'บิ๊กตู่' ห่วงความปลอดภัยช่วงสงกรานต์ไม่อยากเห็นการสูญเสีย

“บิ๊กตู่” ขอบคุณสื่อร่วมทำงานกันมาท่ามกลางวิกฤติ หวังร่วมงานราบรื่นนำพาประเทศเอาชนะอุปสรรค รับเป็นห่วงความปลอดภัยช่วงสงกรานต์ ไม่อยากเห็นการสูญเสีย

12 เม.ย. 2565 – ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้ก่อนเริ่มประชุมครม.ยินดีที่ได้มีโอกาสร่วมสงกรานต์แบบไทยๆ กับครม.และเจ้าหน้าที่ ตามวิถีธรรมเนียมปฏิบัติประเพณีไทยแบบนิวนอร์มอล ถือเป็นสิริมงคลในโอกาสขึ้นปีใหม่ไทย และเป็นนิมิตรหมายอันดีในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆในปีนี้ และในฐานะที่เป็นนายกฯ ขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณพี่น้องสื่อทุกท่านอย่างจริงใจ ปีที่ผ่านมาได้ช่วยเผยแพร่ข่าวสารภาครัฐ และนโยบายของรัฐบาลไปสู่พี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี เพื่อให้เกิดการรับรู้ความเข้าใจ พร้อมช่วยกันต่อต้านข่าวปลอมที่เกิดขึ้น

“ผมถือว่าสื่อมวลชนมีความสำคัญยิ่งในการสร้างการรับรู้ นำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐได้อย่างจริงจัง ถ้าเราไม่มีพวกท่านคงทำงานได้ลำบากยิ่งกว่าเดิม อันนี้ต้องขอขอบคุณ ซึ่งในความรู้สึกของผมกับสื่อ ผมรู้สึกผูกพัน และเคารพในการทำงานของพวกท่านมาโดยตลอดที่เราต้องทำงานร่วมกัน ท่ามกลางอุปสรรคและความเสี่ยง ความท้าทายต่างๆในช่วงวิกฤติที่ผ่านมา ทั้งในอดีตและปัจจุบัน พร้อมๆกับพวกเราทุกคน เราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกันราบรื่น ในการช่วยนำพาประเทศไทย สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาพร้อมๆกันไปได้ด้วยดี”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า วันที่ 13 เม.ย.เป็นวันเริ่มวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ขอให้เป็นสงกรานต์ที่ปลอดภัย เป็นไปตามขนบธรรมเนียมของไทย เตรียมความพร้อมตัวเองให้ดีในการขับรถ อย่าดื่มสุรา พักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสอบยานพาหนะ ปฏิบัติตามกฎจราจร ซึ่งสถิติที่ได้รายงานมาถึงวันนี้น้อยลงกว่าปีก่อน แต่ไม่ให้มีเลยจะดีกว่าที่จะมีการสูญเสีย เพราะไม่อยากให้เกิดการสูญเสียใดๆทั้งสิ้น จึงได้ย้ำเรื่องความปลอดภัย ทั้งการอำนวยความสะดวกบนท้องถนน มีเจ้าหน้าที่ตลอดเส้นทาง กวดขันแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด แต่ละพื้นที่จะต้องรักษาพื้นที่ตัวเองให้เกิดความปลอดภัย ชุมชนปลอดภัย คนที่จะได้เดินทางไปมาหาสู่กันได้มากขึ้น รัฐบาลได้หารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และศบค.ได้หารือเตรียมความพร้อม ระดมสรรพกำลังและบุคคลากรทางการแพทย์ ยาเวชภัณฑ์อย่างเพียงพอต่อผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อาจจะมากขึ้น

“ผมในนามรัฐบาล และนายกฯขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการพักผ่อน ใช้เวลาให้มีคุณภาพกับครอบครัว บุคคลอันเป็นที่รัก ปลอดโรค ปลอดภัยมากขึ้น ผมเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ซึ่งเราต้องช่วยกัน เราไม่สามารถดูแลได้ 24 ชั่วโมงในเวลาที่พวกท่านเป็นอิสระ เวลาเกิดอุบัติเหตุที่เสียใจทุกครั้งไป ตนก็เสียใจกับการสูญเสีย ไม่เคยสบายใจกับเรื่องเหล่านี้”นายกฯกล่าวและว่า ถนนเยอะขึ้น รถก็วิ่งได้เร็วขึ้น แต่ในช่วงสงกรานต์แออัดขับเร็วไม่ได้ แต่ก็เห็นมีบาดเจ็บสูญเสียทุกที ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำเตือนมาโดยตลอดเรื่องความปลอดภัย อย่างว่าคนจ้องทำกับคนระวัง อย่างว่าพื้นที่มันกว้าง พื้นที่มันใหญ่ คนมันเยอะ แต่ก็พยายามทำเต็มที่ ย้ำไปแล้วทุกหน่วยงานรับทราบอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของเขาจะต้องไปย้ำอะไรบ่อย ในเมื่อแต่งตั้งมาจะต้องไปย้ำๆอะไรบ่อยๆ ฉะนั้นต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พีระพันธุ์' ข้องใจนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด 'คนเดียวกันพูดคนละอย่างได้อย่างไร' จี้ป.ป.ส.แจง

'พีระพันธุ์' ข้องใจ นำกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติด 'คนเดียวกันพูดคนละอย่างได้อย่างไร' เล็งให้ ป.ป.ส.แจง หลังนโยบายชักเข้าชักออก ขอคุยก่อนประชุม ย้ำต้องอธิบายให้ได้

“สมศักดิ์” เห็นชอบตั้ง “ชาญเชาวน์” อดีตปลัดยุติธรรม จับมือหน่วยงานเกี่ยวข้องปราบบุหรี่ไฟฟ้า กวดขัน “ห้ามพกพา-สูบ” ในสถานที่ราชการ สนามบิน

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คนที่ 1

'เศรษฐา' สั่ง สธ.เร่งเพิ่มครูสอนพยาบาล

'รัดเกล้า' เผย อนุมัติงบเพื่อยกระดับโรงพยาบาลในจังหวัดนครปฐม-สระแก้ว นายกฯ ย้ำมีฮาร์ดแวร์แล้วต้องมีซอฟต์แวร์ด้วย สั่ง สธ. เพิ่มจำนวนครูสอนพยาบาล

อย่าเอากัญชามาล้างแค้นการเมือง ! “หมอปัตพงษ์” วิเคราะห์ท่าที “สมศักดิ์” หลังเผยไทม์ไลน์นำกัญชากลับเป็นยาเสพติด

รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ หน่วยเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้ความเห็นภายหลังนายสมศักดิ์ เทพสุทิน

"สันติ" รมช.สธ. ยกต้นแบบ รพ.อัจฉริยะ รพ.ปากช่องนานา-เทพรัตน์ จ.นครราชสีมา ดึงเอกชนร่วมพัฒนาเขาใหญ่สู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสร้างรายได้ประชาชนยั่งยืน

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจราชการก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์