17 เม.ย. 2565 – นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ปริญญ์เอฟเฟค เลือกตั้ง กทม. กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานครโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,548 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15 – 16 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 48.5 ติดตามข่าว เลือกตั้งผู้ว่า กทม. มากถึงมากที่สุด ร้อยละ 32.3 ติดตามปานกลาง และร้อยละ 19.2 ติดตาม น้อยถึงไม่ติดตามเลย
เมื่อถามถึง การรับรู้ข่าว นาย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ของคน กทม. พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 46.3 รับรู้มากถึงมากที่สุด ร้อยละ 31.3 รับรู้ปานกลาง และร้อยละ 22.4 รับรู้น้อย ถึง ไม่รู้เลย
ที่น่าพิจารณาคือ ผลกระทบของข่าว นาย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ต่อการตัดสินใจเลือกตั้งผู้ว่า กทม. หลังจากทดสอบค่านัยสำคัญทางสถิติ พบว่า ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ต่อ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ แม้มีค่าติดลบ คือ -.029 ก็ตาม นอกจากนี้ ไม่มีนัยสำคัญต่อ ผู้สมัครคนอื่นด้วย เช่น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง แม้ติดค่าลบจากข่าว นายปริญญ์ฯ เช่นกัน คือ -.054 แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ มีค่าเป็นบวก คือ +.054 แต่ไม่มีนัยสำคัญ
ที่น่าสนใจคือ มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. สองคนที่ผลการทดสอบ ปริญญ์ฯ เอฟเฟค พบว่า มีค่าผลกระทบเป็นบวก และมีนัยสำคัญทางสถิติคือ นายสกลธี ภัททิยกุล ได้ +.161 และมีนัยสำคัญทางสถิติกว่าร้อยละ 99 รวมถึง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่ได้รับผลกระทบในทางบวกคือได้ +.091 และมีนัยสำคัญทางสถิติกว่าร้อยละ 90 ตามลำดับ ส่วนผู้สมัครท่านอื่น ทดสอบผลกระทบของ ปริญญ์ เอฟเฟค แล้ว ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ความหมายคือ ไม่มีผลกระทบอะไรต่อการตัดสินใจเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ของคน กทม.
เมื่อถามถึง การตัดสินใจเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ของ คน กทม. เปรียบเทียบระหว่าง ครั้งแรก และ ครั้งที่สอง หลังมีการลงสมัครรับเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว พบว่า แนวโน้มคนจะเลือก เพิ่มขึ้นทุกคน แต่ อันดับสลับกันอยู่บ้าง กล่าวคือ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ยังคงนำเพิ่มจาก ร้อยละ 20.3 ในครั้งที่ 1 มาเป็น ร้อยละ 24.5 ในครั้งที่ 2 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.8 ในครั้งที่ 1 มาเป็น ร้อยละ 13.9 ในครั้งที่ 2
ที่น่าสนใจ จาก ปริญญ์ เอฟเฟค ในการสำรวจครั้งนี้ พบว่า นายสกลธี ภัททิยกุล เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.7 ในครั้งที่ 1 มาเป็นร้อยละ 10.1 ในการสำรวจครั้งล่าสุด และขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ในขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7.1 มาอยู่ที่ร้อยละ 9.8 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.5 มาอยู่ที่ร้อยละ 5.5 และอื่น ๆ ได้แก่ นางสาวรสนา โตสิตระกูล น.ต.ศิธา ทิวารี เป็นต้น เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.9 มาอยู่ที่ร้อยละ 7.5 ในขณะที่ กลุ่มคนไม่ตัดสินใจลดลงจากร้อยละ 48.7 มาอยู่ที่ร้อยละ 28.7 ในการสำรวจครั้งนี้
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า การสำรวจการรับรู้ ติดตามและผลกระทบของเหตุการณ์ส่วนตัวของผู้มีความเกี่ยวข้องในทางการเมืองคนหนึ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงอิทธิพลของข้อมูลข่าวสารการเมืองระดับหนึ่ง เมื่อนำการรับรู้ต่อเหตุการณ์ส่วนตัวของนักการเมืองดังกล่าวไปหานัยสำคัญทางสถิติกับแนวโน้มการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. พบว่า มีผลกระทบต่อการตัดสินใจที่น่าสนใจดังนี้ ผู้สมัครในนามพรรคเดียวกันกับผู้ตกเป็นข่าวได้รับผลกระทบทางลบ แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่กลับไปมีผลกระทบทางบวกและมีนัยสำคัญต่อผู้สมัครที่ไม่ได้อยู่ในพรรคเดียวกันแต่อยู่ในฝากฝ่ายเดียวกัน ตามทฤษฎีอัตลักษณ์กลุ่มทางสังคม (Social Group Identity)
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ที่น่าสนใจคือ ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง ประชาชนคนกรุงเทพมหานครกระจายตัวตัดสินใจเทคะแนนให้กับผู้สมัครแต่ละคนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกคนเปรียบเทียบระหว่างการสำรวจครั้งแรกและครั้งที่สองหลังจากมีการสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะผลกระทบจาก ปริญญ์เอฟเฟค ส่งผลให้นายสกลธี ภัททิยกุล อาจจะเป็นเพราะฐานคะแนนนิยมจากฝั่งเดียวกันของผู้สมัครสามคนในกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลทำให้ นายสกลธีฯ ขึ้นนำเบียดกันกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อยู่เล็กน้อย ในผลการศึกษาครั้งนี้ และที่น่าจับตามองต่อไปคือ ปริญญ์เอฟเฟค จะมีผลยั่งยืนยาวนานเพียงไรต่อการตัดสินใจเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของประชาชน คน กทม. และอาจจะมีปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น นโยบาย ผลงาน และความเป็นนักบริหารแก้ปัญหาเก่งให้คน กทม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปชช.หวั่นไหว 'การเมือง-พิษเศรษฐกิจ' กระทบเงินในกระเป๋า
ซูเปอร์โพล ชี้การเมืองและเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อความหวั่นไหวของประชาชน โดยเฉพาะเงินในกระเป๋ามาอันดับหนึ่ง
'ภูมิธรรม' ถกสภากลาโหมนัดแรก ฉะ 'วิโรจน์' โยงเรื่องการเมือง ทำประเทศไม่สงบ
'ภูมิธรรม' ถกสภากลาโหมนัดแรก กำชับกองทัพทำความเข้าใจระเบียบลงโทษกำลังพล จ่อ คัดเลือกครูฝึกรุ่นใหม่ หลัง มีข่าวทหารเกณฑ์ถูกซ้อมทรมาน ฉะ 'วิโรจน์' โยงเป็นประเด็นการเมือง ดิสเครดิตรัฐบาล ทำบ้านเมืองไม่สงบ ยืนยัน รัฐมนตรี ไม่เคยคิดหนีตอบกระทู้ แต่ติดภารกิจช่วยประชาชนน้ำท่วม ลั่นไม่ได้หน้าที่แค่อย่างเดียว
ชำแหละยิบ! ฝ่ายค้านอ่อนแอ บ่อนทำลายสภาฯ เลี่ยงตรวจสอบรัฐบาล พุ่งเป้าดิสเครดิตกองทัพ
กรณี สส.พรรคประชาชน นำเรื่องอาหารและเบี้ยเลี้ยงของทหารเกณฑ์มาอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรเป็นการแสดงออกถึงความไร้ประสิทธิภาพอย่างร้ายแรงของการใช้เวลาในสภา
'วิโรจน์' อัดกองทัพซื้อถาดหลุมเอาไปกันกระสุนได้หรือไม่ นำงบไปเพิ่มค่าอาหารดีกว่า
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรมพลาธิการทหารบก และกองทัพบก ออกมาชี้แจง ภายหลังการอภิปรายเรื่องถาดหลุมรับประทานอาหาร
‘สกลธี’ สอนมวยเลือกตั้งทั่วไปได้เยอะ ไม่ได้แปลว่าท้องถิ่นจะประสบความสำเร็จ
เห็นบางคนหาเสียงแล้วยังเพลียเลยครับ เพราะยังไม่รู้ว่าอำนาจหน้าที่ท้องถิ่นกับระดับชาติต่างกันยังไง หาเสียงมั่วซั่วไปหมด
ชำแหละ! ผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ทำไม 'ปชป.' ติดลบ 'พท.' คะแนนบวก
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า คำตอบ:เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ทำไม เพื่อไทยคะแนนบวก ประชาธิปัตย์ ติดลบ