ทีมผู้ว่าฯ ‘ไทยสร้างไทย’ ประกาศดัน กทม. ศูนย์กลาง Digital economy สร้างระบบรองรับคนรุ่นใหม่ Startup นำร่องปลดล็อกกฎหมาย-ใบอนุญาต อุปสรรคทำมาหากินประชาชน
25 เม.ย. 2565 – น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย พร้อมคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นกับคนรุ่นใหม่ กลุ่มสตาร์ทอัพด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ผลักดันสร้างกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางสตาร์ทอัพและดิจิทัลเทคโนโลยี สร้าง Ecosystem เพื่อให้คนไทยและคนทั่วโลกมาทำงานและอาศัยในกรุงเทพฯ เตรียมศูนย์บ่มเพาะ (Incubation center) และกองทุนสตาร์ทอัพ
น.ต.ศิธา กล่าวว่า หากประเทศไทยยังคงกำกับควบคุมและบังคับใช้กฎหมายที่ล้าหลัง อาจทำให้ประเทศเสียโอกาสจากการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเฉพาะในภาคท่องเที่ยว ภาคธุรกิจ ซึ่งผูกโยงไปถึงภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งที่ประเทศสามารถสร้างประโยชน์อย่างมหาศาลได้จากคนที่ทำธุรกิจนี้ ซึ่งสามารถทำงานจากมุมใดก็ได้ในโลก แต่กฎเกณฑ์ข้อบังคับกลับไม่เอื้อให้กลุ่มสตาร์ทอัพ กลุ่มเศรษฐกิจดิจิทัลสามารถเกิดและเติบโตในประเทศไทยได้ จนทำให้คนเหล่านี้ต้องไปเติบโตในต่างประเทศแทน เพราะประเทศต่างๆเหล่านั้นมีวิสัยทัศน์ มีความพร้อม ในการอำนวยความสะดวกให้กับนักธุรกิจรุ่นใหม่ จนสามารถสร้างเศรษฐกิจ สร้างผลประโยชน์ ให้กับประเทศนั้นๆ ได้มหาศาล
“จะขอเป็นผู้ว่าฯ กทม. คนแรกที่คิดต่างเพื่อคนกรุงเทพฯ โดยจะสร้างระบบและปลดล็อคกฎเกณฑ์ เพื่อรองรับธุรกิจใหม่ๆ ให้เกิดและเติบโตในเมืองไทยได้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งตนจะร่วมกับพี่น้องประชาชนในการผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางซึ่งจะนำเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศ และจะทำให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ฟื้นฟูเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะซบเซาให้ฟื้นกลับคืนมาได้” น.ต.ศิธา ระบุ
ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 กล่าวว่า กรุงเทพฯ ภายใต้การบริหารของตนนั้น จะสนับสนุนคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะการสร้างสตาร์ทอัพและเศรษฐกิจดิจิทัลให้เกิดขึ้น โดยพรรคไทยสร้างไทยมีนโยบายที่จะสนับสนุนคนเหล่านี้ให้เข้าถึงแหล่งทุน กลไกต่างๆ ของภาครัฐ รวมถึงการปลดปล่อยประชาชนให้สามารถทำมาหากินได้ ด้วยการปลดล็อคและพักใบอนุญาต แขวนการบังคับใช้ไว้ชั่วคราว 3-5 ปี โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นอำนาจของ กทม. จะทำทันที ใช้พื้นที่ กทม. เป็นพื้นที่นำร่อง สร้าง “Bangkok legal sandbox” เพื่อให้คนกรุงเทพฯ สามารถกลับมาทำมาหากินได้เร็วที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ประกอบธุรกิจไม่ต้องไปกังวลว่าจะต้องขอใบอนุญาตอย่างไร ขอใบอนุญาตได้ครบหรือไม่ จนอาจเป็นช่องทางให้เกิดการรีดไถ เรียกรับผลประโยชน์ได้ เช่น ในกลุ่มของผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก กลุ่มคราฟต์เบียร์ และในส่วนที่อยู่นอกเหนืออำนาจของ กทม. พรรคไทยสร้างไทยจะประสานงานในสภาและระดับรัฐบาลต่อไป
ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคไทยสร้างไทยให้ความสำคัญกับประชาชน “คนตัวเล็ก” ได้เข้าถึงแหล่งทุนอย่างในภาค SMEs กว่า 3 ล้านราย ซึ่งจ้างงานกว่า 13 ล้านคน สร้าง GDP ถึง 35% แต่เข้าถึงแหล่งทุนในระบบธนาคารเพียง 10% เท่านั้น พรรคไทยสร้างไทยจึงได้สร้าง “กองทุนSMEs” เพื่อให้ SMEs อีก 90% เข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ
รวมทั้งกองทุนสตาร์ทอัพเพื่อให้โอกาสคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสตั้งตัว กองทุนธุรกิจท่องเที่ยว ที่มีคนเกี่ยวข้องหลายสิบล้านคน อีกทั้งธุรกิจท่องเที่ยวยังสร้างรายได้ 15% ของ GDP กองทุนวิสาหกิจชุมชน เพื่อโอกาสของเกษตรกรและลูกหลานเกษตรกรได้มีทุนทำธุรกิจบนพื้นที่และภูมิปัญญาของตัวเอง ทั้งการแปรรูปสินค้าการต่อยอดสินค้าชุมชน และที่สำคัญคือ “กองทุนคนตัวเล็ก” ที่จะเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ช่วยให้พี่น้องสามารถตั้งตัวได้โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อากาศเมืองกรุงอยู่ในเกณฑ์สีเหลือง-ส้ม
เพจกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
รีบเช็กก่อน! กรุงเทพมหานคร อัปเดต 17 จุด อนุญาตจุดพลุปีใหม่
เพจกรุงเทพมหานคร อัปเดต 17 จุด อนุญาตจุดพลุ ปีใหม่ ข้อมูล ณ วันที่ 28 ธ.ค. 67
คนกรุงอ่วม! สภาพอากาศมีผลกระทบสุขภาพถึง 33 พื้นที่
เพจกรุงเทพมหานคร โพสต์กราฟฟิกพร้อมเนื้อหา
ฝุ่น PM 2.5 กทม. แนวโน้มลดลง เกินค่ามาตรฐานเหลือ 15 พื้นที่ อยู่ฝั่งธนบุรีเป็นส่วนมาก
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร
คนกรุงเทพฯ สำลักฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้ม 63 พื้นที่
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2567ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ณ เวลา 07.00 น. : ตรวจวัดได้ 34.3-74.3 มคก./ลบ.ม. พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 63 พื้นที่ คือ
นักวิชาการ เตือนคนกรุงฝุ่น PM 2.5 สูงมาก อากาศข้างนอกเย็นสบาย แต่ออกไปอาจป่วยตายได้
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า กรุงเทพฯช่วงนี้ อากาศข้างนอกเย็นสบายแต่ออกไปอาจป่วยตายได้..