'ลูกชายศาสดาเพื่อไทย' ฟันธง 'ประยุทธ์' ไม่เก่ง เพราะใช้งาน 'ปารีณา-แรมโบ้'

19 เม.ย.2565- นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหารและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ ได้ออกมาเตือนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เรื่องการปล่อยให้ราคาน้ำมันดีเซลทะลุเกิน 30 บาทจะทำให้เงินเฟ้อพุ่งกว่าเดิม และอาจต้องขึ้นดอกเบี้ยที่รัฐต้องจ่ายดอกเบี้ยถึงปีละ 240,000 – 300,000 ล้านบาท จากเงินกู้ที่พลเอกประยุทธ์กู้มาจนหนี้สาธารณะจะทะลุ 10 ล้านล้านบาทแล้ว ซึ่งรัฐบาลจะต้องจัดงบประมาณเพื่อชำระดอกเบี้ยที่สูงนี้ แล้วก็ต้องมารีดภาษีกับประชาชน ทั้งภาษีที่ดินและภาษีหุ้น ซึ่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ทำให้เศรษฐกิจไทยยิ่งทรุด ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่สะท้อนปัญหาที่จะเกิดจากการที่พล.อ.ประยุทธ์ จะปล่อยให้น้ำมันดิเซลขึ้นเกิน 30 บาท แม้จะอ้างว่าจะช่วยครึ่งหนึ่งจากส่วนที่เกินแต่ความจริงก็คือปล่อยให้ราคาน้ำมันดีเซลจะเกิน 30 บาทแน่นอน

การที่นายพิช้ยต้องตอกย้ำบางเรื่องเช่น การทวงคืนเงิน 20,087.42 ล้านบาท จากกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่เป็นเงินของประชาชนกลับคืนมา ก็เป็นเรื่องที่ตนก็ได้ตามทวงถามเหมือนกัน แต่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยตอบและไม่เคยชี้แจง แม้กระทั่งมีการอภิปรายในสภา ก็ยังไม่ตอบ ซึ่งต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ ถึงไม่ตอบ จึงต้องมาตอกย้ำ โดยคาดหวังว่าจะชี้แจงหรือไม่ก็ต้องนำเงินจำนวนนี้มาคืน เพื่อใช้ในการประคองราคาน้ำมันดีเซลไปได้อีกสัก 1-2 เดือนเผื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอาจจะลดลงมาก็ได้ อีกทั้งยังจะได้ชะลอเงินเฟ้อด้วย

นอกจากนี้ ภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่ยังคงเก็บอยู่ก็ควรที่จะลดได้ ทำไมถึงไม่ลด ไหนๆก็ลดลงมาลิตรละ 3 บาทแล้ว จากที่นายพิช้ยเรียกร้องหลายหน อีกทั้งอาวุธก็ยังจะซื้อกันอยู่ ทั้งๆที่คนกำลัวจะอดตายกัน ซึ่งหากพูดแล้วนำไปทำก็คงไม่ต้องมาพูดกันอีกให้เสียเวลา น่าจะฟังครั้งเดียวรู้เรื่อง เพราะรัฐบาลยังมีปีญหาอื่นอีกมากแต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับคิดได้ทีละเรื่อง แต่นี่กลับไม่ทำและปล่อยให้ประชาชนต้องเผชิญปัญหาตามยถากรรม แทนที่จะยอมรับฟังคำแนะนำเหล่านี้ และนำไปพิจารณาปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะที่เคยแนะนำมาก็ไม่เคยผิด แต่กลับกระทำแบบเดิมคือส่งคนไร้ต้นทุนขาดความรู้มาโต้มั่ว แบบยังไม่เข้าใจภาพรวมของผลกระทบทางเศรษฐกิจเลย

“แสดงว่าพล.อ.ประยุทธ์ ก็คงขาดความรู้ความเข้าใจเหมือนกัน จึงต้องใช้คนประเภทเดียวกัน ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของตนเองดูแย่มาตลอด ตั้งแต่ใช้ นายสิระ นางปารีณา และ ใช้นายแรมโบ้ ที่ล่าสุดต้องลาออกไปแล้วเพราะคลิปเสียงล็อตเตอรี่ ซึ่งต่างก็มีพฤติกรรมเหมือนกันหมด คือไม่มีความรู้ความเข้าใจแต่อยากจะพูด ผลคือผู้ที่ให้พูดก็พลอยดูแย่ตามไปด้วยแต่ก็ยังไม่คิดจะแก้ไข และยังคิดใช้วิธีแบบเดิมๆ จึงทำให้คนเกลียดกันมากขึ้น”

นายพชรกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์จึงควรต้องหาคนเก่งมาช่วยงานและช่วยเป็นกระบอกเสียง เพื่อจะได้เรียนรู้ได้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี ไม่ใช่เอาคนที่ไม่รู้เรื่องหรือรู้น้อยยิ่งกว่าพล.อ.ประยุทธ์ มาช่วยทำงาน ซึ่งนอกจากจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้วยังจะสร้างความเบื่อหน่ายให้กับประชาชนที่กำลังจะหมดหวังกับพล.อ.ประยุทธ์ลงไปทุกวันแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กสม. ประณาม 'ทักษิณ' ปราศรัยเหยียดเชื้อชาติคนแอฟริกัน ย้ำไทยอยู่ภายใต้ CERD

กสม.ซัด 'ทักษิณ' จ้อเหยียดเชื้อชาติคนแอฟริกัน อบรมคนมีอิทธิพลทางสังคมไม่ควรทำ หวั่นโดนขยายความรุนแรง ซ้ำรอยความสูญเสียในอดีต

‘สรวงศ์’ โต้รัฐบาลรับลูกพ่อนายกฯ อ้างเป็นแค่วิสัยทัศน์อดีตผู้นำ

ทำเนียบรัฐบาล นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร การกา

เปิดคิวเดินสายรัวๆ ‘ทักษิณ-พท.’ ลุยหาเสียงทั่วปท. หวังยึดเก้าอี้ นายกอบจ.ครบ 16 จว.

ทักษิณ-พท.โหมหนัก ลุยหาเสียงทั่วประเทศ ยึดเก้าอี้นายกฯอบจ. ครบ 16 จังหวัด เปิดคิวเดินสายรัวๆ ขึ้นรถม้าลำปางอาทิตย์นี้ จากนั้น ถึงคิวอีสานสะเทือน เปิดหน้า ชนสีน้ำเงิน

เพื่อแม้วประสานเสียง 'ทักษิณ' ปราศรัยเดือดเชียงราย ทำได้ไม่ขัดระเบียบ กกต.

'วิสุทธิ์' ป้อง 'ทักษิณ' ปราศรัยเดือดเชียงราย อ้างไปแล้วไม่พูดหาเสียงจะไปทำไม 'ชูศักดิ์' เสริมอีกแรง ตามระเบียบจะพูดอะไรก็ได้ แจ้ง กกต. เรียบร้อย