7 เม.ย. 2565 - ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัดราชบุรี อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดว่า น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ยึดถือ ครอบครอง และใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเป็นส.ส.กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรง และกรณีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 11 ข้อ 17 ประกอบ ข้อ 27 วรรคสอง ให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยต่อไป
โดยศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้องเเละให้น.ส.ปารีณา หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งเเต่เมื่อวันที่ 25 มี.ค.64
โดยวันนี้ นายทิวา การกะสัง ทนายความเป็นตัวแทนเดินทางมาฟังคำพิพากษา
นายทิวา กล่าวก่อนฟังคำพิพากษาว่า คดีดังกล่าวไม่ใช่คดีอาญาเป็นเรื่องความผิดจริยธรรมผู้ถูกร้องจึงไม่ต้องไปปรากฏตัว จึงเป็นตัวแทนนางสาวปารีณา มาฟังคำตัดสินแทน เเละไม่จำเป็นต้องเลื่อนการอ่านคำตัดสิน ส่วนมั่นใจ จะชนะคดีหรือไม่ ไม่สามารถแสดงความเห็นได้ เป็นเรื่องของศาลจะพิจารณา สำหรับ ที่ดิน ส.ป.ก. 711 ไร่ เป็นการรับที่ดินต่อจากบิดา ก่อนเป็น ส.ส. และ มีพื้นที่ไม่ถึง 500 ไร่
มีการแบ่งที่ดินออกเป็น 2 ส่วน และ ที่ดินแปลงหนึ่งได้มีการคืนให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินไปแล้ว เพื่อให้สำนักงานที่ดิน นำไปปฏิรูปตามที่ประกาศ จึงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งทนายได้ชี้แจงว่าการได้มาของที่ดินและการส่งคืนที่ดินไปแล้ว ยังไม่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงใด ๆ
ทั้งนี้ตามคำร้องของ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องผิดจริยธรรม 2 มาตรา ในการพิจารณาของศาล ฟังได้ข้อยุติว่าเหตุครอบครองที่ดิน ป่าไม้อยู่ในสำนักงานปฏิรูปคืนให้ปี 2540 ที่เป็นป่าสงวนเป็นเรื่องกำหนดแนวเขต การทำแผนที่เส้นหนึ่งทำให้เกิดการคลาดเคลื่อนถึงเกิดข้อถกเถียงว่าเป็นของป่าสงวนหรือไม่ หากมองเจตนาไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องจับระวางแผนที่
ประเด็นที่ศาลจะวินิจฉัยถือการถือครองที่ดินจากบิดาปี 2555 แล้วทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐอย่างร้ายแรงหรือไม่ เพราะข้อเท็จจริงยุติแล้วว่าที่เป็นของบิดา แล้วน.ส.ปารีณามาบริหารปี 2555 เป็นการบริหารก่อนเป็น ส.ส. และทำต่อเนื่องเป็นการเห็นประโยชน์ส่งนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม ตามข้อ 27 มาตราจริยธรรม
นายทิวา กล่าวว่า ยังไม่ได้พบกับน.ส.ปารีณา ได้รับการแจ้งผ่านทางไลน์ เท่านั้น จากนางสาวปารีณาว่าวันนี้ ไม่ได้มารับฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง ส่วนหากศาลชี้ว่ามีความผิดจริยธรรม จะส่งผล ต่อการสมัครรับเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกฎหมายเลือกตั้ง โดย น.ส.ปารีณาน้อมรับคำพิพากษาไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ส่วนฝ่าฝืนคดีจริยธรรมนี้สิ้นสุดในชั้นศาลนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 87 ระบุว่า เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนและมีความเห็นว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาวินิจฉัย โดยในวรรคสาม ระบุว่า ให้นำความในมาตรา 81 และมาตรา 86 มาใช้บังคับด้วยอนุโลม
มาตรฐานทางจริยธรรมฯมาตรา 81 ระบุว่า กรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประทับฟ้องตามมาตรา 77 ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา เว้นแต่ศาลฎีกาฯมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ในกรณีที่ศาลฎีกาฯ พิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาให้ผู้ต้องคำพิพากษานั้นพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น และจะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปีด้วยหรือไม่ก็ได้ โดยวรรคสองระบุใจความสำคัญว่า หากถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแล้ว ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งทางการเมืองอีกตลอดไป
มาตรา 86 ระบุว่า กรณีคำพิพากษาของศาลฎีกาฯถึงที่สุดให้ยกฟ้อง ถ้าผู้ดำรงตำแหน่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และยังมิได้พ้นจากตำแหน่งไปก่อน ให้กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลฎีกา ตัดสิทธิสมัครเลือกตั้ง 10 ปี 'สมชาย เล่งหลัก' เจ้าตัวดิ้นสู้ยื้อเก้าอี้ สว.
นายสมชาย เล่งหลัก สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ ภายหลังศาลฎีกาออกประกาศแจ้งคำสั่งศาลฎีกา คดีเลือกตั้งหมายเลขดำที่ ลต สส 4/2567 หมายเลขแดงที่ 338/2567 ระหว่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง นายสมชาย ผู้คัดค้าน เรื่องพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ปธ.ศาลฎีกา เปิดใช้งานบริการรับคำร้องแจ้งคำสั่งในคดีคุ้มครองสวัสดิภาพ เด็กเเละครอบครัว
ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถ.กำแพงเพชร นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานในพิธีเปิดระบบบริการรับคำร้อง
'อดีตสว.' จับตาศาลฎีกาชี้ชะตา 'สมชาย เล่งหลัก' กระทบเลือก สว. โมฆะคนเดียวหรือทั้งสภาฯ
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า 23 กันยายนนี้มีลุ้น #สว.หลุดเก้าอี้ #กกต.มีหน้าที่ #โมฆะคนเดียวหรือทั้งสภา
ปปช. เล็งสอบ 44 อดีตสส. พท.-พปชร. ฮั้วเลือกซ่อม
ประธาน ป.ป.ช.เผยจ่อเรียก 44 สส.อดีตก้าวไกลมาชี้แจง ผิดจริยธรรมหรือไม่หลังลงชื่อแก้ ม.112 พร้อมส่งศาลฎีกาตามขั้นตอนต่อไป ด้าน "หมอวรงค์"
'บิ๊กกุ้ย' ไม่กังวล สอบ 44 สส.ก้าวไกล คดี 112 รับชงศาลไม่ทันเกษียณ
'ประธาน ป.ป.ช.' ไม่กังวล ถูกจับตาปมสอบ 44 สส.อดีตก้าวไกล ผิดจริยธรรมหรือไม่ คดีลงชื่อแก้มาตรา 112 พร้อมส่งศาลฎีกาตามขั้นตอนต่อไป
ศาลฎีกานักการเมือง ยกฟ้อง 'กิตติรัตน์' ไม่ผิดระบายข้าวเอื้อบริษัทเอกชน
ศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง ศาลอ่านคำพิพากษา ในคดี อม.17/2565 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง จำเลย ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ (กรณี ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด