงตลาดสินค้าเกษตรไทย
“ในสถานการณ์เช่นนี้ เราต้องใช้มืออาชีพจริงๆครับ ไม่ใช่เวลาที่นักการเมืองรอฟังรายงานจากข้าราชการอย่าวเดียว แต่ฝ่ายบริหารต้องรู้จริง คิดเองได้ กล้าตัดสินใจ ผมจึงดีใจมากที่วันนี้เรามีโอกาสต้อนรับ อดีตรองนายกรัฐมนตรีทางด้านเศรษฐกิจ ในยุคสมัยเดียวกันกับที่ผมเป็นรัฐมนตรีคลัง มาเป็นหัวแรงสำคัญของพรรคกล้า ในช่วงเวลาที่เราดูแลเศรษฐกิจอยู่ด้วยกันในรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เราได้ออกแบบและขับเคลื่อนนโยบายสำคัญที่ส่งผลในการแก้วิกฤติที่ยุคนั้นฝรั่งเรียกว่า The Great Recession (ไทยเราเรียก ‘วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์’) และช่วยฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยได้อย่างรวดเร็ว และนวัตกรรมทางนโยบายของเราก็ยังถูกนำไปใช้โดยทุกรัฐบาลจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการประกันรายได้เกษตรกร การออก พรก. แนว ‘ไทยเข้มแข็ง’ หรือการยิงเงินช่วยเหลือประชาชนโดยตรง (เช็คช่วยชาติ)” นายกรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกรณ์ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญคือนโยบายต้องเข้ากับยุคสมัย เพียงเพราะนโยบายประสพความสำเร็จเมื่อ 10 ปีก่อน ไม่ได้หมายความว่าจะใช้ได้ดีในยุคปัจจุบัน ต้องมีนวัตกรรมเกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลาในการออกแบบนโยบาย และนี่คือสาเหตุที่การเมืองวันนี้ต้องพึ่งมืออาชีพ มีทั้งประสบการณ์และความรู้ความเข้าใจ คุณกอร์ปศักดิ์จะเสริมเติมให้ทีมเศรษฐกิจเราแข็งแรงขึ้นมาก จะเสริมเติมให้กับผมและคุณวรวุฒิ อุ่นใจที่เป็นผู้รู้จริงเรื่องการค้าและ SME ซึ่งเรายังจะมีผู้นำความคิดและการลงมือทำทางด้านเศรษฐกิจอีกหลายคนที่เตรียมที่จะเข้ามาร่วมงานกับเราเพิ่มเติม เรามาเพื่อทำงาน และหวังว่าจะมีโอกาสได้ช่วยบ้านเมืองอีกครั้ง นี่คือความตั้งใจของทีมกล้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เลขาฯพรรคกล้าธรรม ยัน 'วิชิต ปลั่งศรีสกุล' ไม่ได้เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค
จากกรณีที่ข้อมูลในสื่อออนไลน์มีการระบุว่า นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล มีตำแหน่งเป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรคกล้าธรรม และยังเป็นสมาชิกของพรรคตั้งแต่ปี
‘กรณ์’ ชี้ ’ไบเดน’ ถอนตัว การตัดสินใจครั้งนี้ อยู่ในระดับเปลี่ยนเกมส์ได้เลย
ส่วนตัวผมไม่แปลกใจที่ไบเดนถอนตัว ก่อนหน้านี้ที่หลายคนลุ้นอยู่คือไบเดนจะแค่ถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร หรือจะถอยให้ Harris เป็นประธานาธิบดีด้วยเลย
'กรณ์' กังวลรัฐบาลแจกดิจิทัลด้วยการกู้งบกลาง หนี้เพิ่ม ดุลบัญชีเดินสะพัดยังอ่อนแอ
นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า มีรายงานว่า ครม.เปลี่ยนแนวทางการหาเงินโครงการ #แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท คือยกเลิกแผนการเจียดจากงบปี 67 ที่คาดว่าจะใช้ไม่หมด โดยที่รัฐบาลจะเปลี่ยนมา “กู้เพิ่ม”
'กรณ์' กางกฎหมายอธิบายชัดเจน รัฐบาลกู้ ธกส. มาแจกเงินดิจิทัลได้หรือไม่
นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง แสดงความเห็นถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่รัฐบาลมีแผนกู้เงินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาตำหนิแผนการกู้จาก ธกส.เพื่อมา #แจกเงินดิจิทัล บอกว่าซํ้ารอย ‘จำนำข้าว’ ในการสร้างหนี้สะสมมหาศาล จนถึงวันนี้รัฐบาลยังไม่ได้ชำระคืนให้ ธกส.
'สุวัจน์' แจงเหตุรับ 'สส.แจ้' ย้ายซบชาติพัฒนากล้า
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรีสมัครเข้าพรรคชาติพัฒนากล้า ว่า ทางพรรคฯโดยนายทะเบียนพรรคฯก็ได้ตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆและได้รับเข้าเป็นสมาชิกพรรค
‘กรณ์’ ยกศาล รธน.เยอรมัน วินิจฉัยกู้เงินเกินเพดาน เตือนสติกู้มาแจก
ที่เยอรมัน ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า ‘รัฐบาลทำผิดกฎหมายจากการกู้เงินเกินเพดานเงินกู้ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้’ รัฐบาลอาจอยู่ยากเพราะหลายโครงการที่พรรคร่วมคาดหวังว่าจะได้รับงบสนับสนุนต้องถูกยกเลิกไป