'หมอวรงค์' ชวนเกาะติดปมบัตร 2 ใบ หวังปลดล็อกทางออกประเทศไทย

7 เม.ย.2565 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้

ติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

การแก้ไขรัฐธรรมนูญจากบัตรหนึ่งใบ มาสู่บัตรสองใบ กำลังถึงจุดที่จะนำไปสู่ปัญหา เพราะความเร่งรีบ รวบรัด เพื่อประโยชน์ของนักการเมือง ไม่ใช่ประโยชน์ประชาชน

อย่างน้อยปรากฏการณ์ มุ้งการเมืองเริ่มมีให้เห็น และมุ้งจะยิ่งเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การโกงชาติบ้านเมือง แม้บางพรรคที่บอกว่าจะแลนสไลด์ ความเป็นมุ้งในอดีต จะไม่ได้สร้างปัญหาแก่พรรคเขา แต่เขาใช้ระบบแบ่งกันกินและแบ่งกันโกง จึงควบคุมระบบมุ้งภายในพรรคได้ แต่สุดท้ายผู้นำการโกง ก็ไม่มีแผ่นดินอยู่

การแก้ไขระบบบัตรสองใบ ยังมีลักษณะ "มั่ว" เพราะการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังมีข้อถกเถียงระหว่าง เอาคะแนนรวมของ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ได้ หารด้วย 100 เพื่อให้พรรคที่มีเงินมาก ได้บัญชีรายชื่อเป็นของแถม หรือจะเอาคะแนนรวมมาหาร 500 เพื่อให้ได้ ส.ส.พึงมี เพราะพรรคใหญ่จะไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อแถม

เพราะต่างฝ่ายต่างอ้างรัฐธรรมนูญคนละมาตรา ฝ่ายที่ต้องการให้กินรวบเหมือนรัฐธรรมปี 2540 ด้วยการหารด้วย100 และเกิดเผด็จการรัฐสภา จะเป็นพรรคทุนหนา เงินมาก จะอ้างมาตรา 91ของรัฐธรรมนูญที่แก้ไข

แต่ฝ่ายที่ต้องการให้มี ส.ส.พึงมี ทุกคะแนนจะไม่ตกน้ำ จะอ้างเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่ต้องการจำนวน ส.ส.ที่ได้ สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชน และอ้าง มาตรา 93 และ 94 ของรัฐธรรมนูญ เพราะในสาระยังระบุ ส.ส.พึงมีอยู่

ยิ่งเป็นการสะท้อนถึง ความ "มั่ว" ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยความเร่งรีบ รุกรี้รุกรน เพราะแก้เพื่อตนเอง ผลจึงออกมาเช่นที่เห็น

ล่าสุดคุณหมอระวี กำลังจะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่า การแก้รัฐธรรมนูญจากบัตรหนึ่งใบ มาสู่บัตรสองใบ กำลังละเมิดสิทธิ์พรรคที่มี ส.ส.น้อย

ด้วยการใช้เสียงข้างมากลากไปเพื่อประโยชน์พรรคการเมืองใหญ่ และทำลายระบบทุกคะแนนมีความหมาย ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งถือว่าจะเป็นการแก้ไขที่เป็นโมฆะ

ช่วยกันติดตามเรื่องนี้กันครับ อาจจะเป็นการปลดล็อกและเป็นทางออกของประเทศ ไม่ปล่อยให้พวกพรรคการเมือง เอาคำว่าประชาธิปไตยมาหลอกประชาชน เพียงแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่ตนเองต้องการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แฉอีโม่ง วิ่งเต้นล้มปมชั้น 14 เตือนหยุดทำเถอะ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ให้จับตาดูวันที่ 15 ม.ค.ที่แพทยสภาขีดเส้นตายให้แพทย์รักษาทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ส่งรายงานการรักษามาตรวจสอบการเอื้อหนีติดคุก แล้วยังต้องติดตามผลตรวจสอบของ ป.ป.ช.กรณีชั้น

ศาลรธน. มีมติเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง ปมจำกัดสิทธิสมัคร สว.

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัจฉัย กรณีที่ นายเสฐียร ศรีเมือง (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ดังนี้ 1.การกระทำของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)​

พ่อนายกฯ ลั่นพรรคร่วมรัฐบาลต้องอยู่ด้วยกันจนครบเทอม

นายทักษิณ​ ชิน​วัตร​ อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์การเมืองในปี 2568​ ว่า​ การเมืองคงไม่มีอะไร ยังเหมือนเดิม พรรคร่วมรัฐบาลก็เหมือนเดิม การที่ไม่เห็นด้วยกับอะไรกันบ้าง ก็เป็น