28 มี.ค.2565 - นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกระบวนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและการเลือกตั้งส.ส. ที่อยู่ในชั้นกรรมาธิการว่า ปัญหาสำคัญที่ กรรมาธิการฯควรถกเถียง คือบทบัญญัติที่ไม่มีการกำหนดส.ส.พึงมี เช่นพรรคการเมืองได้รับคะแนนเสียงเท่าใด เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์เท่าใดของทั้งหมด ก็จะได้จำนวนที่นั่งตามเปอร์เซ็นต์นั้นๆควรถูกหยิบยกมาพูดคุยมากที่สุดหรือไม่ แต่ที่เห็นมีการแก้ไขใหม่ จะกลับไปใช้รูปแบบเหมือนรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นบัตร 1 ใบหรือ 2 ใบ จึงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหานี้ การกลับไปใช้บัตร 2 ใบก็สามารถคิดคำนวณส.ส.พึงมีได้ โดยใช้จำนวน 500 เป็นตัวหาร ออกมาเป็นส.ส.พึงมี หากพรรคใดได้ส.ส.เขตเท่ากับหรือเกินจำนวนส.ส.พึงมีหรือพึงได้แล้ว ก็จะไม่ได้รับการคํานวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แต่รัฐธรรมนูญที่แก้ไขใหม่กำหนดให้มีส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เพียง100 คน แม้มีการกำหนดส.ส.พึงมีสัดส่วนที่จะมาแก้ไขความไม่สอดคล้องระหว่างคะแนนที่ได้รับกับที่นั่งที่ได้จริงก็จะไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดระบบผู้ชนะกินหมด หรือ Winner take all เช่นที่เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ ปี 2540และ 2550 พรรคขนาดเล็กที่เคยได้ 10 ที่นั่ง อาจจะเหลือเพียง 5 หรือ 6 ที่นั่งเท่านั้น หรืออาจจะน้อยกว่านั้นก็เป็นได้ เพราะความนิยมของพรรคขนาดเล็กที่ไม่สูงเท่าพรรคขนาดใหญ่
ส่วนตัวไม่ขัดข้องหากจะใช้เบอร์เดียวทั้ง 2 ระบบทั่วประเทศ แต่เรื่องใหญ่ที่ควรถกเถียงกัน คือระบบควรจะมีส.ส.พึงมีหรือไม่ หากกังวลว่าจะมีพรรคเล็กเช่นพรรคละไม่เกินหนึ่งคนมากเกินไป ก็สามารถกำหนดได้ว่าต้องได้คะแนนเสียงทั้งประเทศเท่าใด เช่น 1% หรือ 2%จึงจะได้รับการคำนวนหา ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ถกเถียงกันขณะนี้คือประเด็นว่า ตนเองจะได้เปรียบหรือได้ประโยชน์มากน้อยเพียงใดจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การถกเถียงไม่อยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรม และการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกสัดส่วนมีโอกาสที่จะได้ ส.สของตนเอง และหากประชาชนที่ต้องการมีทางเลือกอื่นๆไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ท้ายที่สุดก็จะเหลือเพียง 4 ถึง 5 พรรคใหญ่ หรือพรรคขนาดกลางเท่านั้น ดังนั้นควรเปิดช่องให้พรรคขนาดเล็กสามารถเติบโตได้” นายโภคิน กล่าว
นายโภคินกล่าวอีกว่า พรรคไทยสร้างไทยพร้อมต่อสู้ทุกรูปแบบ ทุกกติกาการเลือกตั้ง หากอยากเห็นประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลง ภายใต้กติกาที่เป็นธรรมอย่างแท้จริง ต้องคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่คำนึงว่าพรรคของตนเองจะได้รับชัยชนะเพียงอย่างเดียว โดยหารูปแบบหรือกลไกเพื่อก้าวไปสู่สิ่งที่ต้องการ ทั้งนี้หากเริ่มต้นโดยไม่มีความเป็นธรรม ตั้งแต่กระบวนการหรือระบบเลือกตั้งแล้ว ปัญหาต่างๆก็ไม่สามารถจบสิ้นได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE ผู้คุมเกมไร้หลัก โลกไร้ระเบียบ..! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
พรรคส้มกลับลำ ดัน 'เท่าพิภพ' เสียบแทน อดีตผู้สมัครสส.สีเทา ชิงเก้าอี้เขตบางพลัด-บางกอกน้อย
เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร อดีตสส.พรรคประชาชน โพสต์ภารกิจฟื้นความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อพรรคสำคัญที่สุด พร้อมกลับมารับใช้คนกรุงเทพ
'ยศชนัน' โวยป้ายหาเสียงถูกทำลาย วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ มั่นใจรักษาฐานเสียงชายแดน
‘ยศชนัน’ วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ หลัง ’เพื่อไทย’ ถูกทำลายป้ายหาเสียงหลายเขต บอกไม่ถูกต้อง หลังถูกวิจารณ์เป็นพรรคตัวแปรอันดับ3 เหตุ ปชช. ยังไม่ตัดสิน มั่นใจ รักษาฐานเสียงจังหวัดชายแดนได้ เชื่อประชาชนเข้าใจ
ส้มหวาน! 'เนวิน' ยื่นให้ 'อนุทิน' รับไปกิน บอกไม่กลัวเมล็ดติดคอ
ภายหลังนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้นั่งบวงสรวงใต้ฉัตรเงินต้นที่ 37 จากฉัตรทั้งหมดที่มีทั้งสิ้น 360 ต้นซึ่งตรงกับหมายเลขผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย
'ทักษิณ' แฮปปี้รับปีใหม่ในเรือนจำ ลูกเยี่ยมเล่าย้อนอดีตสมัยไทยรักไทยได้เบอร์9 กวาด 377 เสียง
‘อิ๊งค์’ เผย ‘ทักษิณ’ สดชื่นแฮปปี้รับปีใหม่ 2569 พร้อมเล่าความหลังปี 2548 พรรคไทยรักไทยสมัยทักษิณ จับได้เบอร์ 9 กวาดเสียง สส.377 เสียง มองเพื่อไทยได้เบอร์ 9 เป็นเลขหลักเดียว คนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำง่าย เลือกง่าย ให้กำลังใจเพื่อไทยคว้าชัยเลือกตั้งใหญ่
พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (32)
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475

